Monday, June 29, 2009

Blood Donations Today



เมื่อวานไปบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทยมาครับ เลยกำหนด 3 เดือน(ที่ต้องบริจาค) มาเดือนกว่าแล้วด้วย


แม้จะเป็นวันอาทิตย์ แต่แปลกครับ คนเยอะมาก ไม่รู้จะเกี่ยวกับ ที่จุฬา มีซ้อมรับปริญญาหรือเปล่า ก็เป็นไปได้เหมือนกันนะ


หลังจากกรอกรายละเอียดผู้บริจาคโลหิตเป็นประจำ ก็ไปที่จุดวัดความดัน เจาะความเข้มของเลือด(ไม่เจ็บเลย) เดี๋ยวนี้เขาใช้ที่เจาะคล้ายๆปากกาครับ สมัยก่อนเป็นเข็ม แท่งๆ อันนั้นผมว่าเจ็บกว่าเข็มใหญ่อีก 555


คราวนี้มาแปลกครับ มีให้ไปรับของด้วย ซึ่งเปิดดู คือ นมตราหมี สองกระป๋อง(โด๊ป เต็มที่เลย) ทุกทีไม่มีครับ ช่วงนี้อาจจะมีอะไรพิเศษก็ได้


ก่อนบริจาค นอกจากจะควรกินข้าวมาก่อนแล้ว( ไม่ใช่กินแล้วบริจาคเลยนะครับ ต้องเว้นซัก 1 ชั่วโมงก่อนบริจาค) ก็ควรจะดื่มน้ำมากๆ อีกด้วย


แปลกที่สอง มีเครื่องดื่ม เป๊บทีน ออริจินอล ซอยเพ๊บไทน์ แจกด้วย(ผมเคยกินครั้งหนึ่งครับ พี่ชายซื้อมาให้กิน บอกว่ากินแล้วบอกด้วยนะ ว่าฉลาดจริงหรือเปล่า ก็เหมือนกินน้ำตาลน่ะครับ ผมว่า 5555) ขวดนึงไม่ใช่ถูกๆ เกือบร้อยบาทหรือมากกว่านั้น(ถ้าจำไม่ผิด) สายรกมันว่าไม่อร่อย ผมเลยรับเละ ดื่มของมันด้วย(ถ้าหากมีคำเตือนห้ามดื่มเกินวันละสองขวด สงสัยจะแย่555) แต่ดื่มแล้วเขาว่าดี ก็ต้องดื่มซะหน่อย


เท่าที่ดู มีห้องบริจาคเพิ่มอีกห้องครับ คงรองรับคนได้มากขึ้นด้วย


วันนี้คนเจาะที่แขน นอกจากหน้าตาจะขาว หมวย แล้ว มือก็เบามากๆ เจาะเข้าไป แทบไม่รู้สึก ตอนดึงออก แม้จะเป็นอีกคน ก็ไม่เจ็บ(จำได้ว่า ถ้าเจอคนเจาะไม่ดี นอกจากจะระบมที่เส้นเลือดเป็นหลายอาทิตย์แล้ว ตรงแผลที่เจาะก็มีสีดำ อักเสบ บวมไปเลยครับ เรื่องยก Weight วิดพื้น ไม่ต้องพูดถึง หยุดยาว 555)


บริจาคเสร็จ ก็มีห้องให้นั่งพักกินขนม กินน้ำ กินนม มีนักเรียนสาวๆอาสาสมัครอยู่หลายคน ช่างเสียสละดีจริงๆ


แปลกที่สามเจอเพื่อนครับ ชื่อวูยิน ปกติ ไม่ค่อยได้เจอเพื่อนที่นี่เท่าไร(เคยเจอแต่แฟนเพื่อน คนที่เจอบนผิวน้ำที่สิมิลัน นั่นแหละ555) เห็นว่า มางานรับปริญญาก็เลยมาบริจาคซะเลย


ขากลับเดินเข้ามาที่จามจุรี สแควร์(เพิ่งเคยเดินครับ จะมาหาซื้อไหมขัดฟัน ที่ร้านบูท ให้แม่น่ะ) มีร้านเยอะครับ คนก็เยอะ อาจเป็นเพราะเป็นงานซ้อมรับปริญญาละมั้ง


และเจอสีเหย เพื่อนอีกคน คนนี้เป็นช่างกล้องมืออาชีพ ผันจากงานประจำ มาเป็นงานอิสระ ได้เงินเยอะซะด้วย


สรุปก็ คือ การทำบุญแล้วแต่ชอบ และสะดวกครับ บางคนน้ำหนักไม่ถึง บริจาคไม่ได้ บางคนกลัวเข็ม บางคนกลัวเลือด ก็อาจใช้วิธีอื่นแทน เช่น การเลี้ยงอาหารตามสถานรับเลี้ยงเด็ก การให้ทานกับผู้ยากไร้ การเข้าวัด ฟังธรรม ทำบุญตักบาตร เป็นต้น


อ่อ อย่าลืมทานยาธาตุเหล็กนะครับ ควรต้องกินให้หมด เพราะจะช่วยซ่อมแซมสิ่งที่เสียไป พี่ชายผมที่เป็นหมอ บอกว่า หากไม่ทาน นานเข้าๆจะเกิดปัญหาเพราะเลือดจะจาง(บางคนไม่กินครับ ก็บอกให้ทราบไว้ก่อน)


ทิ้งท้ายด้วย ความรู้เบื้องต้น จากเว็บสภากาชาดครับ


พี่ tiger v แห่ง สคูบ้าซูม เอามาฝาก ขอบคุณครับ บริจาคโลหิตรวม (Whole blood)คุณประโยชน์1. ได้รับความภูมิใจที่ได้เสียสละโลหิตในร่างกาย เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ต่อผู้อื่น เป็นการทำบุญอันยิ่งใหญ่ ซึ่งจะทำให้ท่านมีความสุขใจ2. ได้รับการตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุก 3 เดือน3. ได้รับทราบหมู่โลหิตของตนเองทั้งระบบ เอ บี โอ และ ระบบ อาร์เอช4. โลหิตทุกยูนิตที่ได้รับบริจาค ต้องผ่านกระบวนการคัดกรองเชื้อต่างๆ ในห้องปฏิบัติการ เหมือนกับการที่ผู้บริจาคโลหิตได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี, ไวรัสตับอักเสบ ซี, เอดส์ และอื่นๆนอกจากนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้บริจาคโลหิต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้จัดทำเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิตขึ้น เพื่อมอบให้ผู้บริจาคโลหิต โดยจัดทำเป็นเข็มที่ระลึกครั้งที่ 1,7,16,24,36,48,60,72,84,96 และ 108 ตามลำดับคุณสมบัติของผู้บริจาคโลหิตผู้มีความประสงค์จะบริจาคโลหิตควรตรวจสอบคุณสมบัติตนเองก่อนบริจาค ดังนี้ 1. อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 60 ปีบริบูรณ์2. น้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป สุขภาพทั่วไปสมบูรณ์ดี3. ไม่มีประวัติโรคตับอักเสบ หรือดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง4. ไม่เป็นไข้มาเลเรียมาในระยะ 3 ปี ที่ผ่านมา และไม่เป็นกามโรค โรคติดเชื้อต่าง ๆ ไอเรื้อรัง ไอมีโลหิต โลหิตออกง่ายผิดปกติ โรคเลือดชนิดต่าง ๆ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคลมชัก โรคผิวหนังเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์5. ไม่อยู่ในภาวะน้ำหนักลดมากในระยะสั้น6. ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ หรือสำส่อนทางเพศ ไม่มีประวัติติดยาเสพติด7. งดการบริจาคโลหิตภายหลังผ่าตัด คลอดบุตรหรือแท้งบุตร 6 เดือน (ถ้ามีการรับโลหิตต้องงดบริจาคโลหิต 1 ปี)8. สตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน หรือตั้งครรภ์ดูแลตัวเองก่อนมาบริจาคโลหิต*ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง*ควรมีสุขภาพสมบูรณ์ดีทุกประการไม่เป็นไข้หวัด หรืออยู่ระหว่างรับประทานยาใดๆ*ควรรับประทานอาหารมาก่อน และเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไม่มีไขมัน*งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนมาบริจาคอย่างน้อย 24 ชั่วโมง*งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมง เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดี*สุภาพสตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือนหรือตั้งครรภ์*การบริจาคโลหิตครั้งต่อไปเว้นระยะ 3 เดือน ยกเว้นการบริจาคพลาสมาหรือเกล็ดโลหิตข้อปฏิบัติหลังบริจาคโลหิต*นอนพักบนเตียงอย่างน้อย 3-5 นาที ห้ามลุกจากเตียงทันที จะเวียนศีรษะเป็นลมได้*ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีบริการให้ และดื่มน้ำมากกว่าปกติเป็นเวลา 2 วัน *ไม่ควรรีบร้อนกลับ นั่งพักจนแน่ใจว่าเป็นปกติ *หากมีอาการเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลมระหว่างลุกจากเตียงหรือขณะเดินทางกลับ ต้องรีบนั่งก้มศีรษะต่ำ ระหว่างเข่าหรือนอนราบ เพื่อป้องกันอันตรายจากการล้ม*หากมีโลหิตซึมออกมา ให้ใช้นิ้วมือ 3 นิ้ว กดลงบนผ้าก๊อสหรือพลาสเตอร์ที่ปิดรอยเจาะ ให้นิ้วหัวแม่มือกดด้านใต้ข้อศอกและยกแขนสูงจนโลหิตหยุดสนิท หากโลหิตไม่หยุดซึมให้กลับมายังสถานที่บริจาคเพื่อพบแพทย์พยาบาล*งดออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมากภายหลังการบริจาคโลหิต ผู้บริจาคโลหิตที่ทำงานปีนป่ายที่สูงหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล ควรหยุดพักหนึ่งวัน*รับประทานยาธาตุเหล็กที่ได้รับวันละ 1 เม็ด จนหมด เพื่อป้องกันการขาดธาตุเหล็ก*หลีกเลี่ยงการใช้กำลังแขนข้างที่เจาะ เป็นเวลา 12 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการบวมช้ำผู้บริจาคโลหิตโปรดทราบ ท่านที่มีประวัติดังต่อไปนี้ ควรงดการบริจาคโลหิตคือ*ท่านหรือคู่สมรสของท่าน เคยมีเพศสัมพันธ์กับหญิงหรือชาย ที่ขายบริการทางเพศ โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา*เคยเป็นผู้ที่เสพยาเสพติดโดยใช้เข็มฉีดยา*รู้ตัวว่าติดเชื้อเอดส์ทุกท่านมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ใช้ในการรับบริจาคโลหิต ใช้ครั้งเดียวสำหรับคนเดียวแล้วทิ้งที่มา http://www.redcross.or.th/donation/blood_wholeblood.php4

0 Comments:

Post a Comment

<< Home