Tuesday, June 09, 2009

สวนสนประดิพัทธ์...บนเส้นทางรถไฟสายคลาสสิค(1)







ไม่ได้เดินทางโดยรถไฟมาหลายปีครับ ล่าสุดก็ครั้งไปดำน้ำแบบ Fun Dive ที่ชุมพรคาบาน่า แต่นั่นก็เป็นการเดินทางในเวลากลางคืน

สำหรับเวลากลางวัน ผมไม่เคยใช้บริการรถไฟเลย ด้วยข้อจำกัดบางประการ เช่น ระยะเวลาในการเดินทางที่ช้ากว่ารถโดยสาร ยิ่งเป็นสายใต้ที่ผมชอบไปแล้ว กว่าจะถึงที่หมายก็อาจจะเป็นช่วงบ่ายหรือเย็น ซึ่งก็ต้องค้างคืนถึงจะคุ้มค่า

เคยได้ยินมานานครับ กับโปรแกรมการท่องเที่ยวของการรถไฟ แบบเช้าไป-เย็นกลับ ซึ่งมีหลายเส้นทางที่น่าสนใจมาก ที่สำคัญการเดินทางแบบนี้ เราได้เห็นอะไรระหว่างทางเยอะ ค่อนข้างจะคลาสสิคทีเดียว

เมื่อพี่โก้เอาลิงค์การท่องเที่ยวโดยรถไฟมาโพส(จากพี่เจน) ก็เลยสะกิดต่อมอยากเที่ยวครับ โดยขอเริ่มจากสถานที่ชอบมากที่สุด คือ “ทะเล” ก่อนแล้วกัน

สวนสนประดิพัทธ์ ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในความดูแลของศูนย์ทหารราบปราณบุรี มีชายหาดทอดยาว เงียบสงบ คนไม่พลุกผล่าน

หาข้อมูลจากคนที่เคยไปทาง Internet กับการไปสอบถามเส้นทางจากสถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านที่สุด(เวลาซื้อตั๋ว ซื้อได้ทุกสถานีครับ และขึ้นได้ทุกสถานีที่รถไฟวิ่งผ่าน) สัปดาห์ที่ผมไปถามนั้น วันอาทิตย์เหลือที่ว่างตั้ง 200 กว่าที่แน่ะ

พอมาสัปดาห์นี้ รวบรวมเพื่อนเดินทางได้อีก 4 คนครับ เป็นเพื่อนสมัยเรียนอยู่วชิราวุธวิทยาลัย แต่เมื่อโทรไปสอบถามในวันเสาร์เหลือแค่ 8 ที่เท่านั้น จากที่จะไปซื้อตั๋วในช่วงเช้าแล้วออกเดินทาง เห็นทีจะไม่ทันครับ ต้องออกไปซื้อตอนนี้เลยน่ะ (หลายท่านอาจจะสงสัยว่า หลังๆ ผมไปคนเดียว ผมมีเพื่อนด้วยเหรอ 555 เพื่อนมันว่างพอดีครับ กะว่าถ้าไม่ว่างภายในสัปดาห์สองสัปดาห์นี้ก็จะไปเองอยู่แล้วล่ะ)

เหลือแค่ 6 ที่ครับ ก็ซื้อมา 5 ที่(เส้นยาแดงผ่าแปด) ฉะนั้น ต้องลองสอบถามดูครับ บางสัปดาห์คนอาจไปน้อย บางสัปดาห์คนอาจไปเยอะ แต่ยังไงรถไฟก็ออกอยู่ดีน่ะ

ค่าโดยสาร หนึ่งร้อยบาท เท่านั้นครับ(รวมไป-กลับด้วย)

พร้อมแล้ว ออกเดินทางกันดีกว่า


7 มิถุนายน 2552

ตื่นตีห้า ครึ่ง ไปรับชูฮวยที่บ้านตอนหกโมงเช้า เอารถไปจอดที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แล้วนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปสถานีบางซื่อ(สถานีรถไฟก็อยู่ติดกันเลยครับ)

ที่สถานีรถไฟบางซื่อก็มีที่จอดรถครับ ฟรีด้วย แต่ว่ายังไม่แน่ใจเรื่องเส้นทางนัก ว่าเข้ามาจากทางไหน จอดที่ลาดพร้าวก็ปลอดภัยดี อย่าลืมสแตมป์บัตรปลายทางด้วยล่ะ(คำนวนดูจากเวลาที่จอด ประมาณ 70 บาทครับ)

สายรกนั่งแท๊กซี่มาจากอนุเสาวรีย์ชัยครับ เลยมาถึงก่อน ช่วงเช้ามืดรถไม่ติดอยู่แล้ว ส่วนอีแอกกับปูโกกกำลังนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินตามมาครับ

แต่ทว่าเรื่องตื่นเต้นก็เกิดขึ้นแล้ว ผมได้ยินเสียงประกาศบอกว่า รถไฟสาย 911 ที่จะเดินทางไปสวนสนประดิพัทธ์ จะมาถึงในอีกไม่ช้า แต่เพื่อนผมยังมาไม่ถึง และเรากำลังจะตกรถไฟกัน!!!! 555555(ผมคิดแผนสำรองไว้ครับ ว่าถ้าตกรถไฟจริงๆ ก็ไปเที่ยวที่อื่นแล้วกัน )

รถไฟจะออกจากสถานีหัวลำโพงเวลา 6.30 น. และมาถึงสถานีรถไฟบางซื่อ 6.50 น. ซึ่งรถไฟตรงเวลามาก ไม่เหมือนรถทัวร์ที่รอผู้โดยสารได้ ไม่เหมือนเครื่องบินที่มีดีเลย์

“เฮ้ย อีแอก ปูโกก วิ่งเลย รถไฟจะออกแล้ว” ผมรีบโทรบอกเพราะทราบดีว่าระยะทางจากรถไฟฟ้าใต้ดิน มาที่ประตูทางออกนั้น ค่อนข้างไกล

รถไฟมาแล้วครับ แต่ยังเห็นปูโกกมาคนเดียวเอง อ่อ นั่นอีแอกวิ่งตามหลังมาครับ เหลือเชื่อ 5555

“ไม่คิดว่าจะทันนะเนี่ย” ผมบอก

“กูเห็นปูโกกมันวิ่ง ก็รีบวิ่งตามมันเลย” อีแอก ผู้มีหุ่นแบบอาเสี่ยกล่าวติดตลก

เป็นอันว่าเรามาอยู่บนรถไฟเรียบร้อย คราวนี้ก็มาดูเรื่องที่นั่งครับ ซึ่งนั่งกันคนละที่ เพราะตอนซื้อตั๋วใกล้ๆจะเต็มแล้ว มีตรงไหนก็ต้องเอาไปก่อนครับ ขืนรอสัปดาห์ถัดไป ผมและเพื่อนอาจจะว่างไม่ตรงกันก็ได้

มีคนเยอะเลยครับ สาวๆเพียบ ดูแล้วเจริญหู เจริญตาสุดๆ 4 ที่นั่งแรกอยู่ในโบกี้นี้ อีกที่นึง อยู่ถัดไปอีกสองโบกี้ ผมเดินตามนายตรวจรถไฟไป ผ่านโบกี้ที่มีเครื่องปรับอากาศ จนมาถึงที่นั่งครับ

มีพ่อแม่ พาลูกมาเที่ยว ส่วนใกล้ๆก็มีเป็นแก๊งค์ถ่ายรูปครับ มากันหลายคน ใส่เสื้อเหมือนกัน แต่โบกี้แรกสาวๆเยอะกว่านะ 555

รถไฟชั้นสาม ล๊อคนึงจะมีสี่ที่นั่ง หันหน้าชนกัน พนักพิงจะปรับไม่ได้ มีพัดลมอยู่ตามทางเดิน เวลารถไฟวิ่ง จะเห็นวิวริมทางได้ชัดและถ่ายรูปได้ง่ายกว่าห้องปรับอากาศครับ

ผมวางของทิ้งไว้และเดินกลับมาโบกี้ที่มีเพื่อนๆอยู่ มีที่ว่างอยู่ครับ ก็เลยลองนั่งคุยกับเพื่อนไปก่อน เจ้าของที่ยังไม่ขึ้นมา แต่ระหว่างเส้นทางที่ผ่าน เจ้าของที่จะต้องมาแน่ครับ(ฟังดูเหมือนผีนะ) เพราะเที่ยวนี้เต็มทุกที่นั่ง(นายตรวจเขาบอกน่ะครับ)

ข้างๆมีสองสาวน่ารัก(พอดีเลย) เท่าที่ได้คุย มากันสองคนครับ ดูจากในเว็บไซด์นี่แหละ สาวคนหนึ่ง ชื่อ “ปลา” (แค่ชื่อก็น่ารักแล้ว) 555

หลังจากช่วยพวกเธอเปิดหน้าต่างแล้ว เจ้าของที่ก็ขึ้นมาพอดี(ให้มันได้แบบนี้ซิ) รถไฟผ่านสถานีบางบำหรุ ซึ่งอยู่ในเขตบางพลัด(มิน่าเลยถึงเวลาต้องพลัดพราก555)

ต้องเปลี่ยนที่นั่งครับ ก็นั่งตรงที่ที่ยังว่างอยู่ ไม่นานนักก็ถึงสถานีนครปฐม ซึ่งตรงจุดนี้ เขาให้เวลา 40 นาที พักผ่อนตามอัธยาศัย(บริหารเวลากันให้ดีๆล่ะ)


นมัสการพระปฐมเจดีย์

เดินไปตามทางเรื่อยๆครับ เริ่มเห็นมีของขาย แต่ยังไม่เห็นองค์พระปฐมเจดีย์เลยน่ะ

พอเลี้ยวขวา เห็นแล้วครับ พระปฐมเจดีย์ ใหญ่โตมาก เท่าที่เห็นเหมือนกำลังบูรณะอยู่ด้วย บอกตามตรงว่า หากไม่ได้มาโปรแกรมนี้ ผมก็คงไม่ได้มีโอกาสมาที่นี่ครับ

แวะทานข้าวแกงเติมพลังกันก่อน ทานกันทุกคนยกเว้นปูโกกที่ทานมาตั้งแต่เช้าแล้ว พวกเราอยากจะเข้าไปถ่ายรูปและนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ด้วย จึงรีบทานแล้วเดินไปต่อ

ตรงทางเดินต้องระมัดระวังครับ จะเดินกลางถนนแบบข้ามาคนเดียวไม่ได้ เพราะมีรถเข้าออกตลอดเวลา อาจล้มทั้งยืนได้เหมือนกัน ระหว่างทางมีของขายเยอะ สังเกตเห็นสาวๆนครปฐมหลายคน น่ารักซะด้วยซิ

มีพระมาบิณฑบาตด้วยครับ เดินข้ามถนนไปอีกนิด ก็เจอประตูวัดอยู่ด้านหน้าแล้ว(ขอย้ำว่าให้ระมัดระวังการข้ามถนนให้ดีครับ เพราะรถค่อนข้างเยอะน่ะ)

เช้านี้ยังไม่ค่อยมีแดดครับ แต่ไม่เป็นไร ก็เก็บภาพเอาไว้ก่อนน่ะ ชูฮวยกับสายรกพก DSLR มาคนละตัว ของสายรกน่าจะใช้ Canon ชื่อรุ่นไม่แน่ใจครับ แต่ของชูฮวยใช้ Canon 450D พึ่งไปซื้อมาเป็นเพื่อนมันครับ เลยจำได้ แต่ละคนก็ไหว้พระและถ่ายรูปตามมุมที่แต่ละคนสนใจ

คนเข้าแถวนมัสการพระประธานเยอะเลย(ดูแล้วน่าจะเป็น ปางห้ามญาตินะครับ) ผมใช้วิชามือยาว ยืดมือเข้าไป และซูมเล็กน้อย จึงได้ภาพออกมา(มีตาข่ายปิดอยู่ด้วยน่ะครับ เลยต้องเอื้อมมือเข้าไปถ่าย) ใบหน้าของท่านเหลืองอร่าม สวยงามมากครับ

ใกล้ๆมีพระโสณะเถระและพระอุตตรเถระด้วย ผมไม่ลืมที่จะไปกราบและขอพร อันดับแรกก็แน่นอนครับ ขอให้คุณแม่ของผมมีสุขภาพดี หายป่วยจากโรคร้ายที่เป็นอยู่

ได้เวลาแล้วครับ ต้องรีบกลับไปที่รถไฟล่ะ

ขึ้นมาก็ลองหาที่นั่งที่ตรงตามตั๋ว(ที่ตอนแรกมีคนนั่งอยู่แต่ให้เขานั่งกันไปก่อน) เข้าใจครับใครๆที่มาด้วยกัน ก็อยากนั่งด้วยกัน

เพื่อนๆผมเห็นว่า ยอมเสียตังค์อีกคนละ 100 บาท ไปนั่งห้องปรับอากาศเพื่อที่จะนั่งด้วยกัน(ห้องปรับอากาศเหลือที่อีกเยอะเลย) ไม่มีปัญหาครับ งานนี้ผมไม่ได้มาคนเดียว เพื่อนว่ายังไงก็ตามนั้น แม้นั่งตู้ชั้นสาม จะได้บรรยากาศมากกว่าก็เถอะ

ที่นั่งสบายกว่าเยอะเลยครับ นอกจากจะปรับพนักพิงได้ ยังยืดขาได้ด้วย(ก็เกิดมาขายาว ลำบากแบบนี้แหละ 55) ผมหยิบนิตยสาร Trips ฉบับการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ และฉบับที่มีสวนสนประดิพัทธ์ มาให้เพื่อนๆอ่านด้วย

เพลียมากๆครับ นอกจากจะต้องตื่นเช้า เมื่อคืนกว่าจะนอนหลับก็ดึกมาก ไม่นานนัก ระเบิดลงทั้งผมและเพื่อน ก็ตายหมู่กันหมด

ผ่านราชบุรี ผ่านเพชรบุรี จนมาถึงสถานีที่ค่อนข้างสวยแต่ไม่มีเวลาลงไปถ่ายรูป นั่นคือ “สถานีหัวหิน” ครับ(ถ้าเขาอนุญาตให้ลงล่ะก็ ไม่พลาดแน่ๆ)

เมื่อผ่านที่นี่ สถานีต่อไปก็จะถึงที่หมายแล้วครับ

0 Comments:

Post a Comment

<< Home