Princess Diary ตอน เที่ยวประเทศญี่ปุ่น
"โลกนี้เป็นเหมือนห้องเรียนขนาดใหญ่
มีพื้นที่มากมายให้เราเรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุด
เรื่องราวอันแสนมหัศจรรย์ ยังคงถูกซุกซ่อนอยู่ในโลกใบใหญ่นี้""
......ถ้าไม่เริ่มต้นออกเดินทาง ก็ไม่มีทางค้นพบ......"(ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี )
เห็นมาหลายสัปดาห์แล้วครับ ได้แต่เปิดผ่านๆ ทราบเบื้องต้นว่าเป็นรายการเกี่ยวกับท่องเที่ยว โดยมีทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ให้เกียรติมาเล่าเรื่องราว บันทึกการเดินทางของพระองค์ ตามสถานที่ต่างๆ และยังมีแขกรับเชิญด้วย
เห็นมาหลายสัปดาห์แล้วครับ ได้แต่เปิดผ่านๆ ทราบเบื้องต้นว่าเป็นรายการเกี่ยวกับท่องเที่ยว โดยมีทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ให้เกียรติมาเล่าเรื่องราว บันทึกการเดินทางของพระองค์ ตามสถานที่ต่างๆ และยังมีแขกรับเชิญด้วย
ต้องหยุดนิ่งเลยครับ เพราะเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่ผมชอบมากอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้จะผ่านมาหลายปี แต่ยังจำทุกวินาทีที่ได้เดินทางไปเที่ยวกับครอบครัวได้ครับ
แขกรับเชิญในสัปดาห์นี้ คือ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ในซิทคอม “เป็นต่อ” คราวนี้ ต้องลดการปล่อยมุขลงและสำรวมให้มากขึ้นครับ เพราะต้องเดินทางกับทูลกระหม่อมหญิงฯ ซึ่งเจี๊ยบทำได้ดีทีเดียว
ผมไม่ได้เปิดดูตั้งแต่ตอนแรกครับ เปิดมาก็เจอการเที่ยววัด ในเมืองนารา แล้ว จากนั้นก็ต่อด้วยเมืองเกียวโต เมืองเก่าแก่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่านเหมือนโตเกียว แต่ด้านเทคโนโลยี ก็ยังมีความทันสมัยไม่แพ้กัน อยู่ในเขตคันไซครับ
รายการน้ำเสนอดีครับ เพลงประกอบก็ดี ดูแล้วคล้อยตาม อยากไปเที่ยว ไม่ยาวจนเกินไป ในแต่ละช่วง
ต้องขออภัยที่ข้อมูลน้อยครับ เพราะไม่ได้จดชื่อสำคัญๆไว้ แต่ใครอยากดูย้อนหลังก็เข้าไปตามเว็บดูทีวีย้อนหลังได้
ผมพูดภาษาญี่ปุ่นได้น้อยมาก จำได้ก็แค่ทักทาย สวัสดี(ได้มาจากสมัยเรียน มีกิจกรรมภาษาญี่ปุ่น อาจารย์ชื่อ ชิเอะ เป็นแม่ของเพื่อนครับ) ยินดีต้อนรับ(ได้มาจากพนักงานสาว ขายเสื้อผ้าที่ห้างสรรพสินค้าในชินชูกุ) ฉันรักเธอ(อันนี้เลย มิวสิควีดีโอของเต๋า สมชาย เก่ามากแต่จำได้) เป็นต้น
แต่หากให้เลือกประเทศในโลกทุกที่ที่อยากไปในตอนนี้(ลืมเรื่องดำน้ำไปก่อนนะ) ผมเลือกญี่ปุ่นครับ ไม่ใช่อเมริกา ไม่ใช่ยุโรป
เหตุผลเพราะผมชอบสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ชอบความอ่อนน้อมถ่อมตนของคนญี่ปุ่น ชอบวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น หลายอย่างน่าสนใจมากครับ และด้วยความเป็นคนเอเชียเหมือนกัน การสื่อสารอะไรที่ลึกซึ้ง ซับซ้อน(เช่น ขนบธรรมเนียมประเพณี) ก็น่าจะเข้าใจอะไรก็ง่ายกว่าชาวต่างชาติผมทอง(อันนี้ผมคิดเองนะ ลืมเรื่องภาษาอังกฤษไปก่อน) แม้หลายคนจะมองว่า ชาตินิยมเกินไปก็เถอะ แต่ผมยืนยันจากการที่ได้มีโอกาสไปเยือนที่นั่น ได้เห็นผู้คน ได้พูดคุย ทำให้เปลี่ยนความคิดนี้ไปโดยสิ้นเชิง
วันศุกร์มีต่อครับ ลองติดตามชมได้ คราวนี้จะได้ไปดูซามูไรและเกอิชาด้วยล่ะ ^^
หมายเหตุ ภาพประกอบ ภูเขาไฟฟูจิ เดือนธันวาคม ปี 2548 ครับ
1 Comments:
ขอบคุณค่ะ สำหรับบทความดี ๆ
Post a Comment
<< Home