Sunday, January 11, 2009

อันดามันใต้….ดินแดนปะการังอ่อน(3)







Dive 5 กระเบนปีศาจแห่งหินแปดไมล์!!!!

ด้วยความที่เป็นกองหินใต้น้ำ จึงมีกระแสอยู่บ้าง มองเห็นตะกอนระหว่างกลางน้ำครับ

บนกองหินมีปะการังถ้วยส้ม(Sun Coral) เยอะไปหมด แต่สีจะออกเหลืองแก่ๆ เพราะอยู่ลึกด้วยล่ะครับ พอถ่ายรูปใกล้ๆ จึงเห็นเฉดสีที่แท้จริง มีสีส้มสวยงามมากๆ

“อืม อื้ม” ฟังดูเป็นเสียงออกเสียงใต้น้ำของพี่สมนึก Leader ของผม ชี้ให้ดูสิ่งๆหนึ่ง ห่างจากผิวน้ำประมาณไม่กี่เมตร

“กระเบนปีศาจนี่หว่า” ผมรีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายครับ แต่กว่าจะปรับโหมดอินฟินิตี้ ก็เห็นแต่หลังกระเบนปีศาจไกลๆซะแล้ว โชคดีว่า ภาพก่อนหน้านั้น แม้จะยังบันทึกไม่ทัน แต่อยู่ในหัวผมเรียบร้อยแล้วครับ(รีบดูก่อน กลัวไม่เห็นอีกครับ)

ว่ายต่อไปเรื่อยๆครับ มีฝูงปลามงตาโต(Bigeye Trevally) เยอะมากๆ เป็นกำแพงสีเงิน เห็นแล้วตะลึงครับ ใครบอกว่าเมืองไทยปลาน้อย ผมไม่เชื่อแล้วล่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีฝูงปลามงครีบฟ้า(Bluefin Trevally) แม้จะมีจำนวนที่น้อยกว่าชนิดแรก(ชนิดหลังนี่ ฝูงนึงมีไม่เยอะอยู่แล้วครับ เป็นปกติ)
อ้อมมาอีกด้าน เจอลอบชาวประมงครับ ข้างๆลอบ พี่สมนึกชี้ให้ดูสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง ผมพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกใต้ทะเลซะด้วย

ฉลามเสือดาว(Leopard Shark) นอนนิ่งอยู่ที่พื้นครับ ฉลามเสือดาวเป็นฉลามใจดี กินหอย กุ้ง ปู ปลาหมึกและปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร มักจะนอนอยู่นิ่งๆ กับพื้นทราย เรื่องน่าเศร้า คือ พวกเขาเป็นปลาหน้าดิน มักจะติดอวนอยู่เป็นประจำ


ถ่ายได้สามรูป ประกอบกับเริ่มมีคนเข้าไปในระยะปลอดภัยของมัน ฉลามเสือดาวก็ลอยตัวขึ้นสูงและว่ายจากไปครับ


ในซอกหิน พี่สมนึกชี้ให้ดูปลาปักเป้ากล่องเหลือง(Yellow Box Fish) ข้อดีของกล้องคอมแพคเล็กๆ ไม่มีสโตปรุงรัง ใช่ว่าจะไม่มีครับ หากเป็นกล้องที่ใหญ่ เข้าไปติดซอกหินแน่ๆ ผมอาศัยแขนยาว ยืดแขนเข้าไปด้านใน ถ่ายเจ้า Box Fish ได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ


“อืม อื้ม” เสียงพี่สมนึก ชี้ให้ดูกลางน้ำครับ คราวนี้กระเบนปีศาจมาในระดับสายตาครับ แต่แวบเดียว หายไปเลย(ดูทันแต่ถ่ายได้ในระยะที่ใกล้ๆขึ้น) ผมว่าสมชื่อกระเบนปีศาจจริงๆ เพราะจะมาจะไปเหมือนผี ไม่มีผิด และไม่ขี้เล่นเหมือนกระเบนราหู(Manta Ray)


เรามาดูเจ้า Teira Batfish หรือปลาหูช้างครีบยาวดีกว่าครับ มากันหลายตัว แถมไม่กลัวนักดำน้ำเลย ว่ายมาโฉบในระยะใกล้ๆ คุ้นเคยกับคนดีจัง(ถ่ายซะ)


“อืม อื้ม” เสียงพี่สมนึก ชี้อีก คราวนี้ผมไม่พลาดแล้วครับ ผมเอี๊ยวตัวตามกระเบนปีศาจจับภาพในระยะที่ใกล้มากขึ้น จากที่ผมอยู่ในความลึก 17 เมตร มารู้ตัวอีกที ก็ขึ้นมาที่ 12 เมตรแล้ว(ขึ้นเร็วไปก็ไม่ดีครับ)


กระเบนปีศาจ(Devil Ray) ตัวไม่เล็กเลยครับ เท่าโต๊ะตัวใหญ่ๆ ปีกมีสีออกเทาๆ แถมว่ายน้ำเร็วมากๆ กางปีกเหมือนเครื่องร่อนขนาดใหญ่ ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เจอกระเบนปีศาจ อาจเป็นโชคชะตาที่ทำให้เรามาเจอกันก็ได้(เริ่ม ลิเก)


กระเบนปีศาจกินแพลงตอนเป็นอาหาร ยิ่งมวลน้ำในหินแปดไมล์ในเวลานี้ พวกเขาชอบแน่ๆครับ

อาหารเช้ามีไข่ดาว ไส้กรอก เบคอน แฮม และสลัดผัก ผมชอบสลัดผักที่มีน้ำราดแสนอร่อยกับไส้กรอก เลยขอเติมซะหน่อยครับ


ขึ้นมานอนบนดาดฟ้าครับ กว้าง เงียบ แถมไม่มีคน แม้จะมีแสงแดด แต่ก็มีร่มเงา ผมใช้ร่มเงานั้นเป็นที่กำบังกาย มีลมเย็นๆพัดมาด้วย จะมีอะไรสุขไปกว่านี้อีกล่ะครับ


กะเวลา ลงมาฟังครูตุ๋ม Brief แต่เป็น Dive Site เดิมครับ ไม่มีปัญหา ว่าแล้วไปลุยกันต่อ



Dive 6 เหล่ามนุษย์ในวังมัจฉา!!!!

เจ็บกรามน่าดูครับ เวลาคาบเร็คกูเลเตอร์นานๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ ด้านล่างมีปลาสินสมุทรวงฟ้า(Bluering Angelfish) ออกมาต้อนรับ


คราวนี้ผมได้มาสังเกตการณ์กับกำแพงสีเงินอีกครั้งครับ ฝูงปลามงตาโต(Bigeye Trevally) มากๆจริง จำได้ว่าเมื่อซักครู่ พี่ป้อมบอกให้ลองถ่ายเป็นวีดีโอดู ปลาเยอะๆแบบนี้จะสวยมาก ผมทำตามนั้นเลยครับ


ปลาทั้งนั้นเลยครับ เป็นหมื่นๆตัว ไม่ซิ อาจมากกว่า ตะลึงมากๆ เห็นแล้วดีใจกับบ้านเราครับ ที่แม้บางจุดปลาจะน้อยลง แต่ก็ยังมีหลายๆที่ที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่นะ


ใกล้ๆ ที่ขอบนอกกองหิน ฝูงปลามงครีบฟ้า(Bluefin Trevally) ก็เข้ามาเหมือนกันครับ ปลากลางน้ำมีหลายชนิดจริงๆ


มาต่อกันที่ Teira Batfish หรือปลาหูช้างครีบยาว แบบวีดีโอ พอดูใกล้ๆแบบนี้ มีชีวิตชีวาจริงๆครับ


ในฝูงปลา Jack มีปลาเรนโบว์รันเนอร์ด้วย(แต่มันไกลเกินไปน่ะ) ยังพอเห็นปลาสากหางเหลือง(Yellow-tail Baracuda) ด้วยครับ(รู้ทันหรอกน่า จะมาหาของกินน่ะซิ 555)


พี่สมนึกทำสัญญานให้ผมว่ายเข้าไปในฝูงปลา แล้วทำท่าทางเหมือนวงกลม ผมไม่เข้าใจหรอกครับ ทราบทีหลังว่า หากว่ายเข้าไปใกล้ๆ ปลาจะแตกกลุ่ม ถ่ายรูปออกมาจะดูสวยงามมาก


ผมเห็นพี่กอลฟ์เห็นว่ายเข้าไปและว่ายกลับมาบ่อยเหลือเกิน แรงเธอดีจริงๆครับ


ก่อนขึ้น เกาะเชือกทำ Safety Stop กลุ่ม(น่าจะเป็นกลุ่มเฮียช้วนนะครับ) บอกว่าเจอ Devil Ray อีกแล้ว แต่อากาศผมจะหมดแล้วครับ มึนๆด้วย ขึ้นดีกว่า


บนผิวน้ำ ไส้กรอกเมื่อซักครู่ออกมาจนได้ครับ พอเป็นพิธี(ผมใจบุญนะครับ อยากให้อาหารปลา 555)

อากาศเริ่มมืดครับ เหมือนฝนใกล้จะตก พอกลุ่มผมขึ้นมา ก็เจอ Devil Ray กันอีกจริงๆ หากอยู่ต่อผมก็เจอครับ เพียงแต่ว่า ผมเอาสุขภาพดีกว่า ไม่ฝืน เอาเท่าที่ได้ ยังไงก็ได้เห็นนะ


เรือค่อยๆเดินทางต่อไปครับ อาหารกลางวันมี ข้าวคลุกกะปิ เส้นใหญ่ผัดซีอิ้ว ชมพู่ และ เฉาก๊วย


สคูบ้าเน็ตมาจอดอยู่ใกล้ๆเกาะหินงามครับ อีกหลายชั่วโมงกว่าจะลงไดฟ์ต่อไป ผมอยากขึ้นเกาะหินงามไปสักการะ ขอพรเจ้าพ่อตะรุเตา แต่ดูท่าจะไม่มีใครขึ้นละมั้ง และเขาจะให้ขึ้นไหมเนี่ย


มานั่งคุยกับหยก พี่แอ๋ว พี่ตุ๊ก พี่ตา ซักพักพี่ตาลกับครูตุ๋มจะนั่งดิงกี้ออกไปสอบ Advance กันต่อครับ ผมเลยขอติดดิงกี้ไปลงที่เกาะหินงาม โดยมีเจ้าเฟิร์ส ลูกชายเฮียหมี ไปด้วยครับ


นมัสการเจ้าพ่อตะรุเตา บนเกาะหินงาม

พี่ Staff บอกว่า ประมาณครึ่งชั่วโมงจะมารับครับ ผมถ่ายเกาะหินงามในมุมกว้าง เล่น Function ในกล้องดู เพราะ คราวก่อนถ่ายแบบธรรมดาๆ คราวนี้ลองใช้โหมดอื่นดูบ้าง


หลังจากขอพรท่าน ขอให้ช่วยให้คุณแม่ผมหายป่วย ให้ผมประสบความสำเร็จในการศึกษา และขอให้ท่านคุ้มครองครอบครัวของเราด้วย


มานั่งเรียงหินกันดีกว่าครับ เจ้าเฟิร์สก็นั่งเรียงอยู่ เก่งไม่เบาครับ นับดูเรียงได้สิบก้อน(ต้องใช้ความพยายามและสมาธิอย่างสูง หาหินที่รูปร่างแบนๆ)


นั่งท่องเที่ยวที่มาเรือหางยาวไม่ค่อยเยอะครับ ส่วนใหญ่มาเรือ Speed Boat กัน อาจเป็นไปได้ว่า เรือหางยาวมากันตั้งแต่ตอนสายๆแล้ว(เหมือนครั้งที่ผมมา)


ด้านหน้าผม มีหญิงสาว ผิวขาว รูปร่างดี มากับครอบครัว ยิ้มแย้มแจ่มใส นอนคว่ำถ่ายรูปบนก้อนหิน เมื่อใบหน้าเธอก็สวยงาม หินก็งาม น้ำใจเธอก็งาม(รู้ได้ไง อ่อ ผมเห็นเธอชวนคุณพ่อมาถ่ายรูปด้วยกันอย่างสุภาพน่ะครับ) แล้วเธอมานอนถ่ายใกล้ๆที่ผมนั่งอยู่พอดี แบบนี้ก็ยิ่งงามครับ ผมสามารถยกกล้องขึ้นมาถ่ายแบบไม่เคอะเขิน ประหนึ่งว่าผมกำลังถ่ายวิวน่ะครับ 555


ดิงกี้ Scubanet มารับแล้วครับ ผมเรียกเจ้าเฟิร์ส ถึงเวลาต้องกลับเรือแล้ว ขากลับพี่แกซิ่งน่าดูเลยครับ สนุกจริงๆ 555


พอพี่ตุ๋ง พี่ตาล และครูตุ๋มขึ้นมาแล้ว ครูตุ๋มรีบขึ้นมาวาด Dive Site เลยครับ ไดฟ์ต่อไปเราจะลงดำน้ำกันที่เกาะสาวัง(ด้านตะวันออก) ด้านในแนวปะการังจะมีปะการังอ่อนและปะการังแข็ง ดอกไม้ทะเล แส้ทะเลและปะการังถ้วยส้ม หากออกไปในที่ลึก เวลากลับมาให้ระวังกระแสน้ำด้วย



Dive 7 ถ่ายภาพปลาการ์ตูนส้มขาว!!!!

Clear หูค่อนข้างยากครับ โดยเฉพาะหูซ้ายปวดมากๆ บีบจมูกยังไงก็ไม่ได้ กลืนน้ำลายก็ไม่ได้ผล ผมต้องคงระดับความลึกอยู่ตรงนั้น ตีขาขึ้นมาในระดับที่ตื้นขึ้น เมื่อทำได้จะรู้สึกสบายขึ้น ลงได้แล้วครับ


เริ่มจากระดับความลึกมากๆก่อน แถวนี้เป็นพื้นทรายโล่งๆ นอกแนวปะการังครับ อุณหภูมิของน้ำ 27 องศาเซลเซียส แถมมีเทอร์โมคลาย หนาวมากๆครับ หนาวสั่นเลยล่ะ(กอดอกดีกว่า แต่หน้าชาแล้วจ้า)


ตรงพื้นทรายจะมีสัตว์ทะเลเป็นจุดๆ ซึ่งจุดหนึ่งๆจะห่างกัน เช่น จุดแรกมีปะการังอ่อน จุดต่อไปมีดาวขนนก เป็นต้น


พี่สมนึกส่องไฟฉายมาที่ผม เรียกให้มาดูกุ้งตัวใสๆ ในดอกไม้ทะเลสีดำๆรูปร่างแปลกๆ ผมถ่ายไปสองแชะ จากที่มาเปิดหนังสือ นี่คือกุ้งดอกไม้ทะเลก้ามขาว(Magnificent shrimp) จุดเด่นอยู่ที่แต้มสีขาวกลางหลัง อยู่เป็นคู่ด้วยครับ ท่าจะเป็นสามี-ภริยากันแน่ๆ


เจอปักเป้าอยู่หนึ่งชนิดครับ ดูทรงแล้วเป็นพวกปักเป้าหนัง(พวกเดียวกับปักเป้าหน้าหมา) คือ เวลาตกใจจะพองตัวได้ แต่ไม่มีหนาม ปักเป้าตัวนี้ไม่ได้มีลวดลายน่าค้นหา แต่แปลกครับ เพราะอยู่ในระดับความลึก ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ


มีกอดอกไม้ทะเลกับปลาการ์ตูนส้มขาวเยอะเลยครับ(Sea Anemone and False Clown Anemonefish) การันตีว่าปลอดภัยจากพวกใจบาปแน่นอน เพราะอยู่ในที่ลึก ที่ต้องระวังคือ อวนลากนี่แหละครับ(พี่หมอหมูเคยถามว่า นีโมไปไหนหมด ยังมีอยู่ครับ มาอันดามันใต้เลยพี่)


ผมถามพี่ตาลเมื่อคืนว่า ถ่ายปลาการ์ตูนอย่างไรไม่ให้เบลอ เพราะของเธอถ่ายชัดมากครับ คราวนี้ผมจะลองเรียนรู้ด้วยตัวเองดีกว่า น่าสนุกกว่า


ปริศนาทั้งหมดคลี่คลายครับ วิธีของผมคือ กดล๊อคโฟกัสค้างไว้เลย พอเจ้าของบ้านโผล่มาก็กดชัตเตอร์ทันที ได้ผลดีทีเดียวครับ ผมได้ภาพปลาการ์ตูนในหลายอิริยาบททั้งเต็มตัว หันหน้า หันหลัง มองกล้อง ดูน่ารักมากๆ แม้จะไม่สวยเท่ากล้องขั้นเทพก็ตาม ผมรู้แล้วล่ะครับ ว่าทำไมพี่เอถึงชอบถ่ายปลาการ์ตูน 555


มีหมึกกระดอง(Pharaoh Cuttelfish) ด้วยครับ ตัวนึงผมถ่ายได้แบบอินฟินิตี้ สีแทบจะกลมกลืนกับพื้นทราย ถ่ายเสร็จพี่มนตรีมาถ่ายต่อ รู้สึกว่าหมึกจะตีกรรเชียงหนีไปแล้วครับ


มาเข้าที่ตื้นบริเวณแนวปะการังบ้างดีกว่า ที่สาวัง ปะการังอ่อนก็เยอะไม่เบาครับ ผมไล่ถ่ายตั้งแต่สีขาวนวลเหมือนหิมะ สีม่วงเข้ม สีม่วงอ่อนและสีแดง


ผมตามติดถ่ายรูปปลาปักเป้าหนามทุเรียน(Black Blotched Porcuppinefish) มองเห็นดวงตาสีดำกลมโต น่ารักจริงๆ


ตรงนี้มีปลาปักเป้ากล่องเหลือง(Yellow Box Fish) ด้วยครับ แต่ถ่ายรูปไว้ไม่ทัน แป๊บเดียวก็เข้าไปในช่องด้านล่าง สุดปัญญาที่จะถ่ายภาพมาได้


นอกจากนีโมแล้ว ผมยังได้เห็นปลาการ์ตูนอีกสองชนิด คือ ปลาการ์ตูนอินเดียน(Skunk Anemonefish) และปลาการ์ตูนปานดำ(Red Saddleback Anemonefish) หรือจะเรียกว่าปลาการ์ตูนมะเขือเทศก็ไม่ผิดกติกา ชนิดหลังนี่อยู่กับดอกไม้ทะเลสีแดง เสียดายว่าเป็นปลายไดฟ์แล้ว ไว้ไดฟ์หน้าจะพยายามใหม่นะครับ


ขึ้นมาบนผิวน้ำ บรรยากาศดีครับ น้ำนิ่งเชียว ผมถ่ายภาพเพื่อนๆพี่ๆนักดำน้ำ และวิวสวยๆบนผิวน้ำของเกาะสาวัง

บนเรือมีของว่างเป็นขนมของครูจุ๋มที่เรียกว่า “มาม่อน” (พี่ตาเป็นคนบอกครับ)ลักษณะคล้ายเค๊กกล้วยหอม มีชีสโรยบนหน้า อร่อยมากครับ ความหวานของขนมบวกกับความเค็มนิดๆจากชีส ช่างผสมผสานอย่างลงตัว(สงสัยดูทีวีแชมป์เปี๊ยนมากไปครับ แต่อร่อยจริงๆนะ มองแล้วทางสะดวก เหลือแน่ๆ ขอซัดอีกชิ้นนะครับครูจุ๋ม)


ถัดจาดมาม่อน ยังมีมะม่วงน้ำปลาหวานครับ ผมชอบรสชาดน้ำปลาหวานนะ หลายๆคนท่าทางจะชอบกันครับ เติมน้ำปลาหวานกันถ้วนน่าทีเดียว


ผมเห็นรูปในกล้องของพี่อู๊ดเมื่อไดฟ์ที่แล้ว สุดยอดครับ แกเจอปลาหายากอย่าง Dragonet ด้วยล่ะ ที่น่าเจ็บใจ คือ พี่อู๊ดบอกว่า อยู่ใกล้ๆกุ้งดอกไม้ทะเลที่ผมถ่ายนั่นแหละ(55555)


เหลือเวลาอีกสองชั่วโมง กว่าจะลง Night Dive ผมมาช่วยครูตุ๋ม หยก นัท พี่แดง ผูกสลากรางวัลบนฝาเพดานเรือ คืนนี้เราจะมีการจับฉลากของขวัญและฉลองปีใหม่บนเรือกันครับ


ไดฟ์ต่อไปเราจะลงดำกันที่อ่าวแอ๊ปเปิ้ลครับ เราสงสัยกันว่า ทำไมชื่อนี้ เพราะบนเกาะมีต้นแอ๊ปเปิ้ลหรือเปล่า พี่ป้อมแกบอกว่า เพราะมีคนทำกางเกงในยี่ห้อแอ๊ปเปิ้ลตกลงไปละมั้ง 555


ไฟฉายไม่ติดอีกแล้วครับ ถ่านหมดก็ไม่น่าจะใช่ วันนี้มืดจริงๆ ไฟฉายเสียทำไงล่ะเนี่ย น่าจะเกี่ยวกับเกลียวซักอย่างที่ไม่เข้าล๊อคครับ ให้พี่ตาลช่วยดูให้ ไฟฉายก็ใช้ได้ครับ


พี่บิ๊กโชว์รูปในเครื่องมืออิเลคทรอนิคเล็กๆ(คล้ายเครื่อง psp) สามารถเปิดดูรูป ดูหนัง แทนคอมพิวเตอร์แบบพกพาได้ มีรูปสาวๆสวยๆ ด้วย ได้รับความสนใจใหญ่เลยครับ 555


พี่สมนึกสอนผมว่า เวลาผมดำน้ำไม่ต้องดำติด Leader มากเกินไป ให้มีระยะของตัวเอง ถึงจะดี ผมเข้าใจและนำไปปรับปรุงทันทีในไดฟ์ต่อไปครับ(ปกติ ใครเคยเป็น Leader ผมจะรู้ครับ ว่าผมเป็นเหมือนเหาฉลาม ลองถามพี่พิชกับพี่ตามดูได้ 555)


หลายๆคนทานข้าวก่อนลงครับ แต่ผมไม่สะดวก ขอถ่ายรูปไว้อย่างเดียว ถ้าขึ้นมาอาหารหมดก็ยังมีมาม่า หรือให้พี่ Staff ทอดไข่ให้ทานได้(เฮ้ย น้องมายด์ เอามาม่าของพวกพี่ๆไปทานทำไม 555 เห็นพี่ตาบอกว่า อยู่บ้านไม่ค่อยได้ทานครับ บนเรือมาม่าถือเป็นของแปลกน่ะ)


อ่าวแอ๊ปเปิ้ล บรรยากาศดีมากครับ น้ำนิ่งๆ ลมเย็นๆ บรรยากาศแบบนี้แหละที่ผมชอบเวลา Night Dive น่าแปลกที่ว่าปกติ Night Dive จะไม่ค่อยมีใครชอบลง แต่ไดฟ์นี้ มีคนลงไปด้านล่างมากกว่าครึ่งครับ แทบจะหมดเรือเลยล่ะ(พี่มนตรีบอกว่า เพื่อสุขภาพขอดำน้าแค่วันละสองไดฟ์ครับ ไดฟ์แรกกับไดฟ์ที่สามของวัน)


ครูตุ๋มบอกว่า หลังจากขึ้นมาแล้ว ครูจุ๋มจะมีของขวัญเล็กๆน้อยๆให้ทุกคน และจะมีจับรางวัลใหญ่ด้วย มา Briefing ดีกว่าครับ ครูตุ๋มบอกว่า จะมีโอกาสได้เจอหอยเขา ทากยักษ์เหงือกข้าง ปูแต่งตัวและกุ้งมังกรด้วย


ไปลุย Night Dive ของแท้กันดีกว่าครับ


Dive 8 ทากยักษ์เหงือกข้าง ทากระดับบิ๊กไซด์!!!

การดำน้ำแบบ Night Dive จะมองเห็นแต่แสงไฟครับ(เขาห้ามเอาไฟส่องหน้า) ส่วนนักดำน้ำก็ต้องจำเอา หากหลงก็ตามคนอื่นไปก็ได้(เขาบอกฉายที่ตัวก็พอ)


ดอกไม้ทะเลรูปร่างเหมือนขนสัตว์ดูแปลกมากเลยครับ ถ่ายซะหน่อย สวยดี
พี่สมนึกชี้ให้ดูปูเสฉวนชนิดหนึ่งครับ ผมกดแชะแล้วก็ถอยฉากออกมา(ไม่ดำติดแกแล้วครับ ต้องมีระยะของตัวเอง)


ด้านหน้าผมมีสัตว์ทะเลคล้ายหนอนตัวแบน ลำตัวมีสีดำ มีจุดสีส้มทั้งตัว รูปร่างเหมือนพรมเช็ดเท้า ก็ดูแปลกดีครับ(ที่ดูว่าเป็นคล้ายหนอนตัวแบนเพราะมองไม่เห็น Rhinophore ไรโนเฟียๆ คือ ส่วนที่ยื่นออกมาน่ะ


ปลาปักเป้าหนามทุเรียน(Black Blotched Porcuppinefish) ว่ายผ่านไปแม้จะเป็นตัวเดิมๆ แต่ผมก็ไม่เบื่อแม้แต่น้อยครับ


ด้านหน้ามีปลาสิงโตครับ นี่คือ ปลาสิงโตแคระม้าลาย(Zebra Dwarflionfish)ขนาดโตเต็มวัย มีนิสัยขี้อายมากครับ พอผมจะถ่ายรูป เธอก็หลบเข้าไปใต้ซอกหิน มองดูก็รู้ว่าเธอกลัวผมครับ จุดเด่น คือ แถบสีน้ำตาลอ่อนตามรัศมีวงกลม ส่วนของก้านครีบไม่มีจุด ครีบหลัง ครีบหางและครีบก้นมีลายประ(ผมเคยเห็นวัยเด็กที่สิมิลันปีก่อน พี่ตามเป็นคนชี้ให้ดู ตัวเล็กไม่กี่ ซม เองครับ)


เจอหอยเขา(Sponge Snail)แล้วครับ แต่ถ่ายรูปตรงนี้ค่อนข้างยาก โฟกัสไม่ได้ ผลเลยเบลอซะงั้น


พี่สมนึกชี้ให้ดูกุ้งหรือปูนี่แหละครับ แต่ผมไม่ได้เปิดแฟลชที่กล้อง และนี่เป็นจุดพลิกผลันทำให้ผมหลงกับพี่สมนึกและกลุ่มครับ


ยังไม่เชิงหลงคนเดียวครับ เพราะผมยังมีบั๊ดดี้อย่างนัทอยู่(จำไฟฉายได้ครับ เห็นว่ายืมพี่มนตรีมา สว่างน่าดูเลย)


ถึงตอนนี้ มีนักดำน้ำหลายคนครับ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะเจอพี่สมนึก ตามๆคนอื่นไปก่อนแล้วกัน(ตอนแรกว่าจะขึ้นครับ เรือก็อยู่บนหัวนี่เอง)


เท่าที่จำได้ ผมว่ายผ่านพี่บิ๊กกับหยก(กล้องวีดีโอกับ Wetsuit สีเหลือง) และผ่านพี่อู๊ดกับพี่กอลฟ์(พี่กอลฟ์สวม Wet suit สีแดงครับ)


ปะการังลูกโป่งสวยดีครับ อยู่เป็นกระจุกเลย เห็นแล้วอยากกินองุ่นจัง


มีคนชี้ให้ผมถ่ายรูปทากตัวนึงครับ(ใครก็ไม่รู้) นี่คือ ทากขนพู่ลายงู(Bornella anguilla) ขนาดประมาณ 7 ซม ลำตัวมีสีเหลืองอ่อนๆและมีจุดสีแดงกระจาย(เห็นว่าเรียกว่า ลายโมเสกนะครับ) เป็นหนึ่งในทากที่ไม่ธรรมดาครับ หายากเหมือนกัน(พี่ตุ๋งก็บอกเช่นนั้นครับ)


ผมเริ่มจะทราบแล้วครับ ว่าคนที่ชี้ให้ดูเมื่อซักครู่ คือ ใคร มองแล้วลักษณะเป็นผู้หญิง มีกระดานสเล๊ดบอร์ดด้วย ครูตุ๋มครับ ตามครูตุ๋มดีกว่า


ครูตุ๋มชี้ให้ถ่ายหอยเขา ได้ถ่ายหอยเขา แบบเต็มๆซะที คราวนี้ไม่เบลอแล้วครับ


อันนี้ชัดกว่าอันแรกครับ ลำตัวสีดำมีขอบสีส้ม เป็นหนอนตัวแบน(Flat Worm) พันเปอร์เซ็นต์ครับ(ในหนังสือก็มี สีแบบนี้เลย)


สัตว์ทะเลที่ครูตุ๋มชี้ให้ผมดู เป็นทากที่มีขนาดใหญ่มากครับ อาจยาวได้ถึง 25 ซม แน่ะ เรียกว่าทากเหงือกข้างยักษ์(Pleurobranchus grandis)ลำตัวมีสีแดงเลือดหมู ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แปลกดีครับ เหมือนแผ่นอะไรใต้น้ำมากกว่า Rhinophore คือส่วนที่เป็นท่อ ยื่นออกไปมีลักษณะคล้ายงวงช้าง เห็นว่าสามารถปล่อยสารที่คล้ายกรดออกมาได้ด้วยแหละ แต่ถ่ายภาพยากมากๆครับ ต้องให้มือนิ่งๆหน่อยน่ะ


ถัดไปก็ไม่เคยเจอครับ นี่คือ กั้งกระดานเหลืองใหญ่(Sculpture mitten lobster) เจ้านี้มีปุ่มขรุขระทั่วตัว เหมือนท้าวแสนปมเลยครับ ผมเห็นดวงตาของกั้งอย่างชัดเจน กลับมาศึกษาจึงทราบครับ ว่าทำไมเขาหยุดนิ่งเวลาเจอผม จริงๆ เขาบอกว่า ยามมีภัย กั้งจะหยุดนิ่งเพราะมั่นใจในเปลือกที่คลุมร่างกายอยู่ครับ ถ้าหนักกว่านี้ ถึงจะหนีน่ะ(เรียกว่ามีหลายขั้น)


ครูตุ๋มทำสัญญานให้ขึ้นครับ โชคดีจังที่ได้เจออะไรแปลกๆเพียบเลยในไดฟ์นี้ ต้องขอบคุณนัท(ไม่งั้นผมคงจะขึ้นเรือ อดเห็นแน่ๆ) ขอบคุณครูตุ๋ม Leader จำเป็นด้วยครับ

“นี่ ถ่ายรูป ทำไมต้องกดดิฉันไว้ด้วยค่ะ” ครูตุ๋มแซว


“ขอโทษครับ มันไปเอง ไม่ได้ตั้งใจน่ะครับ 555” ต้องเป็น ตอนถ่ายทากเหงือกข้างยักษ์แน่ๆครับ ตอนอยากจะถ่ายรูป คงเผลอไปกดโดนตัวครูตุ๋ม 555


อาหารเย็นมี ผัดผักรวมใส่กุ้งและเห็ด ปลาราดพริก ทอดมัน แกงมัสมั่น(น่าจะใช่นะครับ)


กินไปได้ไม่กี่คำ พิธีเริ่มแล้วครับ ผมขึ้นมาช้าเองน่ะ 555 เอ้าฉลองก่อนครับ


ฉลองปีใหม่ 2552

บนโต๊ะมีของขวัญอยู่หลายกล่อง แต่ละกล่องติดเลขเอาไว้ มีพี่ป้อมเป็นพิธีกร บอกว่า เป็นของขวัญที่ครูจุ๋มเตรียมใว้ให้พวกเราทุกคน ก่อนอื่น อยากให้ทุกคนแนะนำตัว ซึ่งแต่ละคนก็จะบอกชื่อและสถานที่มาว่า มาจากที่ไหน ความสนุกอยู่ที่ บางคนจะมีแถมด้วยว่า เป็นสามี ภริยา ของใคร สร้างเสียงหัวเราะได้ดีครับ ส่วนความน่ารักก็มีครับ เด็กๆจะลากเสียงแบบไร้เดียงสา น่ารักมากครับ เช่น ชื่อสมาทครับ เป็นลูกแม่ หรือ มายด์ค่ะ เป็นลูกแม่ เป็นต้น


แนะนำตัวเสร็จ ต่อไปก็ให้สมาชิกมายืนล้อมวงกัน โดยถามกันว่าใครเกิดเดือนอะไร แล้วยืนเรียงกัน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงธันวาคม ผมจำได้ว่ายืนใกล้ๆกับฮิเดกิเพราะเขาเกิดเดือนเดียวกับผมครับ


ส่วนขั้นตอนการจับ เอาเป็นว่า ใครที่ได้ของขวัญแล้ว ก็ต้องจับให้คนต่อไป(หรือเปล่านะ) สรุปแล้วทุกคนยิ้มแย้ม สนุกสนานกันดีครับ จากภาพที่ปรากฎ เป็นงานฉลองปีใหม่ที่ผมชอบนะ


เท่าที่เห็นและจำได้พี่แดงได้หนังสือวังสระปทุมของสมเด็จพระเทพฯ เจี๊ยบได้หนังสือปลาหมายเลขหนึ่งของอาจารย์ธรณ์ บางคนก็ได้เสื้อ ครูตุ๋มได้ไฟฉายใต้น้ำ ผมจับได้เบอร์หนึ่ง เป็นนาฬิกาตั้งโต๊ะมีภาพถ่ายสัตว์ทะเลของบริษัทมนุษย์กบไทย ถูกใจมากครับ ผมตั้งใจว่าจะตั้งไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือของผมจะได้มองเห็นทุกวัน(ของขวัญไม่ได้เหมือนกันทุกคน หลากหลายดีออก ผมว่านะ)


จากนั้นให้ทุกคนดึงกระดาษที่ติดอยู่บนเพดานเรือมาหนึ่งชิ้น รางวัลใหญ่จะมีอันเดียวครับ (ถ้าจำไม่ผิดพี่ตุ้มได้ไปนะ) แต่จะเป็นอะไร ผมยังไม่ได้ไปถามเลยครับ 555


งานปีใหม่บนเรือที่ผมได้ไปมานอกจากในวันนี้ มีหลากหลายครับ ทั้งคาราโอเกะบนเรือ แดนซ์กระจาย หรือการดื่มแอลกอฮอล์ เล่นไพ่ นั่งคุยกัน สนุกกันคนละแบบนะ


จากนั้นเราขึ้นไปบนดาดฟ้าของเรือ เพื่อดูการจุดพลุ เจ้าเฟิรส์ แจกไฟเย็นให้กับทุกคน ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีครับ(ไม่เคยเล่นไอ้นี่มาตั้งนานครับ หลายปีมาแล้ว)


คุยกับพี่สมนึกและนัท(Leader กับ Diver คุยกัน) เริ่มหนาวครับ ลงมาคุยด้านล่างต่อดีกว่า ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่นอนกัน วันนี้พี่มนตรีดื่มไวน์ฉลองครับ แกบอกขอคืนนึง(แกนอนเร็ว ตื่นเร็วครับ นอนก่อนสามทุ่ม ตื่นตีห้าทุกวัน) นอกจากนี้ก็ยังมีเฮียหมีที่นำร่องซัดจอนนี่ไปก่อนแล้วครับ


คุยกับพี่ๆต่อครับ พี่บิ๊กพูดถึงว่า อยากให้ผมไปสิปาดันซักครั้ง เพราะดีมากจริงๆ ก็ได้แต่ยิ้มครับ ฟังอย่างเดียว ยังไงก็คงไปแน่ๆ ซักวันล่ะ(ไม่รีบร้อน)


เริ่มง่วงครับ ไปพักผ่อนกันดีกว่า ดึกแล้ว



2 มกราคม 2552

ตื่นมาประกอบกล้องและHousing เหมือนทุกวันครับ ครูตุ๋ม Brief ให้ฟังว่า ไดฟ์แรกเราจะลงดำกันที่ลานหินสคูบ้าเน็ต(หรือจะเรียกว่า Divemaster Rock ก็ได้) ตอนลงต้องระวังนิดนึงเพราะไม่มีทุ่น แต่จะมีเชือกจากเรือ ค่อยๆสาวลงไป ต้องระวังเพราะมีกระแสน้ำค่อนข้างแรง พอกระโดดลงปุ๊บก็รีบลงไปในทันที สัตว์ทะเลจะมีพวก ปะการังอ่อน ปะการังแข็ง ดอกไม้ทะเล ฟองน้ำ นูดี้ หนอนตัวแบน กุ้ง ปลากล้วย ปลาสลิดหิน ปลาสินสมุทร ปลาสร้อยนกเขา ปลาไหลมอเรย์ ปลาสิงโต เป็นต้น

1 Comments:

At 2:50 AM, February 04, 2009, Anonymous Anonymous said...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ

 

Post a Comment

<< Home