Friday, October 24, 2008

ปิดฤดูกาลอ่าวไทยที่…ร้านเป็ด ร้านไก่(1)











หากพูดถึงการดำน้ำแบบ Liveaboard ในทะเลฝั่งอ่าวไทยนั้น จะเริ่มในเดือนพฤษภาคมจนถึงต้นเดือนตุลาคมของทุกปี มนุษย์กบหลายคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาที่จะให้เวลานี้มาถึง







ไม่ว่าจะเป็นการไปทักทายฉลามวัว ฝูงปลามง ฝูงปลาสาก ที่เกาะเต่า ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดสุราษฐ์ธานี หรือการมาทักทาย ยักษ์ใหญ่ผู้ใจดีอย่างฉลามวาฬที่พบเห็นกันได้ในทะเลชุมพรก็ตาม

ผมพึ่งสอบเสร็จพอดีครับ ตรงกับต้นเดือนตุลาคม ปลายฤดูกาลการดำน้ำที่อ่าวไทยพอดิบพอดี แต่กลับมองข้ามช๊อตไปถึงการดำน้ำที่ทะเลอันดามันแล้วครับ เพราะทริปสุดท้าย คือ ร้านเป็ด ร้านไก่ ซึ่งจัดโดยเรือ Cabana-MV 1 นั้น ผมมีกำหนดที่จะต้องนอนเฝ้าคุณแม่ที่โรงพยาบาลเพื่อทำเคมีบำบัด

พูดถึงทริปดำน้ำที่ร้านเป็ด ร้านไก่(ชื่อก็แปลก) ผมพลาดมาหลายปีแล้วครับ แม้จะรู้ดีว่าปลาคงไม่มากเท่าที่เกาะเต่า น้ำก็ใสน้อยกว่า แต่ก็ยังคงอยากไปครับ เพราะเรือ Cabana-MV 1 เป็นของชุมพรคาบาน่า รีสอร์ท สถานที่ที่ผมเคยเรียนดำน้ำจบมานั่นเอง(การได้มาดำน้ำยังสถานที่ใหม่ๆที่ยังไม่เคยไป ก็นับเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าอย่างมาก)

ก่อนทริปนี้เกิดขึ้นผมพาคุณแม่มาที่โรงพยาบาล เมื่อคุณหมอเลื่อนวันนัดมาเป็นวันจันทร์ ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า “ผมยังสามารถไปทริปนี้ได้นี่นา!!!”

แต่เมื่อโทรศัพท์ไปสอบถามพี่เอ(A1visual) ก็ได้รับคำตอบว่าทริปนี้ถูกยกเลิกไปเรียบร้อยเนื่องจากจำนวนคนที่เหลือเพียง8 คน(จาก 24 คน) หากออกเดินทางก็จะไม่คุ้มกัน

ผมโทรศัพท์ไปสอบถามพี่โก้ ตามคำแนะนำของพี่เอ ซึ่งได้รับคำตอบว่า หากผมหาคนเพิ่มได้อีก 4-5 คน เรือก็จะออกได้ในทันที เนื่องจากมีจำนวนคนมากพอ

กลับบ้านมา ผมแข่งกับเวลา หยิบเบอร์โทรศัพท์ของนักดำน้ำที่เคยร่วมทริปทั้งหมด ไล่โทรไปทีละคน(โทรอย่างบ้าคลั่ง) เพื่อหวังว่าจะทำให้ทริปนี้เกิดขึ้นได้ เพราะผมอยากไปมากๆ

นอกจากนี้ก็ยังโพสในเว็บไซด์ส่วนตัวอย่าง http://www.kasab71.multiply.com/ และฝากในเว็บอื่นๆที่อนุญาตให้โพสเรื่องทริปดำน้ำได้ อย่าง http://www.scubazoom.com/ และ http://www.talaythai.com/

เมื่อถึงเวลาห้าโมงเย็นอันเป็นเวลาที่นัดกับพี่โก้ ผมเกือบจะยอมรับสภาพเพราะไม่มีใครตอบตกลงมาซักคนเดียว แต่ก็ไม่ท้อครับ พยายามโทรศัพท์ต่อไป(เมื่อสอบถามพี่ป้อม ผู้จัดทริป พี่ป้อมให้เวลาถึงวันรุ่งขึ้นครับ)

ในที่สุดความพยายามก็เป็นผล เมื่อเวลาผ่านไป ผมได้สมาชิกเพิ่มขึ้น เริ่มจากพี่หมอหมู(Suriyanun) ที่ผมเคยคุยอยู่บ่อยๆและชมทริปการเดินทางของแกอยู่เสมอ มาเป็นแพคเกจพร้อมกัน 5 คน(โอ้ สุดยอด) อีกชุดก็มีหมูจากสคูบ้าซูม ที่มาพร้อมกับพี่เอเอ(พี่Pocky) สุดยอดช่างภาพใต้น้ำแห่งสคูบ้าซูม ที่ผมเคยเข้ามาชมผลงาน ก็หลายครั้งอยู่

รวมแล้วได้ 9คน(เกินเป้า) อีกสองคน คือ ผมเอง อีกคน คือ พี่โหน่งที่ตัดสินใจในเวลาต่อมา เท่านี้ ทริปนี้ก็ไม่ล่มแล้วล่ะครับ(นอกจากผมจะได้ไปดำน้ำแล้ว ผมก็ยังได้ช่วยพี่ป้อมด้วย เรียกว่า สมประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย )

สำหรับทริปดำน้ำ ร้านเป็ด ร้านไก่ จะมีเฉพาะเรือ Cabana-MV 1 เท่านั้น เนื่องจากลำอื่นๆ ส่วนมากเลือกที่จะจัดไปเกาะเต่ามากกว่า เพราะน่าจะทำให้ลูกค้าประทับใจมากกว่า(เกาะเต่าก็มีโอกาสเจอฉลามวาฬเหมือนกันครับ)

มาดำน้ำที่ชุมพรทีไร ผมมักจะคาดหวังกับการพบเห็นฉลามวาฬ อยู่เสมอๆ แต่คราวนี้ไม่ครับ ผมไม่ได้คาดหวังเลย เพราะคิดว่า คงยากที่จะได้พบ ซึ่งหากผมไม่ได้คาดหวังแบบนี้ผมอาจจะได้พบกับเขาและเธอก็ได้นะ(ผมคิดในใจ)

อย่ารอช้าเลยครับ การเดินทางเพื่อไปดำน้ำครั้งใหม่ของผม ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว


10 ตุลาคม 2551

จัดของลงกระเป๋า พร้อมคุยกับพี่โก้ พี่ป้อม พี่เอ เพื่อประสานงานในการเดินทางของสมาชิก เช่น กลุ่มพี่หมอหมูและกลุ่มพี่ป๊อกกี้ เป็นต้น เพื่อให้การนัดหมายเป็นไปได้ด้วยดีครับ

จากนั้น เมื่อใกล้ถึงเวลา ผมเดินออกมาหน้าปากซอย หาของกิน(อย่างหิวครับ) ซัดข้าวหมูทอดไข่ดาวไป 1 จาน ก่อนที่จะเรียกแท๊กซี่ เดินทางไปสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต เพื่อนั่งรถไฟฟ้าไปสยาม สถานที่นัดหมายของรถตู้คันที่สอง(คันแรก ออกที่พัฒนาการครับ แต่จะมาเจอกันที่ปั้มน้ำมันแถวพระรามสอง)
ที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต พี่โหน่งพึ่งมาถึงพอดีครับ ในเวลานั้น ผมกับแกกลายเป็นตัวประหลาดเพราะแบกกระเป๋าดูรุงรัง ในขณะที่รอบๆ มีแต่คนที่พึ่งจะเลิกงานกันทั้งนั้น

เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้าสยาม ผมรอรับหมู ที่จะมาถึงในไม่ช้า ก่อนจะไปสมทบกับพี่โก้ ส่วนพี่โหน่งหันไปแป๊บเดียว แฮมเบอร์เกอร์ก็เข้าไปอยู่ในปากแล้วครับ ท่าทางแกก็หิวเหมือนกัน

ตอนแรกนัดกับหมูที่หน้าร้าน Black Canyon ตรงสถานีครับ แต่สื่อสารกันผิดพลาด หมูไปที่ร้าน Black Canyon ในตัวอาคาร(ไอ้ผมก็ไม่ใช่เด็กสยามซะด้วยซิ เดินยังไม่ค่อยมาเดินเลยครับ 555)
ไม่แปลกใจครับ กระเป๋า Gear Bag ใบใหญ่ของหมู ทำให้การเดินทางค่อนข้างจะลำบาก แม้จะลากได้ก็เถอะ กว่าจะขึ้น จะลงบันได ก็ยากอยู่บ้าง

ได้สมาชิกครบแล้ว ลงไปหาพี่โก้ พี่เอ บริเวณน้ำพุครับ นานแล้วเหมือนกันที่ผมไม่ได้ดำน้ำกับพี่เอ พี่โก้ นับเวลาแล้วก็หนึ่งปี พอดีครับ

ใกล้ๆพี่เอ ก็ยังมีพี่ปลา ที่ผมไม่ได้เจออีกเลยหลังจากทริปโลซิน เมื่อสองปีก่อน นอกจากนี้ก็ยังมีพี่ป้อมและพี่แอ้ ที่จะมาร่วมทริปกับเราด้วยครับ(สำหรับพี่แอ้ พี่เอบอกว่า พี่แอ้เขียนเรื่องเกี่ยวกับทะเล ลงในหนังสือมาแล้วด้วย)

รถตู้ค่อนข้างใหม่ครับ แถมเพดานก็สูงแบบนี้ ไม่มีปัญหาเวลารถกระแทกแล้วหัวชนเพดานแน่ๆ(คราวก่อนเจอรถที่เพดานเตี๊ย โขกไปหลายทีเลยล่ะครับ 55)

มาถึงปั้มแถวพระรามสอง เจอกับสมาชิกในรถตู้อีกคัน พี่พี่ปุ๋ม พี่พิช น้อยหน่า พี่เจน(หนูเจน) พี่เต้(แสนสิริ) พี่หมี(White Shark) พี่วิลลี่(ไม่คิดว่าจะเจอแกที่นี่ครับ พึ่งเจอที่เกาะหลีเป๊ะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เอง) พี่ป๊อกกี้ ที่พึ่งได้เจอตัวจริง หลังจากคุยในเว็บมานาน แกยิ้มแย้มและอัธยาศัยดีมากครับ ผมถามแกเรื่องปลา Stone fish ที่ถ่ายมาจากบริเวณเรือจมที่พัทยา แกบอกต้องลองหา ดู อาจมีอีกก็ได้(ส่วนใหญ่เรามักจะเจอ Tassled Scorpionfish มากกว่าครับ ส่วน Stone fish จะพบได้ยากกว่า แต่เราก็เรียกว่าปลาหินเหมือนกันนั่นแหละ 555 ) ส่วนพี่ป้อมออกเดินทางจากกรุงเทพไปตั้งแต่บ่ายๆแล้วครับ

เดินทางต่อครับ รถของผมมี พี่หมี(White Shark) มาเพิ่มอีกหนึ่งคน แกเป็นคนเงียบๆ แต่พอได้คุยแล้ว แกก็คุยดีครับ เท่าที่ทราบทริปนี้มีกล้องเยอะมากๆครับ ไม่ว่าจะเป็นพี่ป๊อกกี้ พี่เอ พี่หมอหมู พี่หมี(White Shark) พี่โก้ พี่ปุ๋ม เป็นต้น (โปรชนโปรแค่คิดก็มันแล้วครับ 55)

พี่โก้บอกว่า ที่ อ. กุยบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ มีม๊อบปิดถนน เราอาจจะต้องอ้อมไปอีกทางหนึ่ง(พี่ป้อมแจ้งข่าวมาอีกทีน่ะครับ)

โทรติดต่อพี่หมอหมู แกบอกว่าอยู่หลังผม 30 กิโล ครับ ถ้าแวะปั้มให้ผมโทรบอกแกด้วย(พี่หมอขับรถส่วนตัวตามมาที่หลังครับ Start ที่ จ. สมุทรสงคราม ) จากนั้นไม่นานพี่โก้ก็ได้คุยกับพี่หมอหมูครับ บอกว่า พี่หมอแซงหน้ารถพวกเราไปแล้ว อยู่สี่แยกปฐมพรแล้ว ผมเลยคิดว่า ถึงปั้มคงไม่ต้องโทรหาแกแล้วล่ะ

เมื่อถึงปั้ม(จำได้ดีครับ ตอนกลับมาจากดำน้ำที่เกาะเต่า ผมก็แวะปั้มนี้ ที่ซื้อแผ่นหนัง แมคเบจนั่นแหละ) หลังจากหาของกินเรียบร้อย ก่อนขึ้นรถ สายตาผมก็เห็นชายคนหนึ่ง ผิวคล้ำ สวมแว่นตา มีผ้าเช็ดตัวสีขาวอยู่บริเวณคอราวกับว่าพึ่งกลับมาจากการเล่นกีฬา ลงมาจากรถเชฟโรเลด มองมาที่ผม ผมยังคิดในใจเล่นๆ ว่า


“ ลุง ดึกป่านนี้ ยังมาเล่นกีฬา อะไรอีกเนี่ย”

ก่อนรถจะออก พี่หมอหมูโทรมาครับ บอกว่าอยู่ที่ปั้ม พี่โก้บอกให้จอด พอทราบว่าเป็นปั้มเดียวกัน และมารถเชฟโรเลดซะด้วย พี่โก้เลยลงไปดู และไปคุย ไม่นานนัก ชายคนนั้น เดินมาที่รถตู้ ใช่พี่หมอแน่ๆ

“สวัสดีครับพี่หมอ นึกว่าพี่ขับเลยไปแล้วซะอีก” ผมยกมือไหว้และพูดคุย

“สวัสดีภพ และทุกๆคนครับ” พี่หมอพูด และแนะนำสาวน้อยคนหนึ่งในชุดสีชมพูหน้าตาน่ารัก หนึ่งในสมาชิกใน5 คน ของพี่หมอ

“สวัสดีค่ะทุกคน คนนี้เหรอคะพี่หมอ ที่ใช้ชื่อ kasab เคยเข้าไปอ่านเรื่องของพี่ ชื่อนุ๊กนะคะ” เธอพูดจาอย่างฉะฉาน

“ครับ สวัสดีครับ” ผมแปลกใจเล็กน้อย ที่เธอเคยเข้ามาอ่านเรื่องของผมด้วยแต่ก็ดีใจครับ(ภายหลังที่คุยกันจึงทราบว่าผมอายุอ่อนกว่าเธอ หนึ่งปีน่ะ 555)

ประมาณตีสาม เรามาถึงที่ท่าเรือท่ายาง จ.ชุมพร เรือ Liveaboard หลายลำมักจะมาหลบคลื่นลมที่นี่(สมัยก่อนเรือ Cabana MV-1 ก็จอดที่หน้าหาดทุ่ววัวแล่น บริเวณหน้ารีสอร์ทครับ แต่หลังๆเห็นว่ามาจอดตรงนี้เพราะบางทีตรงจุดนั้นก็มีลมแรงเป็นอย่างมาก)

เราช่วยกันทยอยขนสัมภาระออกจากรถตู้ ด้านหน้าของเรา คือ เรือโชคทวี(หรืออีกชื่อ คือ เรือ Scubatech) ต้องก้าวข้ามลำนี้ไป จึงจะถึงเรือ Cabana MV-1 ครับ ระหว่างที่กำลังขนของอย่างยากลำบาก(กลัวตกน้ำเหมือนกันครับ) พี่อั๋น หนึ่งใน Staff ของเรือ ก็ขับดิงกี้ มารับสัมภาระ ทำให้เราก้าวข้ามไปแต่ตัว สะดวก สบายดีครับ

“หวัดดีครับพี่แจ้ ไม่ได้เจอนานเลยพี่” ผมทักทายพี่แจ้ หนึ่งใน Staff ของเรือ และเป็น Divemaster ผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่เป็นอย่างมาก ว่ากันว่า หลายๆคนมาดำน้ำกับเรือลำนี้ เพื่อให้พี่แจ้เป็น Leader เลยล่ะ

“สวัสดีครับ ภพ” พี่แจ้ ยิ้มแย้ม จะว่าไป(ผมดำน้ำทริปเดียวกับพี่แจ้ครั้งสุดท้ายก็หลายปีมาแล้วนะ)

บรรยากาศค่อนข้างคุ้นเคยครับ เพราะ Staff หลายคน ผมคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี และเคยถ่ายรูปไว้ตอนมาเรียนดำน้ำด้วย เหมือนได้กลับมายังบ้านอีกหลังเลยครับ

สำรวจเรือเล็กน้อยครับ ด้านบนก็มีที่นั่งเป็นเบาะโดยรอบ กว้างขวางดีมาก ออกไปก็มีส่วนที่ออกไปด้านหน้าเรือ ไว้ให้ถ่ายรูปกัน แบบนี้ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องมีดาดฟ้าของเรือเลยล่ะครับ

เท่าที่สอบถาม Staff ของเรือ คนหนึ่ง ซึ่งเล่าว่า สัปดาห์นี้มีเรือ Cabana MV-1 ออกลำเดียวเท่านั้น ซึ่งผมไม่เคยเดินทางโดยมีเรือออกจำนวนน้อยแบบนี้เลยนะ
เข้ามาที่ห้อง Living room ผมยังจำโซฟาตัวนี้ได้ดี ตอนมาเรียนดำน้ำก็ใช้นอนพักผ่อน ยังจำประสบการณ์ดีๆ ที่เห็นเต่ากระว่ายน้ำ และกุ้งตัวยาวได้เลยล่ะครับ

พี่ป้อมบอกให้ผมไปนอนที่ห้องข้างล่างครับ แต่ผมอยากนอนที่ Living room มากกว่า พอเข้าไปที่ห้องมีคนนอนหลับอยู่แล้วด้วยครับ(เหลือที่ว่างอีกหนึ่งที่) แต่ยังไงก็เกรงใจพวกเขาน่ะ(ผมว่าผมอยู่ด้านบนสบายกว่านะ แม้จะต้องนอนหลังคนอื่นก็เถอะ)

ไม่นานนักพี่หมอหมูก็มาถึงครับ พร้อมกับนุ๊กและพี่ปุ่น(สมาชิกในกลุ่มพี่หมออีกคน) แต่เนื่องจากนี่ก็ดึกมากแล้ว ทุกคนต่างก็รีบแยกย้ายกันไปพักผ่อนครับ พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้า คงเหลือแต่คนที่นอนในห้องนี้ และช่างกล้องที่เอาอุปกรณ์ออกมามาประกอบ

เริ่มจากพี่ป๊อคกี้ที่มากับกระเป๋าใบใหญ่ แต่ประกอบเสร็จเร็วมากๆ ครับ พี่ป๊อคกี้บอกว่า กลัวไม่มีเวลาประกอบก็เลยทำมาบ้างบางส่วนแล้ว แกเลยประกอบเสร็จเป็นคนแรกครับ( ใครอยากเห็นผลงานพี่ป๊อคกี้ว่าเจ๋งแค่ไหน เข้าไปดูได้ที่ http://www.pockytg.multiply.com/

ต่อด้วยพี่เอ ที่ผมคุ้นตากับกล้องของแกอย่างดี รูปร่างเหมือนแมงมุมแบบนี้ เห็นบ่อยครับ รูปสวยขั้นเทพของพี่เอ ติดตามได้ที่ http://www.a1visual.multiply.com/

จากนั้นก็เป็นคิวของพี่โก้ พี่ปุ๋มและพี่โหน่งกันบ้าง พวกพี่ๆมีมัลติพลายเหมือนกันครับ ติดตามได้ที่ http://www.letsko.multiply.com/ http://www.poompimpam.multiply.com/ http://www.supernong.multiply.com/

พี่หมี (White Shark) ก็ขึ้นมาประกอบด้วยครับ แกฝีมือดีแน่นอน มัลติพลายของพี่หมี คือ http://www.optionm.multiply.com/

ของใหญ่อยู่ที่นี่ครับ พี่หมอหมูขึ้นมาประกอบกล้อง ซึ่งใหญ่และมีน้ำหนักพอสมควร ผมดูๆไปนึกถึงการปิดทองฝังลูกนิมิตเลยครับ(ดูจากความใหญ่และสายที่คล้อง) แต่กล้องนี้แหละ ที่ทำให้พี่หมอหมู ถ่ายรูปสวยมากๆมาฝากอยู่หลายทริปแล้ว ติดตามผลงานของพี่หมอได้ที่ http://www.suriyanun.multiply.com/

ก่อนนอนผมไม่ลืมกินยาแอคติเฟด เพื่อช่วยในการเคลียร์หูในวันรุ่งขึ้น มีหมอน มีผ้าห่มแล้ว นอนดีกว่า ดีใจครับ พรุ่งนี้จะได้ดำน้ำ สำรวจโลกของสัตว์ทะเลที่รักอีกครั้ง

11 ตุลาคม 2551

นอนหลับสบายครับ หันไปรอบๆ ทุกคนตื่นกันหมดแล้ว ผมจะรอช้าอยู่ไม่ได้ ทำธุระยามเช้าแล้วรีบขึ้นไปด้านบนดีกว่า

ข้างบนมีขนมปังทาแยมและทาเนยกับขนมปังหวานม้วนกลมเหมือนก้นหอย มีลูกเกดด้วย(ก็เรียกไม่ถูกเหมือนกันครับ แต่ผมเลือกกินเจ้านี้แหละ อร่อยดี จากนั้นก็ตบท้ายด้วยกล้วยหอม ให้พอมีอาหารในท้องหน่อย)

“อ้าว เฮ้ย โอเลี้ยงมาไงวะเนี่ย” ผมแปลกใจเพราะเจอเพื่อนที่โรงเรียนเก่ามาอยู่บนเรือซะได้

“เพื่อนมันชวนมาน่ะ”

โอเลี้ยง เป็นนักเรียนเก่าวชิราวุธรุ่น 72 คณะดุสิต เป็นรุ่นน้องผมหนึ่งปี แต่ชั้นติดกันก็เรียกเป็นเพื่อนกันครับ แปลกดี ไม่คิดว่าจะเจอโอวี บนเรือ พอนึกๆ ดูในชื่อที่อยู่ในlist ของพี่หมอ นอกจากนุ๊กและพี่ปุ่น ก็ยังมีนิคและเนต(อืม ผมจำได้แล้ว โอเลี้ยง ชื่อเล่นว่านิคนี่นา)

เท่าที่ดูจากรายชื่อนักดำน้ำแล้วทั้งหมดมีสี่ชุดครับ คือชุดของพี่แจ้ ชุดของพี่พิช ชุดของพี่โก้ และชุดของพี่วิลลี่ น่าแปลกว่าไม่มีชื่อพี่ป้อม นึกนานๆ จึงคิดได้ว่า แกคงเหนื่อยเพราะพึ่งกลับมาจากทริปโลซิน แถมในตอนแรกทริปนี้ก็จะล่มอยู่แล้วนี่นา (โชคดี ไม่งั้นอดมาแน่ๆ)

แย่ล่ะ ผมต้องรีบแล้ว ผมยังไม่ได้ประกอบชุดอะไรเลย(คนอื่นทำกันหมดแล้ว) ลงไปด้านล่าง นำ BCD และ Regulator มาประกอบกับ Tank(คราวนี้ Regulator ของผมแปลกครับ ไม่มี Octopus) พี่โก้บอกว่าใช้ได้ แต่ผมคิดว่า ใครก็มาเอาอากาศของผมไปไม่ได้แน่ๆ ต้องผลัดกันแชร์สถานเดียว 555(อย่าลืมว่าห้ามกลั้นหายใจนะครับ เวลาขึ้นต้องทำซีซาร์อันนี้ผมจำได้ดี)

ชุดของผมมี พี่วิลลี่ พี่ดล พี่บุญชัย บ๊อบ และพี่โหน่ง ผมยังคงแต่งตัวช้าที่สุดเหมือนเคย กว่าจะใส่ชุด กว่าจะสวมเข็มขัดตะกั่ว จนถูก Psycho ว่า

“แต่งตัว ไม่ต้องรีบก็ได้นะภพ”

นั่นเป็นเสียงที่ทำให้ต้องรีบครับ แต่ต้องทำให้ปลอดภัยที่สุด ทำอย่างมีคุณภาพ เช็คอุปกรณ์ด้วยตนเองให้เรียบร้อย แม้จะมี Staff คอยดูแลให้อยู่แล้วก็ตาม

ไดฟ์แรก เราจะลงดำน้ำกันที่ ร้านไก่ โดยมีสัตว์ทะเลหลายชนิด เช่น ปะการังดำ ทากทะเล ฝูงปลาข้างเหลือง เป็นต้น

0 Comments:

Post a Comment

<< Home