หวนคืนความหลังกับ “คืนสู่เหย้า ชาวโอวี 2551”
วันเสาร์ที่ผ่านมา มีงานคืนสู่เหย้าที่โรงเรียนครับ ช่วงบ่ายมีการแข่งขันกีฬาระหว่างศิษย์เก่ากับศิษย์ปัจจุบัน แน่นอนว่ากีฬาที่ผมถนัดที่สุดก็คือ บาสเกตบอลนั่นเอง
รุ่นพี่สองคนที่ชื่อต้นทั้งคู่(พี่กุลธน ประจวบเหมาะ และพี่ภัคพงษ์ จักษุรักษ์) บอกว่า “พวกกูลงทุนให้พวกมึงขนาดนี้ เอาชนะให้ได้นะเว้ย” 555 ปีนี้มีเสื้อแจกด้วยครับ โอ้ ดีจริง
ปีนี้ได้เล่นที่ Indoor ด้วย ตัดปัญหาเรื่องแดดร้อนไปได้ เริ่มกันเลยดีกว่า
สามควอเตอร์แรก โอวีนำศิษย์ปัจจุบันสิบแต้มครับ ผมทำได้ หกคะแนน(จากสองลูกที่เข้าไปเลย์-อัพวางใกล้ๆแป้นและชู๊ตใต้แป้น บทเรียนสอนให้รู้ว่า หากไม่ค่อยได้ซ้อม ชู๊ตใกล้ๆจะชัวร์ที่สุดครับ) (พลาดลูกโทษไปสองคะแนนครับ 555 พอเหนื่อยศูนย์เบี้ยวไปหมด)
แต่บาสมีสี่ควอเตอร์ครับ จบเกมโอวีแพ้ศิษย์ปัจจุบันแปดแต้มเพราะไม่อาจป้องกันการเล่น Fast-Break (การเล่มเกมเร็ว) ของน้องๆได้(หากป้องกันไม่ดีเพียงนิดเดียว จะมีช่องทำคะแนนทันที)
ด้วยความฟิตที่ผิดกัน ทำให้เกมเกิดความแตกต่าง แต่ก็สนุกสนานดีครับ ได้ร่วมเล่นกับพี่ๆและน้องๆอีกหลายรุ่น แต่ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีครับเพราะปกติจะโดนเด็กถล่มมากกว่านี้ ปีนี้โดนแค่แปดแต้มเอง ปีหน้ามีเฮแน่น้อง 555 (โชคดีปีนี้ ไอ้เด็กที่สูง 192 มันจบไปแล้วครับ ไม่งั้นผมคงแย่งบอลได้ยากกว่านี้)
จบจากเกมนี้ ผมกับเพื่อนๆไปเล่นบาสต่อกันที่แป้นใกล้ตึกศิลปะ ใกล้ๆก็มีเด็กเล็กทั้งสามคณะ มานั่งดูรักบี้ครับ แต่ค่อนข้างจะหันมาดูบาสกันมากกว่า (ไม่ก็ดึงหญ้าเล่นกัน 55)
“พี่เบอร์หกครับ Dunk โชว์หน่อยซิพี่”
“พี่โย่ง Dunk โชว์หน่อยนะ”
ไอ้ผมก็อยากโชว์เด็กครับ เรียกร้องกันเหลือเกิน แต่ลูกบาสแบบนี้ เวลาขึ้นไป จะจับหลุดมือทุกที จากนั้นด้วยความบังเอิญ เดินไปอีกนิด ผมเจอลูกบาสแฟบๆ(ไม่มีลม) อยู่หนึ่งลูกครับ(สนุกละซิ ถ้าแบบนี้ ก็มีลุ้น)
ก็เหลือแต่แรงกระโดดครับ แน่นอนว่า คงสู้สมัย ม ปลาย ไม่ได้ แต่ก็น่าจะลองดู
ครั้งแรก ติดอยู่ขอบห่วงครับ(หน้าแตก) แต่ไอ้เด็กพวกนี้ ก็ยังอุตส่าห์ดูนะ(ไม่กลัวผิดหวังเหรอน้อง พี่หน้าแตกไปแล้วนะ)
ครั้งที่สอง ผมรวบรวมสมาธิ กระโดดให้สูงขึ้น ได้ผลครับ ผม Dunk ลงไปได้ เสียงปรบมือเกรียวกราว
แล้วครั้งที่สามก็ตามมาอีกที ก็ยังทำได้อยู่ แต่ทรงตัวไม่อยู่ ล้มนิดหน่อยครับ(พอดีกว่า พอหอมปากหอมคอ)
แม้จะมีเสียงเด็กๆ เรียกร้องอีก ก็ไม่เอาแล้วครับ ผมกลัวแขนหัก ขาหักน่ะ เดี๋ยวจะอดดำน้ำ แย่แน่ๆ 555(เพื่อนผมชื่อ เฉียด มัน Dunk โชว์สาวครับ ผลคือ แขนหัก ในขณะที่เพื่อนอีกคน ชื่อกล้วย นั่นโหนแป้นเล่น ตกลงมาก็ขาหักน่ะ)
ตกกลางคืน มีออกร้านอาหาร และมีดนตรีที่สนามหน้า ทุกๆคน ดูมีความสุขกันดีครับ ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการได้พบปะเพื่อนฝูง รุ่นน้อง รุ่นพี่ อีกแล้ว
ขากลับ ผมมีโอกาสได้เข้าไปที่คณะผู้บังคับการ นึกถึงความหลังสมัยเป็นเด็กเลยครับ
ทั้งบันไดที่พี่ จักรพันธ์ โปษยกฤต เคยพูดถึง(ตอนนี้ สร้างบันไดใหม่แล้วครับ สามารถขึ้นไปสู่ชั้นบนได้เหมือนเดิม สมัยผมตรงนี้ถูกปิดตายไปเลยครับ เขาคงไม่อยากให้เด็กแอบหนีขึ้นไปงีบน่ะ)
ทั้งบรรยากาศในห้องต่างๆ ที่ผมและเพื่อนๆเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
“น้องๆ นั่งแบบนี้ เสียบุคลิกหมด ขยันดีแล้ว อยู่ชั้นอะไรครับ” เด็กน้อยรูปร่างผอม กำลังอ่านหนังสือแบบไหล่ตกๆ ไหลลงมาจนเกือบถึงที่รองนั่ง
“ม 1 ครับพี่”
หากไม่นับว่าน้องคนนี้ใส่แว่นแล้ว รูปร่างผอมๆ ไหล่ตกแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงตัวเองในวัยเด็กได้เลย
เป็นวันคืน ที่ผมมีความสุขมากๆครับ อยากให้มีทุกๆวันเลยล่ะ ^^
0 Comments:
Post a Comment
<< Home