Monday, January 12, 2009

อันดามันใต้….ดินแดนปะการังอ่อน(4)







Dive 9 น้ำแรง หน้าหงายจนน้ำเข้าหน้ากาก!!!!

ตอนไต่เชือกลงไป น้ำแรงจริงๆครับ แรงจนว่าถ้าไม่จับเชือก ปลิวแน่นอน แรงขนาดที่ว่าทำให้หน้ากากขยับเขยื้อนจนน้ำเข้าหน้ากากไปหนึ่งข้าง ผมต้องปิดตาข้างนึงเลยครับ

เกาะเชือกจนมาถึงด้านล่าง กระแสน้ำเบาลงครับ พี่สมนึกทำสัญญานให้ปล่อยเชือก เพราะเชือกจะหลุดจากเรืออยู่แล้วครับ(แกช่วยจับเชือกอยู่) ในขณะที่ด้านบนก็ยังมีคนเกาะเชือกลงมาอยู่ด้วย

ผมอยู่นิ่งๆ ที่พื้น พยายามเคลียร์น้ำออกจากหน้ากากให้ได้ เพราะการมองเห็นแค่ข้างเดียว ทำให้การมองไม่มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม ในใจก็จะมีแต่ความกังวลด้วยครับ

เคลียร์อยู่ซักพักจน พี่สมนึกหันมาดูว่า เสียงอะไรนะ ดังมากๆ(เสียงเคลียร์หน้ากากของผมเองพี่)

ฉลุยครับ น้ำออกจากหน้ากากจนหมด(นึกว่าจะแย่) คราวนี้ชัดทั้งสองข้างแล้ว ไปกันต่อเลยครับ

มีปะการังอ่อน(Soft Coral) อยู่หลายสีครับ ขึ้นเป็นหย่อมๆ แต่ค่อนข้างเยอะ ผมถ่ายรูปปะการังอ่อนสีขาว สีม่วงและสีขาวอมชมพู

เจอเทอร์โมคลายอีกแล้วครับ มาคราวนี้ผมถูกโฉลกกับเจ้านี่จริงๆ 555


มีปลาสิงโตอยู่สองชนิดที่นี่ คือ ปลาสิงโต(Common Lionfish) และปลาสิงโตครีบจุด(Spotfin Lionfish) มาคราวนี้ผมเจอปลาสิงโตสามชนิดแล้วล่ะ 555


มีอวนขนาดใหญ่ที่นี่ครับ ลักษณะความหนา พอๆกับอวนที่หินเพิง ไม่สามารถใช้มือกระชากออกได้ ผมก็เลยได้แค่ถ่ายรูปไว้ และปล่อยไปก่อนครับ


แป๊บเดียวเหลือผมกับพี่มนตรีแค่สองคน พยายามมองหา Leader ซักพักพี่สมนึกก็เข้ามาตามไปเข้ากลุ่ม(วันนี้ น้ำไม่ถึงกับใสครับ มีตะกอนด้วยล่ะ)


ตรงจุดนี้ พี่สมนึกให้ผมรอนิ่งๆ เพราะเหมือนจะมีอะไรครับ พอตรงนั้นว่างจากการถ่ายรูป แกก็เรียกผมเข้ามาดูบ้าง ตรงนี้มีสัตว์ทะเลอยู่หลายชนิดเลยล่ะ


ขวาสุด ติดก้อนหิน มีหมึกยักษ์(Octopus) อยู่หนึ่งตัว มองเห็นชัดเลยครับ เพราะเขาออกมาจากโพรงค่อนข้างเยอะ ถัดมาซักสิบ ซม มีปลาแมงป่องเกล็ดเล็ก(Tassled Scorpionfish) ด้วย


ถัดจากปลาแมงป่อง มีนูดี้ ประมาณ 4 ตัวครับ อยู่ติดๆกันเลย ลักษณะมีสีดำ มีจุดสีส้ม(ไม่เหมือนของเมื่อวานนะ) ดูแล้วเหมือนทากสองหางจุดแดง(Chelidonura punctata) ที่สุดครับ


ระหว่างที่ผมกำลังถ่ายเม่นทะเล พี่แดงเรียกให้ผมมาดูทากที่เกาะอยู่บริเวณทางลงของผาเตี๊ยๆ(จะเข้าใจไหมเนี่ย) เอาเป็นว่า เธอตาดีจริงๆครับ ไม่รู้ไปหาทากที่อยู่ตรงนั้นเจอได้ยังไง


ดูแล้วเป็น ทากเปลือยอานม้าสามชั้น(Ceratosoma trilobatum)แม้จะมองไม่เห็นส่วนยาวที่ยืดออกมา แต่ลักษณะลำตัวที่ออกม่วงเข้ม ไม่ใช่ลำตัวสีขาว จึงตัดอีกชนิดที่คล้ายกันออกไปได้เลย


มากันต่อครับ พี่สมนึกให้ผมและทุกคน รอบริเวณนี้ แกไปเรียกพี่ตุ๋งกับพี่ตาลให้ไปดูตรงจุดเมื่อซักครู่ ที่มีนูดี้ หมึกยักษ์ และปลาแมงป่องครับ


ผมใช้เวลาช่วงนี้ ไม่ให้เปล่าประโยชน์ ด้านหน้ามีดอกไม้ทะเลกับปลาการ์ตูนปานดำ(Red Saddleback Anemonefish) พอดี ผมเลยพยายามถ่ายรูปพวกเขาให้ออกมาชัดๆ(แบบถ่ายนีโม เมื่อวานนี้น่ะครับ) ได้เต็มตัวซะที


เห็นพี่แดงทำท่าจะถ่ายเหมือนกันครับ ผมเลิกถ่ายไปแล้ว เลยขยับให้พี่แดงมาอยู่ตรงที่ของผมแทน เพราะถ่ายได้ง่ายกว่าและสวยกว่า(ทำสัญญานบอก ก็เป็นอันรู้กันครับ)


อากาศใกล้ๆหมดแล้วครับ คราวนี้จะหมดแบบเกลี้ยงจริงๆ ทำ Safety Stop เสร็จ อยู่ช้าไม่ได้แล้ว ขึ้นดีกว่า (แม้จะเหลือ 0 แต่ระหว่างตรงนั้น ห่างจากผิวน้ำเพียงไม่กี่เมตร ทำซีซ่าขึ้นจากน้ำได้สบายมากครับ ไม่มีอะไรต้องกลัว)



อาหารเช้ามีต้มเลือดหมู หมูสับ ลูกชิ้นหมู และเครื่องใน ผมเน้นหมูสับและลูกชิ้นหมูครับ(โชคดีที่มี) เพราะเครื่องในผมไม่ทานอยู่แล้วน่ะ(ลูกชิ้นอร่อยดีครับ)


พักประมาณสองชั่วโมง ก็ลงไดฟ์ต่อไปครับ เราจะลงกันที่เกาะสาวังเหมือนเดิมแต่คราวนี้เป็นด้านตะวันตกครับ(เมื่อวานนี้ลงด้านตะวันออก)



Dive 10 Sebae พึ่งเคยเห็น / Honeycomb Moray ก็เช่นกัน!!!

เหมือนเดิมครับ เราเริ่มจากที่ลึกก่อน ซึ่งเป็นปกติของการดำน้ำอยู่แล้ว จึงค่อยกลับไปสู่ที่ตื้น ยังเป็นพื้นทรายด้านนอกแนวปะการังครับ เทอร์โมคลายมา หนาวอีกแล้ว


เจ้าปลาตัวนึง จ้องมองผมเขม็งเลยครับ(เป็นพวกปลาเก๋า) เดี๋ยวก็จับกินหรอกเฮ้ย มีปัญหาหรือไง 55


มีลอบดักปลาของชาวประมง ใหญ่มากครับ เข้าไปนอนได้สบายๆเลย เท่าที่ดู ไม่ได้มีปลาติดอยู่ด้านในนะ


เจอกอดอกไม้ทะเลกับปลาการ์ตูนแล้วครับ(ได้เวลา Landing ถ่ายภาพ) เป็นปลาการ์ตูนอินเดียน(Skunk Anemonefish) คนจะเข้าใจผิดว่าเป็น Pink Anemonefish ซึ่งไม่ใช่เลยครับ


พี่สมนึกชี้ให้ดูปลากระเบนบนพื้นทรายครับ ลำตัวกลบอยู่ใต้ทรายแต่พอมองเห็นเป็นรูปร่าง เห็นดวงตาและหางโผล่ขึ้นมา ดูทรงแล้ว น่าจะเป็น Bluespotted Stingray ถ้าจะชัวร์ต้องเห็นสีที่ลำตัวก่อน แต่อย่าไปยุ่งกับเขาเลยครับ ให้เขานอนไปเถอะ


เจอปลาการ์ตูนอีกชนิดครับ ต้องลงมาถ่ายรูปเลยล่ะ เพราะตั้งแต่ดำน้ำพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก นี่คือ ปลาการ์ตูนสองบั้ง(Sebae Anemonefish) อยู่กับดอกไม้ทะเลชนิด Stichodactyla haddoni


อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นปลาการ์ตูนลายปล้องนะครับ(Clark’s Anemonefish) ตัวนี้หายากกว่านั้น ชอบอยู่บนพื้นทรายนอกแนวปะการัง มีแถบสีขาวเพียงสองแถบพาดขวางลำตัว ลักษณะคล้ายปลาการ์ตูนอานม้าแต่แถบสีขาวที่สองยาวลงมาจนถึงท้องเลยล่ะ


ถัดมาก็พึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก มองเผินๆอาจคิดว่าเป็นปลาไหลมอเรย์ม้าลาย(Zebra Moray) จริงๆไม่ใช่ครับ ตัวนี้ชื่อว่า Honeycomb Moray(Leopard Moray) ชื่อไทยจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ปลาไหลมอเรย์ลายเสือดาวแล้วกัน ลายสวยดีครับ เหมือนเสือดาวเลย

อุตส่าห์มาหลบอยู่ด้านนอกแนวปะการัง ลึกขนาดนี้ กลางคืนต้องมีเลื้อยออกมาหาของกินแน่ครับ 555


มาต่อกันที่เจ้านีโม (False Clown Anemonefish) กันครับก็ยังน่ารักไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยล่ะ


ดูที่ Dive Computer อีกสามนาทีผมจะติดดีคอมครับ ขี้เกียจมาแก้ด้วย และชีวิตนี้ ผมจะไม่มีวันติดดีคอมครับ ไม่ฝืนดีกว่า ผมลอยตัวขึ้นสูง จนเวลาในการดำน้ำเพิ่มมากขึ้น(สายตา จ้องมองพี่สมนึกจากด้านบนครับ)


มาเข้าสู่ที่ตื้นแล้วครับ มีปลาปักเป้าลายประหลาดอีกหนึ่งตัว รูปร่างอ้วนป้อม มีจุดสีดำรอบตัว เหมือนลายเสือดาวเลยครับ


และปลาการ์ตูนชนิดที่สี่ ที่ผมเห็นในไดฟ์นี้ คือ ปลาการ์ตูนปานดำ(Red Saddleback Anemonefish) มองเห็นดอกไม้ทะเลสีแดงชัดเจนครับ สีสดเหมือนตัวของเขาเลยล่ะ(มาไดฟ์นี้ ผมเจอปลาการ์ตูนสี่ชนิดเลยครับ ไม่แพ้ดำน้ำแบบสน๊อคเกิ้ลเลยล่ะ)


ปิดท้ายด้วยปะการังอ่อนที่เกาะสาวัง ที่อาศัยอยู่หนาแน่นมาก เต็มก้อนหินและพื้นเลยครับ สุดยอดจริงๆเลยล่ะ

อาหารกลางวันมีผัดไทกุ้งสด ข้าวผัดกุนเชียง ส่วนผลไม้มีมะม่วงสุกครับ


พักประมาณสองชั่วโมงนิดๆ ไดฟ์ต่อไป ครูตุ๋ม Brief ให้ฟังว่า เราจะลงดำน้ำกันที่เกาะประลัย(ไม่ใช่บรรลัยนะครับ 55) นอกจากปะการังอ่อน ก็จะมีนูดี้แปลกๆด้วยครับ มีโกบี้ มีPipefish และอาจเห็น Seamoth ก็ได้ ไปดูกันดีกว่า



Dive 11 ทากน่ารัก ชื่อ ปิกาจู!!!!

ลงมาได้ไม่นาน ที่พื้นทราย พี่สมนึกก็ชี้ให้ดูทากตัวนึงครับ เฮ้ย น่ารักดี นี่มันทากเปลือยปิกาจู(Thecacera sp.)นี่นา


ปิกาจู เป็นนูดี้ที่นักดำน้ำชื่อชอบครับ มีสีขาวเนื้อโปร่งแสง มีจุดสีส้มและสีดำกระจายรอบตัว มองดูแล้วผมนึกถึงขนมเด็กๆที่เคี๊ยวหนุบหนับเลยครับ


ผมเคยได้ยินชื่อปิกาจูครั้งแรก ก็จากพี่โก้ครับ จากนั้นก็พี่เจน ที่ทำท่าเหมือนปิกาจู( เอ้ะ ยังไง) มีคนแซวใน webboard ว่าเหมือนน่ะครับ ส่วนบนเรือ พี่แอ๊นซ์จะชอบและอยากเจอทากปิกาจูมากๆครับ(ทำเสียงเหมือนเด็กๆด้วยว่า เราอยากเจอปิกาจู) สมใจพี่แล้วครับ ไดฟ์นี้


ปิกาจูเป็นทากเฉพาะถิ่น มักจะอยู่บนไบรโอซัวที่เป็นอาหารของเขา


ว่ายต่อไปเจอดอกไม้ทะเลแปลกเลยถ่ายรูปมาครับ และเจอเทอร์โมคลาย(อีกแล้ว)


ด้านหน้ามีทากแปลกๆอีกตัวครับ เปิดหนังสือยังหาชื่อไม่ได้ ในเว็บมีแน่ครับแต่หายากน่าดู ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มีนะครับ แต่ผมไม่รู้สกุลของทากตัวนี้น่ะ จะได้หาได้ง่ายกว่านี้(ถ้าผมเรียน มารีน ไซน์ คงช่วยได้เยอะในการหาชื่อครับ)


ลักษณะของทากตัวนี้ ลำตัวมีสีขาว มีจุดสีเหมือนถั่วแดงกระจายอยู่ ขอบมีสีส้ม Rhinophoreและเหงือกมีสีเหมือนจุดที่กระจายบนลำตัว


เจอลูกหมึกกระดอง(Pharoah Cuttelfish) ครับ ถัดจากนั้นก็เจอแม่หมึกกระดอง ส่วนใหญ่มาที่นี่มักเจอหมึกบริเวณพื้นทรายนอกแนวปะการังครับ


จะติดดีคอมอีกแล้วครับ รีบตีขาขึ้นมาดีกว่า พอเข้ามาในที่ตื้น ก็เจอปลาปักเป้าหนามทุเรียน(Black Blotched Porcupinefish)


ตอนทำ Safety Stop สนุกดีครับ เพราะลอยตามกระแสน้ำ เห็นวิวปะการังอ่อนที่งามหยดย้อย



ขึ้นมาท้องฟ้าดำมืดเลยครับ และแล้วฝนก็ตก คราวนี้ยิ่งหนาวเลยครับ ฮากลิ้งกันทุกคน ผมยังมีอารมณ์สุนทรีย์ ถ่ายรูปบนผิวน้ำขณะฝนตกด้วย

ขึ้นมามีขนมเป็นของว่างจากครูจุ๋มครับ เป็นเค๊กที่มีลักษณะสองชั้น โดยระหว่างชั้นจะมีรสชาดความเค็ม อร่อยมากครับ ครุจุ๋มกลัวว่าจะเค็มไป แต่ผมชอบครับ อร่อยมาก มองดูแล้วขนมพอกับจำนวนคนแน่ๆ ขอต่ออีกชิ้นครับ(ลาภปาก)


เรื่อแล่นมาจอดใกล้ๆเกาะหินซ้อน ผมถ่ายรูปแบบ Wide เพราะคราวก่อนที่มา กล้องเดิมยังไม่มีโหมดนี้ครับ จากนั้นก็เริ่มที่จะเก็บภาพ พี่ Staff ที่เป็นพ่อครัว พี่ตู่ พี่อำนาจ พี่ Staff ที่กำลัง Clean Mask ของ Diver และบรรยากาศที่ชั้นล่างครับ


ขึ้นมาที่ห้องกัปตันวีระ กัปตันหลับพักผ่อนครับ(ตอนเรือแล่นฝ่าคลื่น บางทีทั้งคืน แกก็ไม่ได้นอนนะ ผมว่า) เห็นจอทีวี มีภาพที่ Plat form ขึ้นด้วยครับ ไฮเทคจริงๆ เพื่อความสะดวกในการสื่อสารน่ะ


นี่ก็พึ่ง 17:20 น. แม้จะเป็นไดฟ์ที่สี่ ก็ไม่ถือว่าเป็น Night Dive ครับ เรียกว่าโพล้เพล้เหมือนเดิม ครูตุ๋ม Brief ให้ฟังว่า เราจะลงกันที่เกาะหินซ้อน ให้เตรียมไฟฉายลงไปด้วย เพราะตอนขึ้นมาอาจจะมืด นัทไม่มีไฟฉาย เพราะวันนี้พี่มนตรีลงดำ แต่เห็นบอกว่า ตามๆไปได้ เพราะยังมีแสงพอเห็นครับ


Dive 12 เฝ้าดู ลีลากุ้งเต้น!!!!

เริ่มที่พื้นทรายครับ สิ่งที่ไม่เจอก็ไม่ได้ คือ เทอร์โมคลาย หนาว หนาวและก็หนาว ถ้ามีหญิงสาวมานอนกอดก็คงจะดีไม่น้อย(พี่ที่ทำงานเก่าผมบอกว่า หนาวเนื้อ ต้องห่มเนื้อซิน้อง ถึงจะหายหนาว 555)


ยังไม่ค่อยมีอะไรครับ เลยถ่ายรูปพี่สมนึกกำลังส่องไฟหาของ ถ้าแกเจออะไร แกจะส่องไฟฉายมาที่ผม เป็นสัญญานว่า ช่างกล้องพร้อม


นอกจากฟองน้ำรูปร่างแปลกๆ ด้านหน้าผมน่าจะเป็นบุ้งทะเลครับ สัตว์ทะเลชนิดหนี่ง(ก็ดูเหมือนบุ้งบนบกนี่แหละครับ555)


เจอของเด็ดอีกแล้วครับ ทากเปลือยปิกาจู(Thecacera sp.) จุดสีส้มและจุดสีดำรอบตัว ที่แปลกหน่อยคือ ปลายๆเหงือกจะมีสีดำด้วย น่าจะเป็นอีกรูปแบบนึงครับ


ต่อไปพี่สมนึกชี้ให้ดู กุ้งดอกไม้ทะเลก้ามขาว(Magnificent shrimp) ที่ผมเคยเจอแล้วเมื่อวานนี้ครับ ลืมเล่าให้ฟังว่า บางทีเขาก็เรียกว่ากุ้งเต้นรำ เพราะมักจะส่ายไปมาราวกับว่าเต้นรำ ผมมองดูยังไม่ชัดทีเดียวว่าเต้นครับ แต่กระโดดไปกระโดดมา ถ่ายรูปยากชะมัด นี่ใช่แน่ๆ


ต่อด้วยปูแต่งตัว(Decorate Crab) ทั้งตัวของปูแต่งตัว ตกแต่งไปด้วยสิ่งต่างๆ ทำให้มันพรางตัวได้อย่างดีเยี่ยม ป้องกันภัยที่จะมาถึง และน่าจะช่วยในการล่าเหยื่อด้วยครับ


ลงมาถ่ายรูปนีโม (False Clown Anemonefish) จากนั้นเห็นปลาสลิดหินสามจุด(Three-spot Dascyllus)กับปะการังเขากวาง เลยไปถ่ายใกล้ๆครับ


ปลาปักเป้าหน้าหมา(Blackspotted Puffer) ว่ายผ่านไปอย่างช้า หยุดก่อนเฮีย ขอถ่ายรูปแป๊บ


เข้ามาหาของในแนวปะการังบ้างครับ ผมถ่ายรูป หนอนพู่ฉัตร(Christmas tree worm)สีต่างๆ เริ่มจากสีเหลือง สีขาว สีน้ำเงินและสีแดง ใครตั้งชื่อหนอ เหมือนต้นคริสต์มาสจริงๆครับ


ปิดท้ายด้วยหอยมือเสือ(Giant Clam) ที่จะหุบฝาลงทุกครั้ง ถ้ามีคนเข้าไปใกล้ๆ


ขึ้นมาเมฆดำทะมึน ดูท่าฝนจะตกอีกแล้วล่ะ

กลุ่มของพี่อำนาจเจอ Seamothหรือปลาผีเสื้อกลางคืน ด้วยครับ(โชคดีจริงๆ) ผมดูรูปจากกล้องของเฮียช้วน คราวหน้าผมคงมีโอกาสได้เห็นพวกเขาบ้างนะ


คนรออาบน้ำเยอะมาก ผู้หญิงก็รอเต็มเลย ผมเสียสละมาอาบด้านนอกดีกว่าครับ จะได้เร็วขึ้น เจอพี่บิ๊กกับเฮียหมีด้วย แต่ด้านนอกไม่มีน้ำอุ่นนะครับ อาบไปหนาวไป พอลมพัดมาล่ะก็ บรื้อๆๆๆ


จากนั้น เช็ดกล้อง แล้วถอดHousing ออกมา ก็ขึ้นมาทานข้าวครับ


อาหารเย็นมี ซี่โครงหมูทอด ยอดมะพร้าวผัดผักกับกุ้ง แกงเขียวหวานไก่ ปลาทอด


ใน Living room เปิดหนังเรื่อง The Dark Night และอีกไม่นานเรือจะออกและมีคลื่นลม ใครเมาคลื่นเตรียมตัวทานยาแก้เมาได้เลย(เตรียมตัวเก็บเก้าอี้พลาสติคได้เลยครับเพราะเรือจะโคลงแน่ๆ)


เข้ามาดูหนังครับ ปวดตาเหมือนกัน แต่พยายามดูให้จบ ในขณะที่หลายๆคนค่อยๆออกไป เพราะในเวลานี้ เรือโคลงมาก ต่างคนทำท่าจะอาเจียน เลยรีบหาที่นอนดีกว่า


หนังจบแล้ว มีผม พี่แอ๊นซ์ พี่ตาล ที่ดูจบ แต่ผมก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ เริ่มมึน รีบลงไปนอนดีกว่า


3 มกราคม 2552

วันนี้เหลืออีกสามไดฟ์ครับ ก่อนที่จะนั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพ เวลาแห่งความสุขผ่านไปเร็วมาก


ขึ้นมาประกอบกล้องเหมือนเคยครับ ขนมปังทาแยมหนึ่งแผ่น วันนี้ลองรสบลูเบอร์รี่ดูบ้าง


ครูตุ๋ม Brief ให้ฟังว่า ไดฟ์แรกเราจะลงดำกันที่เกาะห้าเหนือ เป็นเกาะที่เล็กลงมารองจากเกาะห้าใหญ่(แต่อยู่ในหมู่เกาะห้าครับ) จะมีถ้ำให้ลอดเข้าไปและทะลุออกมา ภายในอาจเจอปลาที่อาศัยอยู่ในถ้ำ ชื่อว่า Bull’ s eye fish นอกจากนั้นก็จะมี Leopard Shark sea snake Jawfish Harlequin Ghost Pipefish lionfish เป็นต้น

0 Comments:

Post a Comment

<< Home