Monday, September 03, 2007

Scuba…..ที่เกาะเต่า(4)







Dive 6 Bull shark marathon / So close!!!!!!

เนื่องจากอากาศดี น้ำไม่แรงครับ ไดฟ์นี้เราจะลงกันที่กองชุมพรเหมือนเดิม พี่ๆหลายคนอยากไปถ่ายรูป Bull shark กันอีก บ้างก็ว่าจะถ่ายเป็นวีดีโอ

ไดฟ์ที่แล้วครูโก้ไปดูในกองนอก บ้านของ Bull shark แล้วไม่เจอครับ คราวนี้เลยดำจากด้านในก่อน แล้วค่อยออกไปด้านนอก

ตรงกันข้ามกับกลุ่มพี่ป้อมครับ คราวนี้พี่ป้อมจะพาผมและเพื่อนๆพี่ๆ ไปดูในกองนอกก่อน แล้วค่อยกลับมาด้านในกัน

ในระดับความลึกที่ 26.8 เมตร น้ำยังใสเห็นชัดเจนครับ (อ่อผมอยู่ตรงด้านนอกสุดครับ) มีแต่คนหันหน้ามาทางผม และชี้ไปด้านหลัง พอผมหันไป Bull shark ครับ!! มาเร็วกว่าที่คิด แถมคราวนี้อยู่ในระยะที่ใกล้มากด้วย พอหันมา Bull shark กำลังตรงเข้ามา เฮ้ย!! ว่ายผ่านขาผมไปแล้วครับ!!!

ระหว่างผมกับ Bull shark ขยับลงไปอีก 2-3 เมตร ก็ถึงพื้นทรายสามารถแตะถึงกันครับ ตื่นเต้นดีจริงเชียว(จะลองเอาขา ไปแตะไหม ผมว่าอย่าดีกว่าครับ 555)

เห็นได้ชัดว่า พวกเขาเชื่องและไม่กลัวคนครับ(ยังเป็นวัยรุ่นและยังโตไม่เต็มที่ครับ)

จากนั้น ด้านข้างผม Bull shark อีก 2 ตัว ตีคู่กันมา วนอยู่รอบๆ เราครับ คราวนี้ไม่เร็วเหมือนไดฟ์แรก พวกเขาว่ายช้าๆ ทุกคนมองตามกันอย่างเดียวครับ เป็นโอกาสที่ดีจริงๆ เหมือนโลกสงบนิ่ง มีเพียงนักดำน้ำกับ Bull shark เท่านั้นครับ

ต่อเนื่องครับ ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง(ผมถึงเรียกว่า มาราธอนไง) Bull shark ว่ายผ่านด้านล่างบ้าง ด้านข้างบ้าง วนไปวนมาตลอดครับ เราหันไปดูตลอดเวลา ความรู้สึกกลัวบอกตามตรงว่าไม่มีครับ มีแต่ความปีติยินดี ที่ได้มีโอกาสดีๆเช่นนี้(เจ้าของบ้านออกมาต้อนรับดีมากครับ)

อยากที่พี่ๆ พูดไว้ในเว็บ คือ มีไม่ต่ำกว่า 10 ตัว ผมไม่สงสัยเลยครับ ว่าจริง แม้บางตัวอาจจะเป็นตัวเดิม ที่ว่ายผ่านมาอีกรอบก็ตาม

ระหว่างที่พวกเราสนใจ Bull shark กัน มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมา 4- 5 ตัวครับ อยู่เหนือพื้นทรายประมาณ 4-5 เมตร พวกเขา คือ ปลาสากหางเหลือง(Yellow-tail Baracuda) คราวนี้ได้มีโอกาสเห็นใกล้ๆกว่าไดฟ์ที่แล้ว

ผมว่าดูน่ากลัวกว่าฉลามอีกครั้ง ตัวยาวเท่าโต๊ะ สายตาที่เยือกเย็น แถมฟันที่คมกริบในปาก อย่าโฉบมาทางนี้นะเว้ยๆ (ในสารคดี มีคนให้อาหารปลาสากครับ มันโฉบมากินกับมือ แค่เฉี่ยวๆ เลือดก็ออกแล้วครับ เย็บตั้งหลายเข็มแน่ะ)

พวกเราตีขาออกไปบริเวณน้ำใส เปลี่ยนระดับให้ตื้นขึ้น ไม่นานนักก็พบกับฝูงปลาหูช้างครีบยาว(Teira Batfish) 20-30 ตัว อยู่ใกล้ๆ พวกเรา พวกเขาเหมือนจะมาสังเกตการณ์พวกเราเหมือนกัน ไม่กลัวพวกเราเลย มีอยู่ตัวหนึ่ง อยู่ในระยะที่มือผม เอื้อมถึง เสียดายไม่มีกล้อง เลยกวักมือเรียกเดียร์ให้เข้ามาถ่าย แต่ก็ไม่ทันซะแล้วครับ

ที่เหลือก็เป็นปลาเก๋าหน้าแดง(Black-tipped grouper) ปลาสินสมุทรลายน้ำเงิน(Blue-ringed Anglefish) ครับ

เราจบไดฟ์นี้อย่างเรียบร้อย ฟ้ามืดครึ้ม ฝนก็ตกอย่างถูกจังหวะ เพราเป็นช่วงจบไดฟ์พอดี คลื่นเริ่มมา ตอนขึ้นเรือลำบากนิดหน่อยครับ เพราน้ำแรงจนทั้งตัวผมและแท๊งค์กระแทกบันไดเต็มๆ แต่ก็สนุกดีครับ ไม่บาดเจ็บอะไร

จูน ทำ pointer ตกน้ำไป ส่วนพี่โหน่ง ไม่ต้องพูดถึงครับ หลังจากไดฟ์แรก แกดำและหายใจเหมือนคนดำน้ำมานานมาก ใช้อากาศก็ไม่เปลือง ดำน้ำนิ่งมากๆครับ

ส่วนพี่อรรถและพี่ท๊อป แม้จะเป็น liveaboard ครั้งแรก แต่แกบอกค่อนข้างประทับใจมากๆครับ

ผมช่วยพี่ๆ ชุดหลัง ให้ขึ้นจากเรือ เช่น ดึงตัว ดึงแท๊งค์ เก็บฟิน ดึงเชือก เพราะน้ำแรงมาก หลายคนก็กระแทกกับบันไดเรือครับ ครูโก้บอกว่า อย่าพึ่งเข้าใกล้เรือ ไว้จะขึ้นค่อยเข้าไป จะได้ไม่โดนน้ำกระแทกกับบันได

พอขึ้นจากเรือหมด ฝนตกอย่างหนัก ลมแรง ทะเลคลั่งเลยครับ เรือของเรามุ่งหน้าไปจุดดำน้ำสุดท้ายของทริปนี้ คือ หินหลักง่าม

ช่วงนี้ทุกคนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานครับ ทั้งเรื่อง Bull shark ที่พี่โจบอกว่า เจอน้อยในไดฟ์นี้เพราะมาหาด้านในกับครูโก้ หลังจากไดฟ์ที่แล้วออกไปด้านนอกไม่เจอ ปรากฎว่าไดฟ์นี้ฉลามไปอยู่ที่กองนอก(ที่ผมเจอน่ะครับ)

บางคนก็นั่งกอดเก้าอี้ ไว้เพราะเรือโคลงเคลง staff ของเรือ ต้องช่วยกัน ปิดที่บังฝนด้วยครับ

ฟ้าหลังฝน งามจริงๆครับ ใส สีฟ้าสวย ผมไม่นอนแล้วครับ เดินหามุมถ่ายรูปดีกว่าแต่ต้องระวังลื่นล้มด้วยครับ



Dive 7 กระเบนเอ๋ย.... กระเบนทอง

ครูโก้บอกว่าพวกเราโชคดีมาก เพราะแม้ฝนจะพึ่งหยุดไป แต่น้ำที่หินหลักง่ามกลับใสแจ๋ว การมาในครั้งนี้คลื่นก็น้อยกว่าสัปดาห์ก่อนด้วย สำหรับหินหลักง่าม ความลึกสูงสุดประมาณ 20 เมตรครับ ถ้าเราโชคดีอาจเจอฉลามวาฬก็ได้ เพราะสัปดาห์ก่อน เรือโชคทวีก็เจอที่นี่ครับ แต่มองเห็นจากบนเรือนะ

เมื่อลงมา น้ำใสมากครับ ผมเห็นปลากระเบนทอง(Blue-spotted ribbontail ray) กำลังว่ายหลบไปใต้กองหิน สำหรับความแตกต่างระหว่าง Blue-spotted ribbontail ray กับ Blue-spotted stingray ที่เห็นได้ชัดนั้น อยู่ที่ลำตัวครับ Blue-spotted ribbontail ray ลำตัวรูปวงรี ส่วน Blue-spotted stingray ลำตัวจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เรียกทั่วๆไป ก็จะเป็นกระเบนจุดฟ้าเหมือนกันครับ

ผมเริ่มรู้สึกคลื่นไส้ เลยเปลี่ยนระดับมาให้ตื้นขึ้น พี่ป้อมกำลังเข้าไปหา Jans ‘ s pipefish หรือ ปลาจิ้มฟันจระเข้สีเพลิง ในโพรงถ้ำครับ(ตอนแรกลุ้นแถบตาย นึกว่าให้มุด เพราะผมเริ่มคลื่นไส้น่ะครับ มองดูจากด้านบนดีกว่า) ผมมองเห็นพี่โหน่งทำท่าจะเข้าถ้ำไป แล้วกลับตัวทันทีครับ 55(คงเห็นว่า ลอดไปไม่ได้น่ะครับ)

ที่ผาหินของหลักง่าม ผมสังเกตดู เพราะไม่ค่อยได้เห็นทากทะเล(Sea slug)เลย ก็พบจริงๆครับ เป็นทากปุ่มยักษ์ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phyllidia varicose พบได้ทั่วไป แต่ตัวนี้เล็กมากครับประมาณ 3-4 ซม เท่านั้นเอง

ปลาสินสมุทรลายน้ำเงิน(Blue-ringed Anglefish) สัญลักษณ์ของอ่าวไทย มีเหมือนกันครับ แต่ไม่เยอะเท่าที่โลซิน ไม่รู้ไปหลบอยู่ไหนหมด แต่อยากเห็นวัยเด็กมากๆครับ หลังจากเคยเห็นวัยเด็กของปลาสินสมุทรจักรพรรดิ(Emperor Anglefish) มาแล้ว

ปิดท้ายด้วย ปลาผีเสื้อเหลืองชุมพร(Weibel ‘ s Butterflyfish) ปลากระรอกลายแดง(Red coat ) และภาพสวยๆของแส้ทะเล และปะการังดำหลากสีสันครับ

ผมถ่ายรูปบรรยากาศบนเรือ เช่น พระอาทิตย์ที่กำลังตกด้านหน้าของเรือ , รูป staff ทุกคน เช่น แม่ครัว พี่หมึก ครูตั้ม และพี่ๆอีกหลายคน ที่ทำงานอย่างหนักในเบื้องหลังของความสำเร็จนี้ จากนั้นจึงอาบน้ำ จัดของเข้ากระเป๋า

“มีใบเหลียงผัดไข่ ด้วยเหรอครับ ของชอบเลย” ผมถามแม่ครัว

“ใช่จ๊ะ รีบแต่งตัวแล้ว ขึ้นไปทานเลย” แม่ครัวตอบและยิ้ม

หลังจากกินของอร่อยเสร็จ ผมให้พี่ๆ เขียน Log book ให้ตามธรรมเนียม เวลาได้รู้จักคนใหม่ๆ(มีตรา ยางปั้มด้วยครับ รูปแมนต้าด้วย ไม่พลาดแน่นอน)

จากนั้นให้กรอกแบบสอบถาม คอมเม้นการบริการของเรือ และ Tip box สำหรับ staff บนเรือ

ครูโก้ พี่ป้อม พี่สมบูรณ์ คุณนิคกี้ ครูตั้ม และพี่นิด(อรุณโรจน์ เลี่ยมทอง พิธีกรรายการ กล้าคิดกล้าทำ ทางช่อง 5 ที่ทราบเพราะพี่ป้อมบอกครับ) เล่าถึงความประทับใจ ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน


บทส่งท้าย

เป็นอีกครั้งสำหรับการเดินทางสำรวจโลกใต้ทะเลของผมครับ หวังว่าคงให้ความรู้กับทุกท่านได้ ไม่มากก็น้อยครับ

สำหรับเกาะเต่า ความทรงจำดีๆ ยังติดตราตรึงอยู่ในใจของผมเสมอ การมาครั้งนี้ ก็ยิ่งตอกย้ำให้หนักขึ้นว่า ที่นี่ไม่ใช่แค่ทางผ่าน แต่มีสิ่งมหัศจรรย์รอคอยทุกคนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นนักดำน้ำแบบ Scuba หรือ ผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำแบบ Snorkeling หรือผู้ที่ชอบหาดทราย สายลมและแสงแดด

อยากให้ทุกคนรักเกาะเต่าเหมือนผมเพราะที่นี่ก็คือ บ้านของพวกเราทุกคน ขอบคุณที่ติดตามเรื่องราวของผมอีกครั้งหนึ่งครับ




Phop Payapvipapong

28 August 2007

04.56 pm.

2 Comments:

At 10:44 AM, September 19, 2007, Anonymous Anonymous said...

อ่านจบแล้วแจ๋วจริงๆ ทำให้ความรู้สึกอยากเรียน Scuba เพิ่มขึ้นอีก So Great

 
At 2:41 PM, September 19, 2007, Blogger kasab71 said...

มาเรียนดำน้ำให้ได้นะครับ

ทะเลไทย มีสิ่งสวยงามอีกเพียบครับ

 

Post a Comment

<< Home