แฟนพันธุ์แท้ พระราชประวัติ รัชกาลที่ 6
ไม่แปลกใจเลยที่ผมรู้สึกตื่นเต้นกับหัวข้อในการแข่งขันแฟนพันธุ์แท้ในสัปดาห์นี้เป็นพิเศษ เมื่อได้ทราบ จึงต้องหยุดจากกิจกรรมทุกสิ่งทุกอย่างมาใจจดใจจ่อทางหน้าโทรทัศน์
สำหรับนักเรียนมหาดเล็กหลวงทุกคน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เปรียบเสมือนพระราชบิดา ที่นักเรียนทุกคนเคารพและยึดมั่นในพระราชดำรัสของท่าน
ยิ่งได้ทราบว่า มีนักเรียนวชิราวุธเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ด้วย(น้องชุมพล ฉายาว่า กินผ้า นักเรียนวชิราวุธรุ่น 79) ใยเลยรุ่นพี่อย่างผมจะไม่ตามเชียร์(นักเรียนวชิราวุธทุกคนจะมีฉายาที่พี่ตั้งให้ครับ)
ผมอินถึงขนาดโทรศัพท์ไปบอกเพื่อนๆให้ทราบกันเลยนะครับ(ขอหน่อยแล้วกัน)
ในรอบแรก น้องชุมพลผ่านเข้าไปเป็นคนสุดท้าย ส่วนในรอบต่อมา น้องชุมพลตอบข้อคุณสมบัติ โดยเปิดเพียงครั้งเดียว สามารถตอบได้อย่างถูกต้อง(คำใบ้มีแค่ว่า “เป็นพระราชโอรสของรัชกาลที่ 5” พระราชโอรสของรัชกาลที่ 5 มี 77 คนแน่ะ)
ในรอบชิงชนะเลิศ น้องชุมพลตอบพลาดไป จากยศ “พลเอกพิเศษ” ตอบแค่ว่า “พลเอก” ทำให้พลาดตำแหน่งแชมป์ไป
แต่ต้องยอมรับว่า แชมป์ นิ่งและรอบคอบกว่ามากครับ สมควรได้ตำแหน่งแชมป์แล้ว
ท้ายสุดนี้ ผมขออัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 2 ตอน ที่ผมไปค้นคว้า มาให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
ตอนที่ 1
“..... เจ้าเหล่านี้ ข้าถือเหมือนลูกของข้า ส่วนตัวเจ้า เจ้าก็ต้องรู้สึกว่าข้าเป็นพ่อเจ้า ธรรมดาพ่อกับลูก พ่อย่อมอยากให้ลูกดีเสมอ ถ้าลูกประพฤติตัวดีสมใจพ่อ พ่อก็มีใจยินดี ถ้าลูกเหลวไหลประพฤติแต่ความเสื่อมเสีย พ่อก็โทมนัส ลูกคนใดที่ประพฤติตนเลวทรามต่ำช้า เป็นเหตุให้พ่อได้ความโทมนัส ลูกคนนั้นเป็นลูกเนรคุณพ่อ......”
ตอนที่ 2
“….ข้าจะไม่โศกเศร้าเลย ถ้าเจ้ามารายงานว่าเด็กคนหนึ่งเขียนหนังสือไม่คล่อง คิดเลขซ้อนไม่เป็น และไม่รู้วิชาเรขาคณิตเลย;
ถ้าข้ารู้ว่าเด็กคนนั้นได้ศึกษาพอที่จะรู้ว่าความเป็นผู้ชายคืออะไร และขี้แยคืออะไร
ข้าไม่อยากได้ยิน “คนฉลาด” บ่นอีกว่า “ปัญญาท่วมหัวเอาตัวไม่รอด”
สิ่งที่ข้าต้องการในโรงเรียนมหาดเล็กหลวงคือ ให้การศึกษาเป็นเครื่องทำให้เด็กเป็นยุวชนที่น่ารักและเป็นพลเมืองดี ไม่ใช่ทำลายบุคลิกภาพเสียหมด โดยบรรจุหลักสูตรลงไป….
…..ถ้าข้าอยากจะได้โรงเรียนธรรมดาเพียงหลังหนึ่ง แล้วสร้างเป็นโรงเรียนไปมาจะไม่ดีกว่าหรือ จะสร้างโรงเรียนกินนอนขึ้นมาทำไม?
….สำหรับโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ข้าไม่ห่วงการปั้นนักเรียนชั้นมัธยมให้เป็นเทวดาเหมือนกันหมด ทุกคนได้คะแนนกันคนละหลายพันคะแนน
เท่ากับการสร้างเด็กหนุ่มที่ขยันขันแข็ง และสะอาดทั้งทางกายและจิตใจ เตรียมพร้อมที่จะรับภาระต่างๆ ซึ่งจะมีมาในอนาคต
ข้าไม่ต้องการนักเรียนตัวอย่างที่สอบไล่ได้คะแนนขั้นเกียรตินิยมทุกๆครั้ง ข้าไม่ต้องการตำราเรียนที่เดินได้
ข้าอยากได้ยุวชนที่เป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์สุจริต มีอุปนิสัยใจคอดี…”
หลายคนมาจากสถานศึกษาที่ต่างกัน แต่ทุกสถานศึกษาล้วนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี
ผมอยากให้ทุกคนมีความรักและรำลึกถึงสถานศึกษาของตนเองครับ
หมายเหตุ: ชื่อของน้องผมฟังไม่ชัดครับ ถ้าไม่ใช่ "ชุมพล" ก็"จุมพล"ครับ
1 Comments:
จุมพล ครับ
Post a Comment
<< Home