Tuesday, March 14, 2006

ครั้งหนึ่งกับ..เหตุการณ์ประวัติศาสตร์


ผมรู้คร่าวๆ ว่าวันนี้จะมีการเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุมที่คัดค้านนายกรัฐมนตรี จากสนามหลวงมารัฐสภา โดยผมก็ไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไรนัก เพราะไม่ได้ฉุกคิดว่า จะมาเดินทางผ่านมาทางที่ทำงานของผม

หารู้ไม่ว่า คนที่ความรู้สึกช้าอย่างผม กลับพึ่งนึกออกว่า จากสนามหลวงมารัฐสภา ก็ต้องมาทางถนนราชดำเนินนี่หว่า(ซวยแล้ว) กว่าจะรู้สึกตัว ก็ออกจากบ้านมาสายกว่าทุกวันเล็กน้อย แถมรถเมล์สาย 47 ที่เคยนั่งนั้น บัดนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางแล้ว เมื่อรถเมล์หมดระยะ ผมจึงเดินเท้าไกลพอสมควร ผ่านวัดสระเกศ ข้างหน้า คือ ถนนราชดำเนิน

ผมยืนสังเกตการณ์ดูบนสะพาน เหมือนคนอื่นๆ เพราะยังมองไม่เห็นว่า จะเดินข้ามถนนเพื่อเข้าที่ทำงานได้อย่างไร (ผู้ชุมนุมจะเดินบนถนนฝั่งกองสลาก ส่วนอีกฝั่งรถสามารถวิ่งผ่านได้)

คนเยอะมากจริงๆ ถนนฝั่งกองสลาก ผู้ชุมนุมค่อยๆเคลื่อนขบวนไป หัวแถวอยู่ไกลมาก(ไปถึงฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะที่ท้ายแถวมองไม่เห็นว่าอยู่ที่ไหน แต่ที่แน่ๆ ตรงอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยก็มีแต่ฝูงชน

รอบๆ มีตำรวจคอยยืนสังเกตุการณ์หลายคน ในขณะที่ประชาชนรอบๆ บางคนหยิบกล้องมาถ่ายด้วย(เสียดายมาก ที่ไม่ได้หยิบกล้องมา)

แต่ถึงกระนั้น การชุมนุมก็เป็นไปโดยสงบและระเบียบเรียบร้อยจริงๆ แต่ละชุดจะมีแกนนำ บนรถ คอยนำผู้ชุมนุมมุ่งหน้าไปอย่างเป็นระเบียบ

“ท๊าก..สิน” เสียงหัวหน้ากลุ่มในแต่ละชุดพูด

“ออกไป” เสียงขานจากเหล่าผู้ชุมนุม

ผมไม่เคยเห็นคนมากมายขนาดนี้มาก่อน จึงไม่แปลกใจว่าทำไม จึงตื่นเต้นมาก เมื่อผมเห็นช่องทางที่จะเดินข้ามถนนได้ จึงเดินข้าม(จะมีการเว้นที่ให้รถ และคนเดินถนนผ่าน) ผมผ่านผู้ชุมนุมในระยะประชิด แต่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวเลย(เพราะอะไร คิดกันเองครับ)

สีหน้าของผู้ชุมนุมแต่ละคนนั้น อยู่ในสภาพที่ผ่อนคลาย บางคนมีอายุน้อยกว่าผมเสียอีก

เสียงที่ผมจำได้ดี คือ เสียงคุณสนธิ กับเสียงของน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เป็นแกนนำเช่นกัน น้องผู้หญิงบอกให้ผู้ชุมนุมเลิกใช้ เอ ไอ เอส (ผมยิ้มร่า เพราะใช้ orange)

ที่ทางเท้า ไม่มีผู้ชุมนุมเดินขบวน มีเพียงบางคนที่นั่งพักเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเดินบนถนนกัน

วันนี้ร้านขายข้าว ของลุง จึงขายดีเป็นพิเศษ ลูกค้าแน่นร้านเลย(ผู้ชุมนุมทั้งนั้น)

ป้ายง พนักงานทำความสะอาดในที่ทำงานของผม ก็มาดูการชุมนุมเช่นกัน แกบอกว่า ให้ผมเดินเข้าด้านหลัง เพราะประตูด้านหน้าปิด(กันผู้ชุมนุมเข้ามา)

ไม่ว่า ข้อเรียกร้องของพวกเขาจะสัมฤทธิ์ผล หรือไม่ คือสิ่งที่เราทุกคนต้องติดตาม

การชุมนุมอย่างสงบ การต่อสู้ทางความคิด ไม่ใช่กำลัง แบบนี้แหละ แสดงถึงความเป็นอารยะประเทศว่า เหตุใด ประเทศไทยจึงอยู่เป็นปึกแผ่นได้ถึงทุกวันนี้

0 Comments:

Post a Comment

<< Home