Monday, February 20, 2006

สัมภาษณ์งานครั้งแรก=ชายหนุ่มผู้โชคดี


หลายอาทิตย์ก่อน ผมเริ่มต้นที่จะหางานทางอินเตอร์เน็ตแบบจริงจัง โดยในตอนบ่ายของทุกๆวัน ผมจะใช้เว็บ google.com ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งเกือบ100 เปอร์เซ็นต์ มาจากในอินเตอร์เน็ตทั้งนั้น

ผมได้รู้ว่า มีคนตกงานมากมาย(นิติศาสตร์นี่แหละ) ซึ่งมีไม่น้อยที่เลือกงาน ทำให้เสียดายโอกาสดีๆไปเยอะ

ผมยอมรับว่า เป็นคนเลือกงาน เพราะหากให้ไปทำงานในธนาคารในตำแหน่งสินเชื่อ หรือไปขายประกัน ขายแอมเวย์แบบเพื่อนๆคนอื่นที่เรียนด้าน กฎหมาย มาด้วยกัน ผมคงไม่มีความสุขมากนัก แม้จะได้เงินมากมายก็ตาม

ไม่ว่าจะเป็นงานราชการ องค์กรอิสระของรัฐ หรือแม้กระทั่งเอกชน หากเป็นงานที่ผมสนใจ ลักษณะงานต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย(ซักนิดก็ยังดี) ผมจะไม่ลังเลที่สมัครทันที โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องไม่เรียกประสบการณ์(เพราะผมยังไม่มีนั่นเอง) แม้จะรับเพียง 1 อัตรา ผมก็พร้อมที่จะลองแข่งขัน แม้จะเป็นเรื่องที่ยากก็ตาม

เมื่อมีโทรศัพท์จากสภาทนายความ ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิจัยและพัฒนากฎหมายให้ผมไปสอบความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และสอบสัมภาษณ์ ผมรู้สึกตื่นเต้นเพราะตั้งแต่จบมา ผมไม่เคยไปสัมภาษณ์งานที่ไหนมาก่อน

ผมผ่านการสอบคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย ทักษะการพิมพ์ของผม พัฒนาจากการเขียนเรื่องในบล็อคเกอร์ และเรื่องไปเที่ยวทะเลในมัลติพลาย อีกทั้งการคุยกับเพื่อนๆทางเอ็ม เอส เอ็นเสมอๆ

ส่วนการสอบสัมภาษณ์ ในวันนั้นมี 4 คน(รวมผมด้วย)(เป็นไปได้อย่างไร? เพราะไม่ได้มีการสอบข้อเขียนด้วย อาจเป็นไปได้ว่ามีคนรู้ข่าวน้อย หรือไม่ก็ไม่ได้สนใจนัก โดยมุ่งหน้าไปในองค์กรสำคัญๆ เช่น ปปส , สตง มากกว่า)

มีการเรียกเข้าไปสัมภาษณ์ตามตัวอักษร ผมได้เข้าไปคนสุดท้าย ซึ่ง อ เสงี่ยม บุญจันทร์ ทนายความเป็นผู้สัมภาษณ์ โดยพอออกมาผมรู้สึกว่า ผมอาจจะไม่ได้ หากเทียบกับคนแรกๆที่มีการสัมภาษณ์ที่นานกว่า และยิ่งหากเทียบด้านคุณวุฒิแล้ว โอกาสได้ของผมยิ่งน้อย เพราะบางคนจบเนติบัณฑิตและสอบใบอนุญาติว่าความได้แล้วด้วย

ในวันนั้น ผมได้พบพี่เอก รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยโดยบังเอิญ ซึ่งพี่เอกทำงานอยู่ในตำแหน่งที่ผมแข่งขันอยู่(หากได้เข้า ก็ได้ทำงานร่วมกัน) พี่เอกได้บอกอีกว่า การทำงานที่นี่ ไม่ได้ดูที่คุณวุฒิทางการศึกษาอย่างเดียว ทำให้ผมพอจะมีโอกาสบ้าง(หากเปรียบเทียบกับหลายๆที่ รับ 25 คน สอบ 1000 คน แล้วผมยิ่งไม่ค่อยเก่งมาก โอกาสจะได้ยากจัง แถมไม่มีเส้น ก็สู้เขาลำบาก)

แต่ผมก็ไม่ได้ตั้งความหวังมากนัก ตั้งหน้าตั้งตาสมัครที่อื่นๆต่อไป(หวังมาก ก็ผิดหวังมาก ชินแล้วครับ เผื่อใจไว้ดีกว่า) (บรรยากาศในการทำงาน อยู่ใกล้ทนาย ได้ใช้ความรู้แน่นอน)

ในวันนี้(ตรงกับวันเกิดมอย เพื่อนผม และเป็นวันทนายความด้วย) สภาทนายความได้โทรมาบอกคุณแม่ที่บ้าน ว่าทางสภารับผมเข้าทำงานแล้วโดยแจ้ง วัน เวลา รายงานตัว

ผมดีใจมากรู้สึกว่าโชคดีมากด้วย คิดว่าพี่เอกคงเป็น 1 ปัจจัยที่ช่วยให้ผมได้เข้าทำงานในครั้งนี้(ตอนไปเรียนดำน้ำที่ชุมพรคาบาน่า คนที่แจ้งผลการสอบใบอนุญาติว่าความภาคทฤษฎี ว่าผมสอบผ่าน ก็คือพี่เอกนั่นเอง)

ต่อไปนี้ ผมจะไม่ต้องแบมือขอเงินพ่อแม่อีกต่อไป ช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้าน และที่สำคัญที่สุด ผมจะมีเงินไปเที่ยวทะเลที่ผมรัก ไปดำน้ำอย่างบ้าคลั่ง ไม่ต้องนั่งดูกระเป๋าตังค์แล้วถอนหายใจเวลาอยากจะไปเที่ยว(ถ้าใช้มากๆ ไม่บริหารให้ดี ก็ถอนหายใจแน่นอนครับ)

ส่วนเรื่องจะได้ทำงานราชการเพื่อเก็บอายุงาน ไปสอบอัยการ ผู้ช่วยผู้พิพากษาหรือไม่ ผมไม่ใส่ใจแล้วเพราะยังมีหนทางที่เก็บคดี ซึ่งก็ทำให้ผมมีคุณสมบัติเหมือนๆกัน(ทำราชการ สอบเนยังไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ครับ)

ส่วนการทำงานจะทำให้ผมมีเวลาอ่านหนังสือน้อยลง จะทำให้ผมมีโอกาสที่จะสอบได้น้อยลง ผมว่าก็ไม่ใช่ทั้งหมด บอกได้กับเรื่องจริง ที่คนจำนวนมากอ่านหนังสืออย่างเดียวสอบไม่ผ่าน ในขณะที่คนที่ทำงานแล้ว กลับสอบผ่าน ของแบบนี้ การทำงานอาจจะช่วยให้คนเราเก่งขึ้นได้ (ซึ่งผมจะสู้ต่อไป แน่นอน)

แม้ผมจะมีเวลาเที่ยวน้อยลง จะแบกเป้ไปเกาะสวาท หาดสวรรค์ ในวันธรรมดาเหมือนเดิมคงเป็นเรื่องยาก แต่นี่ก็เป็นหนทางที่ผมได้เลือกแล้ว

ทุกหนทางมีทางออกเสมอ(ที่ไม่ใช่ฆ่าตัวตายนา) หากอดเที่ยวทะเลผมคงลงแดงตายแน่นอน(คิดหนทางแก้ไว้เรียบร้อย ฮ่าๆๆ)

สู่ชีวิตการทำงานที่แสนจะเหน็ดเหนื่อย ในอีกไม่ช้าครับ

2 Comments:

At 11:35 AM, February 22, 2006, Blogger Lex Luthor said...

ยินดีด้วยนะกระสาบ กูเพิ่งเข้ามาอ่านวันนี้เอง ว่าจะโทรถามเรื่องนี้อยู่พอดี ขอให้สนุกกับงานที่ทำนะ เวลามึงก็คงน้อยลงเหมือนกัน ไว้ถ้ามีเวลาตรงกัน คงได้เที่ยวกันนะ เก่งมาก

 
At 2:39 PM, February 22, 2006, Blogger kasab71 said...

ขอบใจมากอ้อม เป็นโชคดีมากกว่าน่ะ ไม่ได้เก่งอะไรหรอก

ขอบคุณมากครับ มิ้ม ว่าแต่พรายไม่ชูฮวย ก็เป็นอาทิตย์ละมั้ง ฮ่าๆๆๆ

คงต้องผูกคอตัวเองทุกวัน อึดอัดน่าดู ร้อนด้วย

แต่ต้องทำตัวเองให้ดูดีน่ะนะ จะทำตัวสกปรกแบบเดิมคงไม่ได้แล้ว (ถ้าที่บ้านไม่เป็นไร)

 

Post a Comment

<< Home