Sunday, January 22, 2006

งานวชิราวุธ Home Coming Day 2006


หรือ คืองานคืนสู่เหย้าที่เด็กวชิราวุธรู้จักกันครับ เพราะในงานนี้นอกจากงานเลี้ยง ออกร้านขายของ ตอนค่ำแล้ว ช่วงบ่ายยังมีการแข่งขันกีฬาระหว่างศิษย์เก่ากับศิษย์ปัจจุบันด้วย

ผมมาถึงที่โรงเรียน ก่อนเวลาแข่งไม่นานนัก จึงไม่ได้ทานข้าวกลางวัน อย่างไรก็ตาม ผมต้องเปลี่ยนชุดแล้ว

ปีนี้แข่งบาสเกตบอลที่สนามบาสคณะผู้บังคับการ(คณะผมเอง)เพราะที่อินดอร์ ปิดซ่อมแซมอยู่

แม้จะมีพี่ๆโอวีเยอะแต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ลงครับ เพราะลงไปแปบเดียวพี่ๆก็เหนื่อยกันแล้ว(ส่วนใหญ่ก็ทำงานกัน ไม่ค่อยมีเวลาเล่นกีฬาเหมือนตอนสมัยเรียนแล้ว)

อย่าว่าแต่พี่ๆเลย แม้แต่ผมลงไปแปบเดียวก็เริ่มเหนื่อยแล้ว แต่ก็ยังมีแรงเหลือมากกว่าพี่ๆหลายคนที่อายุมากกว่าผมเยอะ

เกมจบลงที่ศิษย์ปัจจุบันชนะ (เล่น fast break รังแกคนแก่ที่วิ่งตามไม่ทัน และชูต 3 แต้มแม่นมาก)

แต่เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับเพราะหากอยากพัฒนาฝีมือ ต้องเล่นให้เต็มที่ ซึ่งประโยชน์ก็อยู่ที่น้องๆนั่นแหละ

เมื่อเล่นเสร็จ ผมกับกระจิ๋มยังเล่นกับน้องๆ ต่อ โดยแบ่งทีมเล่นกันครึ่งสนาม(เต็มสนามก็เหนื่อยตายซิ) ซึ่งมีตังเก เฉียด พี่ห้อย มาเล่นด้วย ซึ่งเกมเป็นไปอย่างสนุกสนานมาก นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยร่วมเล่นด้วยกัน

เด็กสมัยนี้สูงมาก มีคนหนึ่งเล่น เซ็นเตอร์ อยู่ชั้นม 5 ความสูงปาเข้าไป190(ไม่สามารถวัดชั่งตัวที่ รร ได้)

เมื่อเกมจบ พี่ๆน้องๆต่างขอบคุณซึ่งกันและกัน

ผมกับกระจิ๋ม หยิบกล้องไปถ่ายรูปตึกใน รร แม้แดดในเวลานี้จะเริ่มหายไปหมดแล้ว แต่ผมก็ไม่เสียดายเวลาที่ได้เล่นบาสเลย(ได้อย่างก็เสียอย่างครับ)

ผมได้มีโอกาสมาอาบน้ำในคณะ ที่ที่ผมเคยกิน นอนมา ทำให้ยิ่งเหมือนกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง เช่นเดียวกับพี่ทิดอ่ำ คงมีความรู้สึกดีๆไม่แพ้ผมแน่นอน

ในตอนค่ำ มีการออกร้าน ขายอาหาร มีกิจกรรมบนเวทีโดยพิธีกร คือ พี่ธราวุธ นพจินดา หรืออาหนู น้องชายของพี่ ย โย่ง (ใครดูบอลกัลโช่ ซีเรีย อา คงคุ้นเคยกับเสียงอาหนูดี)

เมื่อพี่น้องก็ได้พบกัน ก็มีแต่ความยินดี รุ่นพี่บางคนไม่ได้เห็นหน้ามานาน เช่น พี่สีไผ่ ก็พาลูกมาในงานนี้ด้วย และยังมีพี่ๆน้องๆ อีกหลายคน

ที่สำคัญการได้กลับมาถวายบังคม รัชกาลที่ 6 อีกครั้ง การได้เข้ามาภายใน รร เป็นสิ่งที่เด็กวชิราวุธทุกคนปลาบปลื้ม แม้ปัจจุบัน ผู้บริหาร รร จะมีความคิดแผลงๆ ไม่อนุญาติให้ศิษย์เก่าเข้ามาใน รร อีกต่อไป(ปีหนึ่งจะเข้ามาได้เฉพาะวันนี้ กับวันที่ 25 พฤศจิกายนเท่านั้น)

แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับ แม้จะมีความรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างก็ตาม

การปวดเมื่อยตามตัว บาดแผลที่นิ้วโป้งจนบวมของผม จากการเล่นกีฬา การได้เข้ามาถวายบังคมรัชกาลที่ 6 การที่ได้เดินเข้าไปภายในสถานๆที่ต่างๆ ภายใน รร ที่ผมคุ้นเคย

มันทำให้ผมยิ่งนึกถึงความหลังเข้าไปทุกขณะ ซึ่งเป็นความหลังที่น่าจดจำทั้งสิ้น

10 ปีภายใน รร ยังคงอยู่ในใจของผมและเพื่อนๆตลอดเวลา

เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่งครับ

2 Comments:

At 7:10 PM, January 22, 2006, Anonymous Anonymous said...

มีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับไปโรงเรียนนะคะ...ไม่รู้คนที่ไม่ได้เป็นนักเรียนประจำจะรู้สึกมากเท่าเราหรือเปล่า ???

เดาเอาเองว่าไม่น่าจะเท่า..เพราะมีเพื่อนที่ไม่ใช่นักเรียนประจำด้วยกัน แล้วก็พวกที่ทำงานจะบอกว่าวันไหนเราจะไปรงเรียนเค้ามองออกเลย เพราะดูเราออกจะ "เบิกบาน" มากกว่าปกติ :D

งานประจำปีโรงเรียนPouletมีทุกเดือนธันวาค่ะ..ปีนี้ไม่ได้ไป ติดภาระสำคัญ.....แต่เมื่อวานมีเลี้ยงรุ่นที่บ้านเพื่อนแหละ หูยยยยยยย.......หนุกจริงๆ คุยๆๆๆๆๆขำๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หัวเราะจนแทบจะหายใจไม่ทัน
ตะกี๊ก่อนแวะมาเยี่ยมคุณกระสาบก็เพิ่งส่งemailรูปที่ถ่ายเมื่อวานให้เพื่อนๆค่ะ

คนไม่ได้ไปก็ได้รับนะ เพราะคนที่ไปบอกว่าให้ส่งไปเย้ยยยยยยยย (ร้ายมะ?????)

 
At 2:52 PM, January 23, 2006, Blogger kasab71 said...

จริงครับ เป็นเรื่องดีๆสำหรับเด็กประจำ

มีคุณค่าทางจิตใจเสมอครับ

 

Post a Comment

<< Home