ตามรอยมนุษย์กบ...ไปพัทยา(2)
30 ตุลาคม 2548
รวมพล 7 โมงครึ่ง พี่ป๋อม สาวคนเดียวที่ไม่ดำน้ำในวันนี้ ขับรถไปส่งที่ ร้านต้มเลือดหมู(จำชื่อร้านไม่ได้ครับ แต่จำได้ดีว่าเคยมากินกับเพื่อนๆแล้ว มีชื่อเสียงมาก คนตรึมทุกเช้า)
นอกจากพวกผม ที่ร้านยังมีนักดำน้ำอีกกลุ่มหนึ่งด้วย แสดงให้เห็นว่า ในวันเสาร์-อาทิตย์ ทะเลพัทยา ไม่เคยเหงาจากมนุษย์กบที่มาเยี่ยมเยียน ธุรกิจการดำน้ำกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนหันมาเรียนดำน้ำกันมากขึ้น
รถของพี่ฝ้าย โดยพี่โก้(Divemaster ในอนาคต) เป็นคนขับ พาผม พี่พิช พี่ป้อม พี่ต่อ และเจี๊ยบ มาถึงท่าเรือพัทยา(Pattaya Port) สถานที่ประจำในการลงเรือของนักดำน้ำ Scuba
ส่วนพี่หนึ่งกับแฟน และพี่โก้ (Instructor) ไปคนละลำกับเราโดยนำนักเรียนอีก 1 ชุด ไปสอบที่เกาะริ้น
เรือ รุ่งวรวรรณ 7 เคลื่อนตัวออกจากท่าเรือพัทยาไปสู่เกาะสาก สถานที่ดำน้ำในวันนี้ ถึงแม้ว่า เกาะสากผมจะมาดำแล้ว เมื่อครั้งก่อนแต่สำหรับใต้ทะเล ไม่มีจุดดำน้ำที่ไหน น่าเบื่อสำหรับผม เพราะผมชอบศึกษาสัตว์ทะเล การพบกันทุกครั้งจึงเหมือนการพบเพื่อนอีกโลกหนึ่ง ที่นี่ ผมได้เจอไมค์กับเพื่อนสาว มารอบนเรืออยู่ก่อนแล้ว
เป็นข่าวดีสำหรับผมที่ไม่ต้องใส่เสื้อยืดลงน้ำ เพราะมี Wet Suit สำรอง เมื่อลองสวมดู แม้จะฟิตบ้างแต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้
เมื่อได้อุปกรณ์เรียบร้อย ผมประกอบแท็งค์อย่างคุ้นเคยมากขึ้น นำ BCD ประกอบเข้าที่แท๊งค์เปิด โอ-ริง หมุนวาวล์ออก นำ Regulator มาสวมกับวาวล์แทงค์แล้วหมุนล็อค โดยปลายสายมา เสียบกับ Inflator เปิดอากาศเช็คดู(บิดมอเตอร์ไซด์แล้วหมุนกลับครึ่งรอบ) เป็นอันเรียบร้อย ก่อนขึ้นไปคุยกับพี่ๆ ชั้นบน
พี่ป้อมแนะนำให้รู้จักพี่เอื้อย ที่มาทบทวนการดำน้ำหลังจากไม่ได้ดำมาหลายปี
นอกจากนั้นก็ยังมีพี่จุ๊ยกับแฟน มา Fun Dive ด้วย
เรือ รุ่งวรวรรณ 7 พาเรามาถึงเกาะสากบริเวณทิศเหนือ สถานที่ดำน้ำของเราในวันนี้ สำหรับนักดำน้ำ มีความทรมานเล็กๆ ในการดำน้ำอยู่ 2 แบบ คือ ดื่มน้ำมากไปก็จะปวดฉี่(ไม่ไหวก็ปล่อยไปเถอะ แต่ครั้งแรกจะลำบากนิดนึง เหมือนเด็กฝึกหัด) หากดื่มน้อยไปก็จะคอแห้ง กระหายน้ำมาก (หากอยากจะกินน้ำทะเลก็ตามใจ แต่อย่าลืมกลับมาคาบ Regulator ด้วยนา) ทางที่ดีไม่ควรมากเกินไปและน้อยเกินไป จึงจะไม่เข้า 2 กรณีดังกล่าว
หลังจากเปลี่ยนชุดเรียบร้อย ก็ Clean Mask ด้วยแชมพู หรือน้ำลายก็ได้ จะได้ไม่เป็นฝ้า เห็นเพื่อนใหม่ใต้ทะเลอย่างชัดเจน แบกแท็งค์ สวมฟิน กระโดดด้วยท่า Giant Stride (ผมไม่ลืม แผ่นปลาแน่นอน ขอลองของใหม่หน่อยนะ)
Dive 8 รวมก๊วนสัตว์หน้าตาประหลาด
ที่นี่ มีพื้นทรายเป็นส่วนใหญ่ แต่ผมคิดว่า ผมจะต้องเจออะไรแปลกๆแน่ๆ ในไดฟ์นี้ เราว่ายกันมาทางด้านตะวันตก
และแล้วผมก็พบเพื่อนใหม่ หน้าเก่าอย่างปลาวัวหนาม Fan-bellied leatherjacket(Filefish) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Monacanthus chinensis ซึ่งผมเจอที่เกาะล้าน บริเวณใต้สะพาน เมื่อ 3 เดือนก่อน มาคราวนี้ได้เห็นเขาแบบนานๆ แม้ลักษณะจะมีเขา หางพัด สีไม่สวย ไม่ถูกใจนักดำน้ำบางคน แต่สำหรับผม เขาคือของแปลกที่นี่ ซึ่งหาดูไม่ง่ายในจุดดำน้ำอื่น ในเมืองไทย เพราะเขาจะลอยตัวอยู่นิ่งๆ ในไดฟ์นี้ผมมีโอกาสได้เจอพวกเขาอีก 2 ตัว(รวมเป็น 3 ) โดยเฉพาะตัวสุดท้าย อยู่ใกล้ปะการังเล็กๆกอหนึ่ง ผมเฝ้าดูเขา บนพื้นทราย ในระยะประชิด เห็นลักษณะที่น่ารักของปลาวัวหนามอย่างชัดเจน
ปลาประหลาดตัวต่อมา อยู่บนพื้นทราย คือ ซีมอส มีชื่อแบบไทยๆว่าปลาผีเสื้อกลางคืน อยู่ในสกุล Pegasus(คนละตัวกับปลาผีเสื้อกลางคืนในอันดามันนะครับ ตัวนั้นจะชื่อ Short Dragonfish อยู่ในสกุล Pegasidae) ปากมีลักษณะคล้ายปลาจิ้มฟันจระเข้(มีลักษณะยาวเป็นท่อ) ลำตัวไม่เกิน 7 ซม มีปีก 2 ข้าง กางออกเหมือนผีเสื้อ ส่วนหางตรง
ผมเห็นกองทัพเม่นทะเล Sea Urchin กำลังเคลื่อนตัวมาข้างหน้า เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพวกเขาเดินอย่างชัดเจน ทุกๆครั้งจะเห็นอยู่นิ่งๆมากกว่า
ภายในวงล้อมของเหล่าเม่นทะเลนั้นเอง ผมได้พบปลาหน้าตาประหลาดอีกตัวหนึ่ง กลมกลืนกับพื้นทรายคล้ายปลาหิน เห็นได้ชัดว่า พวกเขาใช้ครีบเดินมาข้างหน้า ชื่อของเขา คือ Indian Walkman(ภายจากทะเลไทยดอดคอมครับ) ผมดีใจที่ได้เห็นเขาเป็นครั้งแรก หลังจากได้ยินชื่อและเห็นภาพมานาน(ไม่รู้ว่าพัทยาก็มี แต่ก็พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก)
จากนั้นก็เห็น Horse Pipefish เป็นปลาจิ้มฟันจระเข้ชนิดหนึ่ง ดูจากรูปร่างที่ยาวและเพรียวของเขา ก็เดาได้ว่า ต้องรวดเร็วแน่นอน
ตาโตๆ ชอบลอยตัวนิ่งๆ อยู่เป็นฝูงเป็นเอกลักษณ์ของ ปลากระรอกลายแดง(Redcoat) ผมมักจะพบพวกเขาเกือบทุกไดฟ์ ในการมาพัทยา
ปลาแพะ(Goatfish) ใช้หนวดที่ยื่นออกมา 2 เส้น เคลื่อนไปตามพื้นทราย เหมือนมันกำลังค้นหาอะไรอยู่ แต่หนวดสีเหลืองของมันบวกกับหน้าตา ทำให้ผมนึกถึงแพะจริงๆ ขึ้นมาทันที
ตัววัดอากาศของผม มีอากาศรั่วออกมา พี่พิชก็มาจับดูหลายทีอยู่เหมือนกัน(คงไม่เป็นไรมั้ง)
เจ้าเก่าของผม ว่ายผ่านไปอีก 1 ตัว พวกเขา คือปักเป้าหนามทุเรียน(Porcupinefish) พึ่งเห็นภาพในทีวี ที่นักดำน้ำแกล้งให้มันพองตัวแล้วโชว์นักนักท่องเที่ยวในเรือดำน้ำ(เก่งจริงอย่าใส่ถุงมือซิ พวกแกล้งสัตว์)
พบปลิงทะเล (Sea Cucumber) 2 ชนิด ชนิดหนึ่ง อ้วนและขนาดใหญ่มากๆ ช่างน่าเกรงขามเสียจริงๆ อีกตัวหนึ่ง มีปุ่มออกมารอบๆลำตัว
นอกจากนั้น ผมยังพบ ปลาสลิดหิน(Damsel fish) ฟองน้ำครก(Neptune ‘ s cup sponge) และ ดาวทะเล(Star Fish)
ก่อนขึ้นจากน้ำ ผมเริ่มไม่มีความสุข เพราะท้องแข็ง (ไม่ใช่หัวเราะ) แต่ปวดฉี่มากๆ ยิ่งกระแสน้ำเย็นลงๆ ผมยิ่งทรมาน โชคดี เมื่อ 3 เดือนก่อน ผมได้ฝึกฉี่มากแล้ว(ฉี่ภายใต้ Wet Suit บางครั้งมันยากนะครับ ไม่เชื่อลองถามเจี๊ยบดูได้) จึงรู้สึกสบายขึ้น (อ่อ ขึ้นมาอย่าลืมทำความสะอาดชุดด้วยนะครับ สงสารคนใช้ต่อ ฮ่าๆๆๆ)
เราขึ้นไกลจากเรือมาก จึงต้องตีขากลับเรือนานพอสมควร
ในไดฟ์นี้ แม้ผมจะไม่เจอปลาในแผ่นที่เอาลงไป แต่ผมหวังว่า ไดฟ์หน้าจะได้เห็นอย่างแน่นอน
ก่อนกินข้าวก็เปลี่ยนถังอากาศสำหรับไดฟ์ต่อไปให้เรียบร้อย
อาหารเติมพลัง มีไก่ทอดกระเทียม แกงเผ็ดหน่อไม้ ของหวานก็ยังมีแก้วมังกร(ที่มีเมลส่งมาบอกว่า มีสารก่อมะเร็ง) ไม่สนล่ะ ขอกินก่อน อ่อ มีปีโป้ด้วย เป็นขนมครับ(ไม่ใช่ภาษาวัยรุ่น)
ผมไม่กล้ากินเยอะมาก เพราะเคยมีประสบการณ์คลื่นไส้เกือบอ๊วกเพราะกินมากเกินไป แม้คราวนี้จะมีเวลาพักเป็นชั่วโมงก็ตาม
ช่วงนี้ พี่ป้อมลงทบทวนทักษะให้กับพี่เอื้อย สั่งไว้ว่า ถ้าขึ้นมา พวกเราก็เตรียมตัวลงได้เลย
พี่พิช กระโดดลงน้ำจากชั้นสองของเรือ ทำให้ผมนึกถึงเด็กฝรั่งลูกของ Eva ที่กระโดดมาจากชั้นสอง เช่นเดียวกัน (ตอนไปเกาะช้างครับ)
เมื่อพี่ป้อมขึ้นมา พร้อมเสียงเรียก เป็นสัญญาณให้เราลงไปเปลี่ยนชุด
ก่อนลงไดฟ์นี้ เมื่อเปิดอากาศมีเสียงรั่วออกมาจากที่เดิม พี่คนหนึ่งจึงช่วยเปลี่ยน Regulator อันใหม่ให้กับผม คราวนี้ มีหน้าปัดสีเหลือง รูปร่างออกโบราณนิดนึง
16 Comments:
This comment has been removed by a blog administrator.
น้องภพอ่านแล้วหนุกหนานนจิงจิง....พี่จะรอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อนะน้อง
น้องภพอ่านแล้วหนุกหนานนจิงจิง....พี่จะรอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อนะน้อง
อ่านรวดเดียว 2 ตอนจ้า...
ฮ่ะ ฮ่ะ...สนุกเช่นเคย และ "อิจฉา" เช่นเคย !!
พักนี้ทำไมมีแต่คนไปเที่ยวกระหน่ำเน้ออออ...
แฟนๆตามมาอ่านกันตูมเลย
ขอบคุณมากครับ
ตาป้อม
คราบผม ยินดีครับพี่ๆๆ
ไม่ได้กระหน่ำหรอกครับ นิดหน่อยเอง
ตังเก ท่าทางจะเรียนใช่ไหม ดีเลย ไว้จะได้ไปด้วยกัน สนุกมาก
โทษทีนะ ขอมาเพิ่มความอิจฉาเป็นอีกคนนึงกระสาบ อยากไปมากเลยวะ แต่เวลาไม่มี
รูปสวยจัง ขอบใจนะที่เก็บภาพมาฝาก เพราะเรากลัวความสูง แล้วมันเลยพลอยกลัวความลึกไปด้วย 55 (เรื่องจริงนะ)อย่างเก่งเลยได้แต่เสียตังค์ไปดูปลาตู้ตามอควาเลี่ยมเท่านั้นแหละ โชคร้ายจังเรา
หัวขี้กลับมาอัพปบลอคแล้ว ดีๆๆ มาก
ลองดูครับ คุณ sweetnefertari ไม่น่ากลัวเลยครับ
ต้องลองครับ ความกลัวอาจหายไป
ฉันละเกลียดฉายาเด็กโอวี ซะจิง เสียหล่อหมดเลย ฝ่าตีนอย่างงี๊(หล่อมากคนนี้ พูดแล้วใจยังสั่นอยู่เลย55)หัวขี้อย่างงี๊ กระท่อกอย่างงี๊ กระสาปอย่างงี๊ เป็นญาติกันรึไง
ถามอาทิตย์ว่ากระท่อกแปลว่าไร มันก็เฉไฉ ไปตอบเรื่องอื่นซะงั๊น
ตกลงแปลว่าไรกันฮึ...
ฉายา เสียหล่อ ท่าจะจริงครับ เพราะหน้าดีๆ แต่ชื่อกลายเป็นงั้น แบบฝ่าตีนเป็นต้น
ที่ได้ฟัง ถือว่าชื่อดีแล้วครับ เพราะยังมีทุเรศๆกว่านี้อีกมาก
แต่เป้นชื่อที่พี่ๆตั้งให้ครับ ก็เลยต้องเรียกกันทุกคน พอพี่คนนั้นออก แล้วเด็กคนนั้นโตเป็นพี่ ก็มีบ้างที่เปลี่ยนชื่อตัวเองให้ดีขึ้น(เด็กคนไหนเรียกชื่อเก่าจะโกรธ)
แต่ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อเดิมกันครับ แม้จะน่าเกลียดอย่างไร แต่ก็เป็นชื่อที่ภาคภูมิใจ(ไม่มีทางเลือก ฮ่าๆๆๆ)
ของผมเฉลยให้ ชื่อผมไม่มีความหมายครับ แต่เพราะมีพี่ชายชื่อกระจับ และกระจิบ ผมเลยได้ชื่อนี้ (ชื่อที่น่าเกลียดก็มีแต่ซ้ำ แล้วอีกอย่างตอนตั้ง พี่ชายผมนั่งอยู่เลยออกจะเรงใจ ไม่อยากตั้งชื่อน้องเพื่อนให้น่าเกลียด)
ของคนอื่นๆ รอเขามาตอบเองดีสุดครับ
พี่ชื่อ "กระจับ" รึ งั้นดีแล้วที่ชื่อ "กระท่อก" 55
ถ้าพี่ไม่นั่งอยู่แถวนั้น สงสัยจะได้ชื่อที่แบบว่า อะไรที่มันอยู่ในกระจับก็ได้นะ หุ หุ
พี่ชื่อ "กระจับ" รึ งั้นดีแล้วที่ชื่อ "กระท่อก" 55
ถ้าพี่ไม่นั่งอยู่แถวนั้น สงสัยจะได้ชื่อที่แบบว่า "กระ" อะไรที่มันอยู่ในกระจับก็ได้นะ หุ หุ
ถูกต้องเลยครับ
ส่วนกระท่อกถามมันเองแล้วกันครับ ต้องเค้นครับ บีบคอด้วย ฮ่าๆๆๆ
มันอาจจะบอกนา
เป็นความลับรึ
สงสัยจะอุบาทสุดยอด55
อาจไม่อุบาทว์ครับ แหมม อย่าพึ่งคิดไป
ฮ่าๆๆๆ
Post a Comment
<< Home