Sunday, April 10, 2011

สิปาดัน....มหัศจรรย์ทะเลเซเลเบส(12)





Dive 12 สัญญานขอความช่วยเหลือ!!!

ตาม Matius มาครับ ทัศนวิสัยในการเห็นใต้น้ำดีกว่าเมื่อวานเยอะ อาจเป็นเพราะไม่มีฝ้ามาให้กวนใจ คุ้นๆว่า พี่วิทย์บอกเกี่ยวกับที่นี่ว่า น้ำก็ประมาณนี้แหละ ไม่ได้ใสไปกว่านี้หรอก

ชะแว๊ป พอเห็นปลาสิงโต ผมพุ่งเข้าใส่ทันที(มิใช่พุ่งชน) แต่ขอถ่ายรูปครับ แม้จะแค่ด้านข้างก็เถอะ ขอหนึ่งแชะ ก่อนไป

อย่างที่เคยเล่าให้ฟังครับ ถ้าพูดแค่ปะการัง บ้านเขาเทียบบ้านเราไม่ติดเลย พอเจอปะการังอ่อน(Soft Coral) เลยต้องขอไปถ่ายรูปหน่อย เพราะมีค่อนข้างน้อย(แต่ปลาเยอะจัง นั่น)

หนึ่งในนักล่ากำลังหลับอยู่ครับ ใต้ House Reef ที่สูงใหญ่ มีปลาหมอทะเล(Giant Gruoper) นอนนิ่งๆโดยมีปลาพยาบาล คอยตอดกินปรสิตบริเวณปาก(ที่หนา) แต่อย่าห่วงครับ ส่วนใหญ่ปลาหมอทะเลไม่กินปลาพยาบาลหรอก ตัวก็เล็ก แถมอุตส่าห์มาทำความสะอาดปากให้ ใครจะไปแล้งน้ำใจกินผู้มีพระคุณได้ลงคอ

นอกจากโครงสร้างของ House Reef ก็ยังมีซากเรือที่พังแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของการจมอย่างตั้งใจของมนุษย์หรือไม่

Bat Fish ว่ายผ่านไปหน้าเฟรม เลยกดซะ นึกถึงตัวประกอบที่เดินผ่านฉากแบบเร็วๆเลยล่ะ 555

มาดูทากกันบ้าง สีเหลืองมีขอบสีดำรอบๆ พี่เอเคยเรียกตัวนี้ว่า ไข่เจียว เมืองไทยก็มี ดูคล้ายๆทากเปลือยขอบย่นดำ(Glossodoris atromarginata)

ไปๆมา คลาดกับ Matius ครับ แต่เจอพี่วิทย์ งั้นตามพี่วิทย์ต่อ(ไอ้นี่ ชอบเปลี่ยน Leader จริงๆ เลย 555)

แกกำลังถ่ายอะไรซักอย่างที่เสาของ House Reef และเรียกผมให้เข้าไปดู

ทากครับ แต่ตัวนี้ผมพอรู้จักชื่อ มัน คือ Pteraeolidia ianthina หรือทากหนามงู Rhinophore มีสีม่วงเข้ม ลำตัวเป็นพวง ยาวๆ ยึกยือแบบนี้แหละ

ปลาตัวที่พึ่งว่ายผ่านไป หลายคนอาจไม่สนใจ แต่นับจากนี้ นับจากที่ Valentine ชี้ให้ดู คงจะต้องสนใจให้มากขึ้นครับ เพราะเป็นเพศเมีย ของปลานโปเลียน(Napoleonfish) หรือ ปลานกขุนทองหัวโหนก นั่นเอง

มีทากอีกตัว คล้ายตัวแรก แต่ลำตัวมีสีขาว ส่วนขอบมีสีดำสลับสีเหลือง แต่นับจากตัวกระจายแฟลชหายไป ถ่ายมาโครได้ยากมากครับ เพราะเวลาแฟลชทำงาน มันจะมืดไปข้างนึงเลยนะ

กำลังถ่าย Leaf Scorpionfish หรือปลาแมงป่องใบไม้ แต่ไม่โชคดีเหมือนไดฟ์ที่แล้ว ที่พอจะได้รูปออกมาบ้าง ตรงนี้มืดครับ ไฟไม่พอ โฟกัสตัวปลาไม่ได้ ปลาอยู่ในโพรงโผล่มาแต่หางด้วยล่ะครับ

Finding Nemo ปลาการ์ตูนส้มขาว แต่โฟกัส ไม่ได้ จบข่าว ดูแต่ตาไปก่อนล่ะครับ

ปลายไดฟ์ เจอนักดำน้ำชาวต่างชาติ 2 คน หนึ่งในนั้น อยู่กับ Matius ครับ ในขณะที่อีกคน กำลังโผเข้าหาพี่วิทย์เหมือนตกใจ ให้พี่วิทย์ดูอากาศที่เหลืออยู่ และทำสัญญานว่า

อากาศเหลือน้อยแล้ว!!”

พี่วิทย์หยิบ Octopus มาให้ชาวต่างชาติคนนี้ เพื่อแชร์อากาศ อาการของเขาก็ดูสงบลง

จบไดฟ์เท่านี้ ส่วนปลาอื่นๆ ที่พอจำได้ ก็มี ฝูงปลากระพงเหลือง 4 เส้น และปลาปักเป้าเล็กหลังบั้ง(Black-Saddled Toby) ครับ

กลับมาที่ Resort ระหว่างล้างตัว มองไปด้านซ้าย ไปที่ Scuba Junkie และเลยออกไป ก็คือ Borneo Diver พี่หมอหมูและเพื่อนๆ เคยมาพัก ถ่ายรูปเก็บไว้ๆ

เก็บรายละเอียดที่ Dive Center ต่อ ในขณะที่ยังมีแสง กะว่าจะเก็บภาพในรีสอร์ทให้มากที่สุดครับ พรุ่งนี้ไปแต่เช้ามืด ไม่น่าจะได้ถ่ายอะไรเท่าไร

ว่าจะลงอีกไดฟ์ ส่วนไดฟ์สุดท้าย ขอเวลาตัดสินใจอีกนิด เมื่อพักน้ำพอสมควร 10.30 น ลงเรือ Lady Ai Sing ไปต่อกันครับ

มาจุดดำน้ำที่เรียกว่า Smart House Reef ที่อยู่ในเกาะ Mabul นี่แหละ (Smart ย่อมาจาก Sipadan Mabul Resort) พี่หมอหมูบอกก่อนมาว่า ปลา Jack ฝูงใหญ่มากๆ ภพ ต้องลงให้ได้นะที่นี่

เราไปพิสูจน์กันครับ ว่าจะมากกว่าที่เห็นกันมาหรือเปล่า?


Dive 13 อลังการกับฝูงปลา Jack!!!

ลงมาเจ้า ปลาปักเป้าเล็กหลังบั้ง(Black-Saddled Toby) ออกมาทักทายก่อนเลย

ลักษณะเป็นตาข่ายแบบนี้ น่าจะเอาไว้ดักปลาครับ แต่จะเป็นฝีมือใคร ไม่อาจทราบได้ แต่โดยรวมถือว่าน้อยครับ หากเทียบกับที่บ้านเรา

ปลาปากท่อส่งเข้าประกวด ต้องนี่เลย ปลาจิ้มฟันจระเข้ลายด่าง(Scribbled Pipefish) แต่ถ่ายมาไม่ชัด เบลอซะ ไม่เหมือนเป้าใหญ่ๆ อย่าง Batfish

House Reef ของ Smart ดูจะขลังกว่า Kapalai ครับ แบบว่า ดูโบราณกว่า อาจเป็นเพราะเพรียงที่เกาะติดและสภาพแสงที่พาไปก็ได้

ทากอีกตัวไม่ชัด แต่ก็คล้ายทากหนามม่วงปลายเหลือง(Flabellina exoptata) อยู่เหมือนกัน

ลักษณะตรงนี้ อยู่สูงจากพื้นทราย ประมาณ 5 เมตร ขึ้นไป เหมือนด้านในเป็นเรือจม(จริงๆเป็น House reef) ด้านในไม่ต้องไปพูดถึงครับ มืดแบบนี้ ใครจะมุดเข้าไป แต่ตรงด้านนอก มีจุดที่น่าสนใจ พี่วิทย์เจออะไรเข้าแล้ว

ปลากบครับ ปลากบ!!!”

ตัวใหญ่เหมือน Giant Frogfish แต่เนื้อตัวดูสกปรกเหลือเกิน ดูเหมือนจะมีบาดแผล ซึ่งจริงๆ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ครับ ผมมันจินตนาการเยอะเกินไป 555

ถ่ายค่อนข้างยากอยู่ เพราะมันไม่ได้อยู่ที่พื้นทราย ต้องอยู่ให้นิ่ง

ไปๆมาๆอ่าว มี 2 ตัวนี่นา อีกตัวมีสีแดงครับ อยู่กันเป็นคู่ ซะด้วย จุดนี้ พี่วิทย์ไปเรียก Matius ให้มาดูด้วย ผมก็ทำสัญญานเรียก Diver รูปร่างอ้วน ชาวเอเชีย มาดูด้วย

ออกไปจากตรงนี้ น้ำค่อนข้างขุ่นมากครับ คงไม่มีอะไรแล้วมั้ง และ Hi-Light สำคัญ ก็มาอยู่ตอนปลายไดฟ์ ท่ามกลางน้ำทะเลที่ขุ่นมาก

ฝูงปลา Jack!!!”

กำแพงสีเงินแบบที่เห็นที่สิปาดัน เป็น Bigeye Trevally แต่อยู่หนาแน่นกว่ามาก เห็นได้ชัดเลยว่า ฝูงใหญ่กว่า

กด กด แบบนี้ต้องกด ตอนนี้เหมือนอยู่ท่ามกลางฝูงปลา Jack ครับ เรากลายเป็นสิ่งแปลกปลอมไปเลย ไหนลองเปลี่ยนเป็นถ่ายวีดีโอคลิปบ้าง

เป็นงานศิลปะ ที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติโดยแท้

วิวด้านบน เมื่อลอยคออยู่เหนือผิวน้ำ ดูสบายจริงๆครับ น้ำนิ่ง ไร้คลื่น ท้องฟ้าแจ่มใส กับภาพของ Smart Resort หลังคาสีดำ

ผมตีขากลับหลังมายังเรือ Lady Ai Sing และลอดใต้เชือก เพราะเรือไม่สามารถเข้ามาตรงจุดที่ผมขึ้นมาได้ ก่อนจะมุ่งหน้ากลับ Resort

แดดร้องเปรี้ยงๆ ระหว่างล้างตัว ก็ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ชาวสิงคโปร์ คือ Jasmine กับ George ที่ได้เห็นหน้ากันมาบ้าง เพียงแต่ว่าพึ่งได้คุย

กลุ่มนี้มากัน 4 คนครับ ฟังๆดู Jasmine กับ George ไปดำน้ำกันหลายที่ หลายประเทศ หนึ่งในนั้นมีหมู่เกาะอันดามันด้วยนะ(ที่ประเทศอินเดีย) หากใครยังนึกไม่ออก ก็ตรงจุดใกล้ๆ เกิดสึนามิ ที่ส่งผลมาถึงบ้านเรานี่แหละ

เป็นจุดดำน้ำอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากจะไปเหมือนกันครับ

อืม คิดๆ จะพอแค่นี้ หรือจะดำอีกไดฟ์ดี จะเสี่ยงไหมนะ นึกถึงว่า กลุ่มคนไทยกลุ่มใหญ่ ที่ผมเจอในวันแรกของการดำน้ำ ก็ลงไดฟ์บ่ายนี่หว่า ถ้าเขาอยู่รอดปลอดภัย ผมก็ต้องรอด(รู้ได้ไง 555)

พี่วิทย์ไฟเขียวครับ บอกว่า ลงได้ Instructor แนะนำแบบนี้ ต้องเชื่อซิครับ เลยบอก Matius ว่า ไดฟ์บ่ายผมจะลงอีกรอบ เป็นการทิ้งทวน ก่อนจะเข้าสู่โหมดพักน้ำ

ก่อนไปกินข้าว ผมไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปโดยไร้ค่า ในเมื่อแดดดำลังดี การถ่ายรูปก็จะมีโอกาสได้ภาพที่สวยงามได้ เมื่อผมดำน้ำเสร็จ ช่วงเย็น แดดอาจจะหายไป ผมจะเรียกเวลานั้นกลับมาอีกคงไม่ได้ และคงไม่มีโอกาสแก้ตัวอีก

สะพานไม้สุดคลาสสิค กลุ่มคนที่พึ่งจะมาถึงโดยมีพนักงานของ SWV คอยต้อนรับ ร้านอาหารที่วิวดีมาก ลมเย็นๆที่จุดเรือจอด อันเป็นสถานที่ที่คุยกับ 3 สาว ชาวมาเลเซีย

แนวบ้านพักไกลสุดลูกหูลูกตา น้ำทะเลสีเขียวใส ดุจดังสวรรค์ก็ไม่ปาน

ระฆังใหญ่เบิ้มที่หน้ารีสอร์ท กลุ่มนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา ที่ผ่านมาและผ่านไป ลานจอดเฮลิคอปเตอร์(พี่วิทย์บอกว่า ส่วนใหญ่คนที่จะมาจอดก็ระดับนักการเมืองนั่นแหละ)

เก้าอี้นั่งแสนสบายติดกับ Bar ร้านขายของที่ระลึกที่จะไปเยือนในคืนนี้ ส่วนด้านหลัง บนเกาะ คิดว่าคงไม่ได้ไปครับ แต่คราวหน้าผมจะกลับมาอย่างแน่นอน(ติดไว้ก่อน)

และแล้วก็มาถึงร้านอาหารซะที(นานมาก กว่าจะเดินและพรรณนามาถึง 555)

เนื้อสัตว์นานาชนิดที่ถูกตักมา(ไม่มีหมูนะครับ ประเทศเขาเป็นมุสลิม) ผมยังคงหยิบขนมปังกลมๆที่พี่ปุ๋มชอบ มากินอยู่(ก็มันอร่อย) และนั่งคุยกับพี่วิทย์

มองลงไปตรงผืนน้ำ ปลาปักเป้ากล่องขนาดเต็มวัย ว่ายผ่านไป ส่วน บ้านเรา ถ้าเจอแบบนี้ก็ปลาปักเป้าหนามทุเรียนซะส่วนมากครับ ปลาปักเป้ากล่อง ส่วนมาก ก็ต้องลงมาดูด้านล่างล่ะ

กินเสร็จไปถ่ายรูปต่อครับ นกปากยาวๆ จ้องดูเหมือนจะหาปลา เก้าอี้นอนในห้อง นอกชาน กับวิวสุดสวยที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ถึงจะไปห้องพักสุดหรูที่สุดในเมืองไทยก็เถอะ

จุดชมวิวสุดสวยในรีสอร์ท สามารถมองเห็นจากมุมสูง น้ำทะเลนิ่ง เงียบกริบ สีฟ้าสดใส กับสไตล์บ้านที่อยู่สบาย

กระพริบตาสุดท้ายเป็นสะพานทอดยาว ขวาซ้ายเป็นบ้าน มองข้ามไปถึงรีสอร์ทใกล้ๆ

กลับมาที่ Dive Center ผมพร้อมแล้วครับ กับการดำน้ำในไดฟ์สุดท้าย โดยมี Matius กับ Ramil เป็น Divemaster

มี Jasmine กับ George และกลุ่มเพื่อนๆ ชาวสิงคโปร์มาหมือนเดิม

เรือ Lady Ai Sing มาไม่ไกลครับ อยู่ในเกาะ Mabul นี่แหละ จุดดำน้ำที่เรียกว่า Lobster Wall

ลุยโลด!!!!!

0 Comments:

Post a Comment

<< Home