Tuesday, April 05, 2011

สิปาดัน....มหัศจรรย์ทะเลเซเลเบส(11)




Kapalai วันฝนตก!!

เรือ SWV 1 มุ่งหน้าไปเกาะคาปาไลย์ ผมยังสงสัยว่าจะไปดำน้ำกันได้เหรอ คิดผิดหรือเปล่าที่ออกมาดำบ่ายนี้ 555 เพราะฝนตกหนักมาก ทั้งคลื่นแรง เม็ดฝนที่ตกมาโดนร่างกายเจ็บๆ แสบๆ คันๆ แล้วพวกกลุ่มคนจีนที่มาเต็มลำนี่ล่ะ ลงไป Snorkeling จะเห็นอะไร ฟ้าก็ปิด ฝนก็ตกหนัก แต่พวกนี้ก็ดีนะ ไม่ได้ตื่นกลัว ยังหัวเราะ สนุกสนานอยู่

หนาวครับ หนาวมากๆ แต่ละคนมองหน้ากันแล้วก็ยิ้มๆ คนที่นั่งท้ายเรืออย่าง Rika และสาวญี่ปุ่นอีกหนึ่งคน ต้องเอาผ้ามาปิดหน้ากันเม็ดฝนกระเด็นใส่ คงบรรยายได้ดีว่า ฝนตกหนักจริงๆ

ส่วนผมจะทำไงได้ครับ ก็ลงเรือมาแล้ว เวลาดำน้ำเจอฝนตกแบบนี้ ก็บ่อยไป ก็ได้แต่กอดตัวเองเผื่อจะช่วยให้หายหนาวได้ แล้วปิดตากันเม็ดฝนกระเด็นใส่(ตกหนักมาก)

ไม่นานนัก ที่ผมคิดไว้ สงสัยจะถูกต้อง ฝนตกหนักแบบนี้ ก็คงวกเรือกลับ Sipadan Water Village ละมั้ง

เมื่อลืมตาดู อ้าว! ไม่ใช่นี่หว่า โครงสร้างที่พักแบบนี้ ไม่เห็นคุ้น นี่มัน Kapalai Dive Resort สรุปไม่ได้กลับ Sipadan Water Village ครับ มาดำน้ำนี่แหละ ฝนตกเบาลงแล้ว ไม่เหมือนตอนอยู่กลางทะเล สำหรับ Scuba สบายมาก ไม่โดนฝนอยู่แล้ว(ก็แน่ล่ะ)

แต่สำหรับกลุ่มคนจีน ยังสงสัยว่า จะเห็นอะไรกันไหมนี่?

Niger มา Brief ให้ฟังว่า ที่นี่ คือ Kapalai House Reef ชื่อก็ เดาพอได้ว่า น่าจะเป็นแนวปะการังที่ถูกสร้างขึ้นมาให้สัตว์ทะเลได้อยู่กัน เดี๋ยวนี้มีแบบนี้เยอะนะครับ เป็นประโยชน์กับสัตว์ทะเลและระบบนิเวศมากทีเดียว นึกถึงคำพูดของครูตุ๋มที่บอกก่อนมาว่า ภพ อยากดูอะไรก็บอกเขาได้เลย

งั้น จัดไป..........

“Niger , I would like to see Crocodile fish”

Niger บอกว่า ไม่มีปัญหา เอาอีกแล้ว บอกแค่นี้ จะพาไปดูได้ แบบนั้นเลยหรือ?

Dive 11 โลกสีขาวกับอันตราย!!!

ลอยคออยู่ใกล้ Bobby เลยบอกให้ผมตามเขาไป และให้สัญญานลงสู่ใต้น้ำ

ไปกับใครก็ได้ จะ Bobby หรือ Niger ก็ Divemaster ที่มีประสบการณ์ เหมือนกัน แต่ตามให้ดีๆแล้วกันนะ 555

น้ำขุ่นมากครับ นี่มาพัทยาหรือเปล่าเนี่ย จัดได้ว่าเป็นไดฟ์ที่น้ำขุ่นที่สุด ตั้งแต่มาที่นี่ ตอนนี้เริ่มปวดหูมาก Clear หูได้ยาก และปรับระดับลงได้ยากเช่นกัน จนต้องตีขาขึ้นมาซักเล็กน้อย เป็นระยะๆ

Bobby ทำสัญญานว่าโอเคไหม ผมชี้ไปที่หู สื่อสารว่า ยังพยายาม Clear อยู่ ซักพักก็ลงได้จนมาถึงพื้น และบอกสัญญานว่า โอเค

มุงดูอะไรกัน โอ้ Nudibranch ถ่ายรูป ซะหน่อย

จบจาก Clear หู หน้ากากดันเป็นฝ้าอีก ทำไมโลกเราถึงมีแต่สีขาวนะ 555 ตอนนี้ตามองเห็นไม่ชัดนัก ต้องมองผ่านฝ้าออกไป

เอาไงดี ทำยังไงฝ้าถึงออกไปจากหน้ากาก ลอง Clear น้ำออก ฝ้าก็ยังอยู่ ไหนลองอีกวิธีนึง แต่ต้องขอรวบรวมสมาธิหน่อยละ

ผมขยับหน้ากากออกมาจากเบ้าตาข้างนึง ปิดตาไว้ เอามือเข้าไปด้านในและใช้นิ้วเช็ดๆ ถูๆ ฝ้าด้านในหน้ากาก ก่อนที่จะปิด และ Clear น้ำออก(วิธีนี้ คงจะไม่ถูกต้องนักครับ แต่อยากลองดู)

ดีขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่นานก็เป็นเหมือนเดิม(เวรกรรม) ดูท่าจะไม่ Work ล่ะ งั้นเอาที่พอดูได้ไปก่อน ไปดูสัตว์ทะเลกันต่อ

ในสถานการณ์แบบนี้ เหมือนตาบอดไป 1 ข้าง มองอะไรก็ไม่ชัด มองเห็นที่กระดานเขียนว่า R M W นี่ มัน Rockmover Wrasse นี่หว่า ปลานกขุนทองพลิกหิน อดดูตัวจริงใต้ท้องทะเลอีกแล้ว มองไม่ค่อยชัดเลย

Rockmover Wrasse เป็นปลาตัวเล็กๆ เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว มีพฤติกรรมน่าสนใจ เพราะจะใช้ปากคาบหินเพื่อหาอาหารที่ซ่อนอยู่ นับเป็นชีวิตที่น่าสนใจมาก

ตัวนี้เด็ดมากครับ ผมอาศัยถ่ายมั่วๆไป ตามที่ Leader ชี้ อะไรหว่าเล็กๆ สีดำๆ มาดูในรูป(เปิดดูใต้น้ำนี่แหละ) เป็นปลากบ (Frog Fish ) เล็กมากๆ ตัวนี้มีสีดำครับ ดูแปลก เหมือนหลุดออกมาจากยุคไดโนเสาร์ ยังไง อย่างนั้นเลย Niger ตาดีจริงๆ

ในปะการังลูกโป่ง มีกุ้งด้วย ตัวใสๆ ก็เรียก กุ้งปะการังลูกโป่ง ไปก่อน ง่ายดี จำแนกชนิดให้แคบลงมาได้อีก

ต่อด้วยปลาสิงโตครับ Common Lionfish เป็นเด็กดีตลอดเวลา

แม่เจ้า จะพรางตัวอะไรขนาดนั้น นึกว่าถ่ายก้อนหินมาซะแล้ว พอจะมองเห็นลูกตา เห็นส่วนครีบ ออกแนวๆ ปลากบ ปลาแมงป่อง ปลาหิน อะไรซักอย่างนี่ล่ะ

ไดฟ์ไซด์ ที่นี่ จะมีแต่พื้นทรายก็จริง แต่สัตว์ทะเลก็มีของดีๆให้ดูเยอะนะครับ ลอยตัวสูงหน่อย น้ำเริ่มใสขึ้นบ้าง ที่นี่ Kapalai House Reef โครงสร้างดูแน่นหนา บริเวณเชือกก็มีสัตว์ทะเลมาเกาะแล้ว เช่น เพรียง ดาวขนนก เป็นต้น

มัน คือ Home ของพวกเขาและเธอ แม้จะไม่ได้เกิดจากธรรมชาติก็ตาม มนุษย์มีส่วนในการให้ชีวิตแก่สัตว์ทะเลเหล่านี้เหมือนกันนะ คงจะดูไม่ผิดนัก ถ้าจะบอกว่า มนุษย์ก็คือผู้สร้างและทำลาย

Bobby ชี้ให้ดู ว่ามีอะไรในโพรง ผมเห็นไม่ชัดนัก เลยเข้าไปใกล้ๆ ยื่นมือเข้าไปบ้าง เพื่อจะถ่ายรูป ก็ยังไม่เห็นตัวสัตว์ทะเล จนตัวเองลืมไปว่า ผมเข้าใกล้มากไปหรือเปล่า

Bobby ดึงไหล่ผมให้ออกมา(อารมณ์เหมือนตอนครูปรีชา ดึงเจ้าเอ็ม ออกมา เพราะเฉียดงูทะเล ตอนไปสิมิลันนั่นแหละครับ) พอมาเปิดดูรูป แทบช๊อค

โอย ปลาไหลมอเรย์ นี่หว่า ตัวใหญ่ น่ากลัวเชียว เกือบมือขาดซะไหมล่ะ 555 แต่ว่าถ้าขาดจริงๆ ผมนี่แหละครับ ไม่ระวังเอง โทษตัวเองสถานเดียว สัตว์มันก็ต้องป้องกันตัว และมีระยะปลอดภัยของมัน

ส่วนตัวนี้ น่ากลัวน้อยกว่าหน่อย Greyface Moray หรือปลาไหลมอเรย์ตาขาว(แต่ฟันก็คมอยู่ดีแหละ)

Leaf Scorpionfish หรือปลาแมงป่องใบไม้ มาคราวนี้คุ้มเลย เจอตั้งหลายตัว เจ้านักพรางตัวนี้มีสีเขียวครับ พบได้มากในทะเลเซเลเบส แต่หาได้ยากในบ้านเรา(มีอยู่ครับ แต่หาได้ยาก)

ไปๆมาๆ ผมคลาดกับ Bobby ครับ แต่เจอ Niger งั้นตาม Niger แทนเลย

และแล้ว Niger ก็ชี้ให้ผมดูสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง อยู่บริเวณใกล้ๆ เชือก ผมมองไปตรงพื้น ไม่เห็นมีอะไรเลย

ผมให้สัญญานว่ามองไม่เห็น Niger ชี้ให้ดู ผมมองช้าๆ ตามมือ แล้วก็เห็นซะที

“Crocodile fish!!!!!!!!”

ตามคำขอครับ มาตอนปลายไดฟ์พอดี เจ้าปลาจระเข้ ผมจำหน้าตามันได้จากในเว็บไซด์และในหนังสือที่ดูบ่อยๆ

ปากแหลมๆ ตาโตๆ ผิวดูสากๆ นอนนิ่งแต่ตาจ้องเขม็ง มองเห็นติ่งเนื้อรอบตา ดูๆไป แม้จะเหมือนพวกตัวโกง แต่ดูเท่ห์ไม่หยอกเลย

ธรรมชาติสร้างมาให้ปลาจระเข้ ใช้ร่างกายและรูปร่างแบบนี้ พรางตัว เพื่อจับเหยื่อ ปลาน้อยเหรอ โผล่มาเหรอ โดนกินแน่นอน

และแล้ว Niger ทำสัญญานให้ผมขึ้น ผมลอยตัวมองเชือกเส้นนั้น และปลาจระเข้ สัตว์ทะเลที่หลายคนอาจไม่รู้จัก อาจจะไม่ใช่สัตว์ทะเลที่ชวนมองเท่าไรนัก แต่เป็นห้องเรียนที่หาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตบนบก


New Mask– Bobby !!!!


ผมบอก Bobby ว่า ขอโทษ ด้วยน้ำที่ขุ่นเลยทำให้คลาดกัน แต่ไปเจอ Niger ก็เลยตามไปต่อ และได้พบปลาจระเข้ที่ Request ไว้ ด้วย ส่วนตอนต้นๆ ไดฟ์ ปลากบสีดำก็น่าสนใจมาก ผมหยิบกล้องมาเปิดให้ดู

New Mask? Bobby ถาม

ผมตอบว่าใช่ Bobby บอกว่า หน้ากากใหม่ๆ ก็อาจเป็นฝ้าได้ ถ้าให้ดี ก็ควรมาแลกกับของเขา รับรองว่า ฝ้าจะหายไปอย่างแน่นอน(Joke นะ Joke) เรียกเสียงหัวเราะจาก Niger และผม ได้เลย

นั่งลงบนพื้นของเรือ แม้ที่หัวเข่าจะมีเลือดออก คงไปโดนอะไรซักอย่าง แต่ไม่ได้ทำให้ความสนุกสนาน ลดน้อยลงไปเลย


ตัวกระจายแฟลช ที่หายไป!!!


เอากล้องมาแช่น้ำ แปลกๆ เหมือนอะไรมันหายไป นั่นไง ตัวกระจายแฟลชที่เป็นแผ่นพลาสติคไว้ติดกับ Housing หายไปไหนล่ะ สงสัยหลุดไปที่ Kapalai แน่ๆ แบบนี้จะถ่ายตัวเล็กๆ ลำบากแล้วครับ เพราะจะมืดไปข้างนึง

ลองกดดูรูปในกล้องก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แย่ล่ะ กลับไปคงต้องไปหาซื้อ ไม่รู้จะมีขายไหม

ผมเจอ Edu ก็เลยโชว์รูปปลากบสีดำที่ Kapalai และเล่าถึงฝ้าที่เต็มหน้ากาก กับการใช้วิธีของผม ใช้มือถู ใต้น้ำ

Not Joke”

นั่นละครับ ถึงผมจะเล่าไปขำไป แต่คนที่มีประสบการณ์มากกว่าอาจมองว่ามันไม่ตลก มันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องและคงไม่มีใครใช้กัน แต่นาทีนั้น ผมคิดออกแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ตื่นกลัวอะไรครับ มีสติดีอยู่

เอาไว้ คงต้องไปซ้อม Clear ฝ้า ออกอีกแน่นอน 555

หลังจากที่คิดๆ ปรึกษาคนนั้น คนนี้ ว่า ผมควรจะดำในวันสุดท้าย กี่ไดฟ์ บางคนว่า 1 บางคน ว่า 2 บางคนว่า 3 ได้ เพราะอย่างที่เล่าให้ฟังครับ ผมจะต้องเดินทางกลับโดยเครื่องบินในวันต่อไป การพักน้ำที่ไม่เพียงพอ ปริมาณไนโตรเจนยังเหลือในร่างกายเป็นจำนวนที่มาก อาจจะเป็นอันตรายได้

ตารางออกมาแล้วครับ พรุ่งนี้ 8 โมง 10 โมง บ่ายสองครึ่ง แต่จะลงกี่ไดฟ์ มันก็ขึ้นอยู่ที่ผมด้วยล่ะนะ

ช่วงนี้มีเวลา ผมไม่ปล่อยให้เวลาว่าง ถ่ายรูปเก็บรายละเอียดที่ Dive Center ต่อ ก่อนจะกลับไปที่ห้อง และเจอ Marie กับ Phillipe 2 สามี ภริยา ชาวฝรั่งเศส เลยขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และคุยเล็กๆน้อยๆ

Marie กับ Phillipe บอกว่า วันนี้ไปดำที่ Sea Venture มา ด้วย และค่อนข้างดีที่เดียว(อยากไปเหมือนกันครับ รู้ว่ามีปลากบตัวใหญ่ รู้ว่าเคยมีม้าน้ำแคระ แต่โปรแกรมไม่ลงซะที หรือจะลอง Request ดูในครั้งต่อๆไปก็ได้)

เป็นสามี-ภริยา มาดำน้ำด้วยกัน มันก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย 555

จากตรงนี้ ผมเดินต่อไป สำรวจดูซิว่า ที่พักมันจะยาวไปถึงไหน สะพานไม้ยาวมากๆครับ ด้านหลังนี่ยังมีที่พักอีกมากด้วย บรรยากาสก็ดี ลมเย็นๆ ไหนลองเดินไปให้สุดทางเลยดีกว่า

มีบันได ลองเดินขึ้นไปดูวิว ถ่ายรูป และดูพระอาทิตย์ตก สวยงามมากๆ

พรุ่งนี้ดำน้ำวันสุดท้าย ก่อนจะเข้าสู่โหมดพักน้ำ ก่อนขึ้นเครื่องบิน(นอนอีก 1 คืน)

อะไร มันจะรวดเร็วปานนั้น หนอ

วันนี้ง่วงมาก คงเพราะตื่นตั้งแต่ ตี 4

แต่คุ้มค่าสุดๆ เลยล่ะ


27 ตุลาคม 2553


หลังจากกินข้าวเช้า วันนี้ไปเกาะ Kapalai เหมือนเดิมครับ แต่อากาศดีกว่าเมื่อวานเยอะ พี่วิทย์ไปด้วย (เวียนมาเจอ Divemaster คนไทย ซะที 555) พี่วิทย์บอกไปช่วยเฉยๆ ส่วน Divemaster ตามกระดาน ก็คือ Matius

เรือ ชื่อ Lady Ai Sing ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง จะลงที่ Kapalai House Reef ตามที่ Matius ได้ Brief ไว้ อย่าลืมดำน้ำตามกฎ ด้วยนะครับ

0 Comments:

Post a Comment

<< Home