Tuesday, December 28, 2010

สิปาดัน....มหัศจรรย์ทะเลเซเลเบส(10)




จบไดฟ์แรก ขึ้นมาพักน้ำบนเกาะสิปาดัน จะสังเกตว่า ทำไมมาพักบนเกาะบ่อยเหลือเกิน ไม่ดำๆต่อไปเลยล่ะ พักเกือบทุกไดฟ์ นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อดำน้ำเสร็จสิ้นในระดับที่มีความลึกจะมีปริมาณไนโตรเจนสะสมอยู่ในร่างกาย เราจะต้องพัก(เรียกกันว่า “พักน้ำ”) เพื่อให้ปริมาณไนโตรเจนออกไป ซึ่งคนที่เป็น Instuctor , Divemaster , หรือ Leader ในการดำน้ำจะทราบดีครับ และคำนึงถึงความปลอดภัยของนักดำน้ำเสมอๆ


มีของว่างให้ทาน ผมใช้เวลากินแป๊บเดียว กินมากกลัวจะอาเจียน เดินสำรวจต่อดีกว่า ที่เกาะแห่งนี้ประวัติศาสตร์ยาวนานเหมือนกัน ก่อนผมเกิดซะอีก มายืนดูที่ป้าย เขาบอกว่า ชื่อ “สิปาดัน”(Sipadan) มาจาก “สิปารัน” (Si Paran) เป็นชื่อของชายคนหนึ่งที่ถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาน ณ ชายหาดแห่งนี้


จากนั้นก็มีข้อพิพาทกันระหว่างประเทศมาเลเซียกับประเทศอินโดนีเซียว่าใครจะมีกรรมสิทธิ์ในเกาะแห่งนี้ จนกระทั่งในปี 2002 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ(International Court of Justice) ตัดสินให้เกาะสิปาดันเป็นกรรมสิทธิ์ของประเทศมาเลเซีย(เหมือนเรียนวิชากฎหมายระหว่างประเทศ นอกสถานที่เลยนะ น่าจะมีแบบนี้บ้าง จะได้เพิ่มแรงจูงใจในการเรียนหน่อย 555)


และในปี 2004 รีสอร์ททั้งหมดก็ต้องย้ายออกจากเกาะแห่งนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ผมเคยเล่าให้ฟังไป จากนั้นรัฐ Sabah ซึ่งเป็นเขตการปกครองของประเทศมาเลเซียก็เข้ามาจัดการอุทยานแห่งนี้ ในปี 2005 จนถึงปัจจุบัน


เอาสั้นๆแค่นี้ก่อน ผมเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มีขอนไม้ขนาดใหญ่อยู่ตรงนี้ แดดยังไม่ค่อยมีเท่าไร นั่งเล่นบนขอนไม้แป๊บนึง ข้าศึกบุกครับ ไปห้องน้ำดีกว่า ลงไดฟ์ต่อไปจะได้สบายๆท้อง


ออกมาเจอไอน้ำ (Valentine) ยืนกวักมือเรียก(ออกแนวผีนะเนี่ย 555) เป็นสัญญานว่า ได้เวลาลงไดฟ์ต่อไปแล้ว


“คุณจะว่าอะไรไหม ถ้าเราจะลงกันที่ Barracuda Point” Valentine ถามผม เพราะผมเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ว่า เมื่อวานนี้ก็ลงจุดนี้ไปแล้ว 2 ไดฟ์(แถมไม่เจอ Barracuda แต่มีเต่ากับฉลาม)


ผมตอบ Valentine ไปว่าตามสบายเลย เพราะ คนอื่นๆในกรุ๊ปวันนี้ บางคนก็ไม่เคยลงที่นี่มาก่อน อีกอย่างผมรู้สึกพอใจมาก ที่ไดฟ์ที่แล้ว Valentine พาไปดูเจ้า Bumphead Parrotfish ถือว่า Complete


ลง Barracuda Point กันอีกซักครั้ง อาจจะมีอะไรรอ Surprise ผมอยู่ก็ได้นะ



Dive 9 Barracuda Tornado / Cyclone!!!!



สะดุ้งเลย ลงมาซักพัก อยู่เหนือพื้นเล็กน้อย ไม่ทันได้สังเกต ว่าเจ้า Whitetips Shark นอนอยู่ตรงนี้ ห่างแค่เมตรกว่าๆเอง มันก็ตกใจครับ กำลังพลิกตัวว่ายหนี ผมยกกล้องขึ้นมาถ่ายพอดี


นี่คือ School of Jackfish โห เพียบเลยฝูงปลากระมงนั่นเอง (Bigeye Trevally) ปลากลางน้ำที่ก่อตัวกันเป็นกำแพงสีเงิน ดูจะมากกว่าเมื่อวานนี้ซะอีก ถ่ายรูปแล้วลองถ่ายวีดีโอบ้าง


เวลาอยู่กับปลาเยอะๆ รู้สึกสดชื่นแบบบอกไม่ถูก สังเกตเห็นปลากระมงอีกหนึ่งชนิด คือ ปลามงครีบฟ้า(Bluefin Trevally) เป็นปลาเศรษฐกิจเหมือนกันเพียงแต่จะอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดเล็กกว่า


แก้มือครับ แบบว่าอยู่เมืองไทยไม่ค่อยมีฉลามให้ดูมากขนาดนี้ Whitetips Shark นอนอยู่ ต้องระมัดระวังเข้าไปเงียบๆ แบบซักครู่พอเราไม่เห็น พรวดพราดไป คนก็ตกใจ ปลาก็ตกใจ ส่วนอีกตัวนั่นก็นอน มีเหาฉลาม(Shark Sucker) อยู่บนหัวด้วย


Valentine เขียนกระดานแล้วชี้ให้ผมดูปลาฉลามอีกชนิดหนึ่ง คือ Grey Reef Shark ว่ายออกไปในแนวลึกอย่างรวดเร็วจนไม่ทันจะหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย ได้แต่เพียงสังเกตเท่านั้น เป็นฉลามที่รูปร่างสวย ดูแข็งแรงและตัวใหญ่กว่า Whitetips Shark เสียอีก ส่วนความอันตรายน่ะเหรอ หึหึ ผมว่าอันตรายกว่าเจ้า Whitetips Shark แต่ก็ไม่กลัวครับ เรามาดี ไว้คราวหน้าเจอกันใหม่นะ


มา Barracuda Point เจอปลาสากซะที เป็นปลาสากบั้ง(Blackfin Barracuda) อีกหนึ่งในปลาเศรษฐกิจ มีประมาณ 10 กว่าตัวได้


พี่เต่าตนุ(Green Turtle) มาแล้ว เวลาว่ายน้ำ เวลาขยับร่างกาย เหมือนนกไม่มีผิด จากนี้ สิ่งที่ผมเห็นมองจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน เป็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเจอมาก่อน ไม่ได้นึกถึงเลยว่าจะเจอในคราวนี้ แต่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของสิปาดันด้วย


Barracuda(ปลาสาก) ครับ มันกำลังทำ Cyclone!!!!!


บ้างก็เรียก Tornado ก็ไม่ผิด ความน่าอัศจรรย์ มันอยู่ที่ Barracuda รวมตัวกันหลายร้อยตัว(ไม่ซิเป็นพันก็คงถึง)คล้ายพายุขนาดหญ่ที่ก่อตัวกันเป็นวงกลม ห่างจากผิวน้ำเพียงไม่กี่เมตร หากนักดำน้ำแบบ Snorkeling ก็เห็นแน่นอน


ผมยืนแขนยาวๆเท่าที่ยืดได้ กดชัตเตอร์อย่างเมามัน ทั้งเปิดแฟลชและไม่เปิดแฟลช โอกาสแบบนี้ ถือเป็นโอกาสทอง หาดูไม่ได้ง่ายๆ(ดูอย่างเมื่อวานซิครับ ลงที่นี่ 2 ไดฟ์ แต่ไม่เจอเลย)


ยังไม่จบแค่นั้นครับ เจ้า Barracuda ลงมาในระดับเดียวกับผม ว่ายผ่านไปรอบๆ ค่อนข้างใกล้ เหมือนกองทัพอะไรซักอย่างที่มีความสามัคคี กลมเกลียว ไปไหนไปด้วย มีเป้าหมายตรงกันก็คือ “รวมตัวกันเพื่อความอยู่รอด”


ปิดท้ายด้วยการถ่ายวีดีโอ ไดฟ์นี้จบด้วยความตื่นตาตื่นใจมาก อลังการจริงๆ


ขึ้นมาพักน้ำบนเกาะสิปาดันอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่อาหารว่างแล้ว อาหารเช้าเลยล่ะ มีผัดหมี่กับไส้กรอก มีขนมปัง อร่อยดีครับ(Junior มาด้วย คงเอาอาหารเช้าของทางรีสอร์ทมาให้นี่แหละ)


เดินถ่ายรูปเล่นเหมือนเดิม เวลานี้แดดเริ่มมา เห็นความงามของเกาะแห่งนี้อย่างแท้จริง ทราย(ขาว) น้ำทะเลใสสะอาดมาก ถ่ายวีดีโอเก็บไว้หน่อย ไว้ตั้ง ค.ร.ม ชุดใหม่ ขออยู่กระทรวงการท่องเที่ยวนะ(ล้อเล่น 555)


พักได้ 1 ชั่วโมง นิดๆ จุดต่อไป คือ South Point ครับ


Dive 10 รู้แจ้งเห็นจริง บรรลุแล้ว!!!!


อย่างที่บอกไว้ครับ หากเราวิ่งหนีปัญหา ยังไงก็ไม่มีวันที่จะแก้ไขได้ตลอดไป เมื่อวานผมอาจจะซ้อม Clear น้ำออกจากหน้ากากแล้วไม่มีปัญหาอะไร หรือวันนี้ ดำมาสองไดฟ์แล้ว ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน


ณ ตอนนี้ น้ำซึมเข้ามาในหน้ากากอีกแล้วครับ


คิดๆ ซิ เอาเร็วๆนี้แหละ พี่วิทย์ พี่ปุ๋ม และJimmy สอนยังไงบ้าง อะไรที่ผมยังขาด และไม่ได้ทำ ไม่งั้นเกิดดำถึง 200 ไดฟ์ ยังเป็นแบบนี้อยู่อีก แม้จะไม่ได้เป็นทุกไดฟ์แต่ก็ควรจะอายคนอื่นบ้างนะ 555


ลองทำดูแหละ ไม่ต้องกลัวอีกแล้ว กูรูทั้งสามท่าน บอกเหมือนกัน คือ ให้แหงนหน้าขึ้น ใช้มือกดหน้ากากไว้ แล้วหายใจออกช้าๆ ช้าๆ ย้ำ คือ ช้าๆ


อากาศถูกพ่นออกเป็นจังหวะและช้าๆ สุดยอดครับ ไม่เห็นจะยากเลยนี่หว่า น้ำออกจากหน้ากากอย่างง่ายดาย ที่แล้วมาบางครั้งผมหายใจออกเร็วมาก(ปู๊ดเดียว แรงๆ) หรือในบางครั้ง ถ้าย้อนไปตอนไดฟ์แรกเมื่อตอน Check Dive ก็ไม่ได้เอามือกดหน้ากากด้วยซ้ำ(แต่อันนั้น Clear ได้นะ) สรุปในภาพรวม ผมควรจะทำแบบนี้ครับ ทำให้ถูกวิธี ปัญหานี้ก็จะไม่มีอีกต่อไป(ถ้าหน้ากากมันมีปัญหาจริงๆ อันนั้นก็อีกเรื่องนะ)

เรามาดูสัตว์ทะเลกันต่อครับ นั่นว่ายน้ำไปแล้ว พี่ฉลามครีบขาว(Whitetip Shark) ถ่ายรูปๆ หันมาเจอพี่เต่าตนุ(Green Turtle) ถ่ายวีดีโอตอนว่ายน้ำหน่อยดีกว่า


นึกขึ้นได้ ถ่ายวีดีโอฉลามครีบขาว(Whitetip Shark) ตอนนอนบนพื้นแล้ว ตอนว่ายน้ำยังไม่มีนี่ เอ้าถ่ายหน่อย มาทีต้องเอาให้คุ้มครับ นักแสดงพร้อมขนาดนี้ ช่างกล้องจะไม่พร้อมได้อย่างไร


ยังเป็นคำถามและคำตอบเดิมๆครับ คือ งง มาก ปะการังไม่ได้สวยอะไรเลย ปะการังอ่อนก็น้อย แต่ดูสัตว์ทะเลช่างขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง


Green Turtle ตัวนี้อยู่ที่พื้น อีกตัวกำลังบินเหมือนนก ในขณะที่อีกตัวเหมือนกับอยู่ในฐานยิงจรวด ค่อยๆออกจากฐาน ผมกดรัวไปหน่อยแต่กลายเป็นดี เพราะแสงเพียงพอ เลยได้หลายช๊อต


เต่ากับฉลามมากมายจริงๆ นี่เหรอสิปาดัน ยังจำที่วิจิตร(คนไทยที่พึ่งกลับไป) พูดได้เลย ว่าสมัยก่อนมากกว่านี้เสียอีก(นี่มันก็มากมายแล้วนะครับ มีมากกว่านี้อีกเหรอ 555)


ปิดท้าย ช่วงทำ Safety Stop ผมถ่ายรูปวิธีการส่งสัญญานใต้น้ำให้เรือทราบของ Valentine คือการหงาย Octopus ขึ้นและทำให้เกิดฟองอากาศเพื่อบอกเรือด้านบน(หากเป็นที่พัทยา เรือ Speed Bote เยอะ คงไม่ Work เท่าไรครับ Sausage น่าจะชัดเจนกว่านะ)


“My Fin ! My Fin!” ช่วงระหว่างรอขึ้นเรือ Marie ตะโกนบอกว่า ทำ Fin ตกไป ครับ ผมรีบมองหาเพื่อจะลงไปเก็บให้ แต่ไม่ทัน นั่น มีคนไปเก็บให้แล้ว


Learning by doing!!!!


ระหว่างล้างตัว แดดกำลังดีเลยครับ ผมได้คุยกับ Marie และ Phillipe สามีภริยาชาวฝรั่งเศส บ้านอยู่ที่ Lyon ดำน้ำมาหลายที่ บาหลีก็พึ่งไปมา ผมเลยตีเนียนทักทายเป็นฝรั่งเศสบ้าง แบบว่าความรู้ยังเหลืออยู่หน่อยนึง จากที่เรียนสมัยมัธยมปลาย เขาและเธอหัวเราะกันใหญ่เลย และที่สำคัญผมกล่าวขอบคุณเขาและเธออย่างใจจริง เพราะถ้าไม่ได้เจอกันเมื่อวานนี้ วันนี้ผมก็อาจจะไม่ได้เห็นอะไรดีๆแบบนี้ก็เป็นได้


ตรงจุดนี้ ผมมองออกไป มีที่พักอยู่หลายที่ จากที่สอบถามพี่วิทย์(ใกล้ไปไกล) ก็มี Scuba Junkie , Smart(Sipadan-Mabul Resort) และ Borneo Diver โดยเฉพาะ Borneo Diver นี้ พี่หมอหมู พี่ปุ่น และโอเลี้ยง ก็มาพักที่นี่แหละ


ผมเล่าให้พี่วิทย์ฟังว่า ในที่สุดก็จัดการปัญหาเรื่อง Clear น้ำออกจากหน้ากากไปได้แล้ว ซึ่งพี่วิทย์ก็บอกว่า


“แบบนี้แหละครับ Learning by doing เรียนรู้เองน่ะดีแล้ว”


ส่วนเรื่องที่ Bobby บอกตั้งแต่วันแรกที่มาถึง เรื่อง Special Dive ของผมนั้น พี่วิทย์บอกให้ไปบอก Bobby ได้เลย ถ้าผมจะลงต่อช่วงบ่าย(เอาเลยดีกว่าครับ เผื่อพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการดำน้ำจะได้ชิวๆ เพราะต้องหยุดดำน้ำก่อนจะขึ้นเครื่องด้วยนี่นา)


หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ !!!!


เจอ Bobby พอดีครับ เลยถือโอกาสถามซะ Bobby บอกโอเคเลย ว่าแล้วก็มาเขียนชื่อผมที่บอร์ดให้ แล้วก็ถามภาษาไทยเกี่ยวกับการนับว่า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1000 10000 เรียกเป็นภาษาไทยว่าอย่างไร ซึ่งผมก็อธิบายให้ฟัง ในบรรดา Divemaster ที่นี่(หากไม่นับพี่วิทย์ที่เป็นคนไทย) ดู Bobby จะรู้ภาษาไทยมากกว่าคนอื่นๆ และแน่นอนว่า คำที่เรียนรู้เร็วเหลือเกิน ก็คือ “ผมรักคุณ”(555)


Did you play basketball ?


มากินข้าวกลางวัน ระหว่างตักอาหาร เด็กพนักงานของ Sipadan Water Village(หัวหยิกๆ) ถามผมว่า


“Did you play basketball ?” ว่าแล้วเด็กคนนี้ก็ทำท่าทางเลี้ยงลูกบาส แล้วกระโดดชู๊ด


“ Yes”


เด็กคนนี้ดู NBA เหมือนกันครับ ชอบ LA LAKER ชอบ Kobe Bryant ซะด้วย(บังเอิญว่าผมไม่ชอบ Kobe Bryant แฮะ เชียร์ให้แพ้ทุกนัดเลยนะ 5555 คุยไปคุยมาสนุกดีครับ ผมยังแนะนำว่าให้ติดตามข่าวต่อไป ฤดูกาลนี้ก็สนุกเหมือนเดิม


“กินไรพี่ อร่อยเปล่า” ผมถามพี่วิทย์


“อย่าถามคนที่อยู่มา 6 เดือน” แกพูดและยิ้ม


สำหรับคนที่อยู่มานานอย่างพี่วิทย์ คงไม่เหมือนผม ที่พึ่งจะมาพักเพียงไม่กี่วันหรอกครับ


“แล้วเจออะไรบ้าง เช้านี้ ” พี่วิทย์ถาม


“Bumphead Parrotfish ครับ และก็ Barracuda ทำ Cyclone”


“เฮ้ย จริงดิ ไอ้หนึ่งมันอยากเจอมากนะ Barracuda ทำ Cyclone น่ะ”


ดำน้ำต่อรอบบ่าย!!!!


เวลา คือ 2 โมงครึ่ง ผมมาก่อนเพื่อมาดูว่าชุดอุปกรณ์ลงไปอยู่ในเรือแล้วหรือยัง ตามที่ Jimmy brief ให้ฟังตั้งแต่วันแรก ถ้ายังก็บอกพนักงานของรีสอร์ทได้เลย ว่าของเราเบอร์อะไร วันนี้ผมบอกพี่โล้นครับ ไม่รู้ชื่ออะไรล่ะ แกยิ้มแย้ม บริการดี ไม่นานอุปกรณ์ก็ไปอยู่บนเรือเรียบร้อย(อย่าลืมก็เช็คเรื่องอากาศด้วยครับ แม้จะมีคนบริการเปิดให้ แต่เราก็ต้องเช็คเองด้วย)


เรือ ชื่อ SWV 1 Divemaster ชื่อว่า Niger


บ่ายนี้มี Rika และสาวญี่ปุ่นอีกหนึ่งคน มีชาวต่างชาติ มี Bobby และ กลุ่มคนจีนหรือไต้หวันหรือ...(ซักชาตินี่แหละ) มากันหลายคน ดูท่าทางจะไป Snorkeling กันด้วย เต็มลำเลยล่ะ



0 Comments:

Post a Comment

<< Home