Under Water World(1)
สัปดาห์นี้ พี่ชายคนโตจะกลับไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนกลับอยากหาโอกาสไปเยี่ยมพี่ชายคนกลางซึ่งทํางานโรงแรมอยู่พัทยา ส่วนนักเดินทางอย่างผมคงไม่พลาดที่จะติดตามไปด้วยอย่างแน่นอน
นับว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาในโลกใบนี้ ที่สามพี่น้องได้มีโอกาสเที่ยวต่างจังหวัดตามลําพังพร้อมกันเพราะนอกจากเวลาและสถานที่อยู่อาศัยมักจะไม่ตรงกันแล้ว การไปต่างจังหวัดพร้อมกันส่วนใหญ่มักจะอยู่พร้อมหน้า พร้อมตากันเป็นครอบครัว
ครั้งนี้คุณพ่อของผมไปต่างจังหวัดส่วนคุณแม่เลือกที่จะอยู่กรุงเทพมากกว่า ประจวบเหมาะที่พี่ชายคนกลางมาทําธุระที่กรุงเทพและจะกลับพัทยาคืนวันนี้พอดี เราจึงประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ เราออกเดินทางเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันใหม่ ตามเส้นทางมอเตอร์เวย์
18 กรกฏาคม 2548
ก่อนไปหาของใส่ท้อง พี่ๆพาผมขึ้นมายังจุดชมวิวเมืองพัทยา ที่นี่ทําเส้นทางดีมาก มีทางวิ่งเฉพาะ สําหรับผู้ที่มาออกกําลังกายด้วย(เพื่อความปลอดภัย) แม้จะไม่มีแดดซึ่งทําให้บรรยากาศในการชมวิวทะเล สวยลดน้อยไปบ้างแต่ก็มีความสุขครับ นอกจากนี้ข้างบนยังมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ด้วย
ทางลงนี้เอง ผมได้เห็นท่าเรือพัทยา(Pattaya Port) ซึ่งผมพึ่งมาดําน้ำเมื่ออาทิตย์ก่อน พึ่งจะรู้ว่ามีถนนเชื่อมต่อไปถึงจุดชมวิวด้วย
หลังจากได้ข้าวมันไก่แสนอร่อย บวก เกาเหลาชิ้นสดและข้าวเปล่า ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง(ลืมชื่อ) พี่ๆถามผมว่าจะไปเที่ยวไหนดี ในใจผมก็อยากไปดู Under Water World เหมือนกัน เมื่อคราวก่อนพลาดไปเพราะมาถึงเมื่อเย็นมากแล้ว อยากลองไปดูชีวิตสัตว์ทะเลที่ผมชื่นชอบแม้ผมจะรู้สึกสงสารพวกเขาที่ถูกนํามาขังไว้เพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษาแต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า นี่คือชีวิตจริง ความสุขใจมักอยู่ภายใต้ความเศร้าโศกของหลายๆชีวิตเสมอๆ
เราเลี้ยวรถเข้าไปที่เมืองจําลอง ที่นี่ผมเคยมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ค่าเข้าในตอนนี้ตกอยู่ที่ 100 บาท แต่ไม่ได้เข้าครับเพราะอากาศร้อนเหลือเกิน และแล้วความหวังของผมก็เป็นจริงขึ้นมา พี่ๆอยากให้น้องสุดท้องอย่างผมมีความสุขจึงพาผมมาชมชีวิตโลกใต้ทะเลที่ Under Water World
สู่โลกใต้ทะเล Under Water World
มาถึงที่นี่ ในช่วงบ่ายๆ หลังจากซื้อตั๋วเข้าเรียบร้อยแล้ว(180 บาท) อาจจะแพงซักหน่อยหากเทียบกับหลายๆที่ที่ผมเคยไปมา ผมก็อยากรู้ว่าจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่
1 Touch Pool
จุดนี้ผมเห็นบ่อน้ำใสๆ สามารถเข้าไปแตะตัวสัตว์ทะเลได้ใกล้ๆ ภายในมีดาวทะเล(Star Fish) ลูกฉลามเสือดาว (Leopard Shark)หน้าตาน่ารัก2 ตัว(น่ารักมาก) นอกจากนี้ยังมี Cow Fish ปลาที่อยู่ในตระกูลปักเป้ากล่องด้วย(แต่รายนี่อยู่ลึกหน่อยคงไม่มีใครล้วงเข้าไปจับแน่) ซึ่งผมคิดว่าตรงจุดนี้ พวกเขาคงถูกแตะจากนักท่องเที่ยวบ่อยๆแน่ ซึ่งผมหวังว่าพวกเขาคงไม่ติดเชื้อโรคตายไปซะก่อน
จากนี้เดินทางมา เห็นตู้ใสๆขนาดเท่าที่บึงฉวาก ภายในมีปลาการ์ตูนหลายชนิด เช่นปลาการ์ตูนส้มขาว(Crown Anemonefish), ปลาการ์ตูนอานม้า(Saddleback Anemonefish),ปลาการ์ตูนอินเดียนแดง(Pink Anemonefish) เป็นต้น
ข้างหน้าผมมีผ้าดําๆคลุมอยู่เป็นทางเข้า เมื่อเดินแหวกผ้าเข้าไปดู ภายในพบตู้ใสๆอีก 1 ตู้ ถึงตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทําไมถึงต้องปิดผ้าดําๆเพราะมีเจ้าปลาไหลมอเรย์ยักษ์(Giant Moray)2-3ตัว ได้เห็นตัวหนึ่งระหว่างว่ายออกจากไหใบใหญ่ ลําตัวช่างยาวจริงๆและเจ้าฉลามครีบดํา(Blacktip Shark) 2-3 ตัว ว่ายวนไปๆมาๆ(ก็ตู้มันแคบ จะให้ว่ายไปไหน) ที่สายตาดูลึกลับดี
จากนี้เดินต่อไปเรื่อยๆ จะเป็นอีกโซนหนึ่ง มองเห็นอุโมงค์ใต้น้ำอยู่ทั้ง 2 ทางว่าแต่จะไปทางไหนดี(จริงๆไปทางไหนก็สามารถกลับมาที่เดิมได้)
ตรงกลางมีที่นั่งพัก พร้อมฉายวีดีโอเกี่ยวกับสัตว์ทะเลให้ได้ชมกัน เราเลือกเดินไปทางซ้ายมือ ก่อนเข้าไปอุโมงค์ใต้น้ำ ก็มาหยุดอยู่ที่ตู้ของปลาสิงโต(Lion Fish) ตัวหนึ่งลอยอยู่นิ่งมาก ทําให้ผมถ่ายรูปได้ไม่ยากนัก
0 Comments:
Post a Comment
<< Home