Tuesday, April 19, 2011

สิปาดัน....มหัศจรรย์ทะเลเซเลเบส(14)






28 ตุลาคม 2553

วันสุดท้ายของการเดินทาง ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกครั้งแรก ก็ลืมตาขึ้นอย่างไม่งัวเงีย แม้จะได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม ต้องรับผิดชอบตัวเองอีกครั้ง ตื่นสายละก็คงพลาดเที่ยวบินและอาจไม่ได้กลับเมืองไทยตามเวลาที่กำหนดก็ได้

อากาศเย็นๆ สบายๆ เดินออกมาดูที่ระเบียง เริ่มจะมีแสงยามเช้า นึกๆดูๆก็เหมือนฝัน ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะได้มีโอกาสมาที่นี่จริงๆ

ตรวจตราสิ่งของ ปิดห้อง แบกกระเป๋า เหมือนวันมาถึง กลายเป็นไอ้บ้าหอบฟางอีกครั้ง กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่องบิน 1 ใบ เป้สะพายหลัง 1 ใบ และฟิน Mares สีเหลือง สะพายที่ไหล่ขวาอีก 1(รวมทั้งหมด แทบจมธรณี555)

คืนกุญแจห้อง หลังจากทำการ Check-Out ไปแล้วเมื่อคืนนี้ เดินไปร้านอาหารเพื่อทาน Breakfast จำได้ว่าพี่วิทย์บอกไว้เมื่อวาน มีผู้หญิง 2 คน ที่มาด้วยกัน จะกลับเช้านี้พร้อมกับผม

เอ หรือว่าจะเป็น 2 สาว ตรงนี้นะ หน้าตาเหมือนคนจีน(คงใช่แหละ ก็เช้านี้ยังไม่มีใครนี่นา)

2 วัน ก่อน ที่ Dive Center และ ที่ร้านอาหาร ผมเห็น 2 สาวนี้ครับ ยังคิดว่ามากับพวก Jasmine และGeorge เลย ผู้หญิงมากัน 2 คน เก่งแฮะ

ไคกับฝนมาทาน Breakfast ด้วย เช้านี้ไคจะออกไปดำน้ำที่สิปาดัน ผมแนะนำให้ฝนไปด้วย ดีกว่าอยู่ที่นี่เฉยๆ เพราะหาดทรายและน้ำทะเลที่เกาะสิปาดันสวยมากๆ ไปสน๊อคเกิ้ล ก็คงเห็นฝูงปลา Jack ได้ง่ายๆ

แหม มีสาวๆกลับด้วยเหรอจ๊ะ เช้านี้ ฝนแซว

พึ่งจะมีวันสุดท้ายนี่แหละ 555 คงไม่ค่อยได้คุยกันหรอก ผมตอบและยิ้มๆ

ได้เวลาครับ เรือมารอแล้วด้วย ผมกล่าวลา ไคและฝน เดินขึ้นเรือ ผ่านคุณยาย(คุ้นๆว่า น่าจะเป็นคุณยายที่มารำพื้นเมือง ตอนคืนแรกของที่นี่) เธอนั่งอยู่กับสิ่งที่คล้ายๆเครื่องดนตรีและยิ้มให้

ผมหันมามอง สะพานท่าเทียบเรืออันแสนคลาสสิค นึกถึง 4 วัน 4 คืน อันแสนสุข

Good Bye , I will come back !!!!


Ramil – จะคุยหรือไม่คุยดี!!!

เรือ Speed Boat มุ่งหน้าสู่ Semporna พร้อมกัน 2 สาว ที่ผมกล่าวถึง เมื่อซักครู่ มี Ramil ไปด้วย เท่าที่สอบถาม Ramil มาขึ้นฝั่งไป Tawau

เสียงเรือค่อนข้างดังครับ จะคุยกับใครก็ไม่ถนัด คุยทีคงต้องตะโกน แต่ในใจน่ะ อยากจะคุยกับ 2 สาว อยู่เหมือนกัน

ใช้เวลาไม่นานก็ถึงฝั่ง มาขึ้นรถตู้ คนขับไม่ใช่พี่โล้นแล้ว(โล่งอก) ตอนแรกนึกว่า Ramil จะไปด้วยซะอีก Ramil ขอแยกตัวไป ก่อนที่จะกล่าวอำลา

2 สาว เข้ามานั่งด้านในสุด โดยมีผมเข้ามานั่งที่เบาะหน้าของพวกเธอ


Nice to meet you!!!

ถ้านั่งเฉยๆ พวกเธอไม่มาคุยกับผมแน่นอนครับ ฉะนั้นต้องเริ่มก่อน แม้จะไม่ได้ดำน้ำด้วยกัน แม้จะเป็นปลายๆของการเดินทางแล้วก็ตาม แต่ก็พักที่เดียวกันนี่นะ

Hi , It nice to meet you. What ‘ s your name?

2 สาวนี้ ชื่อว่า Michelle กับ ซูจือ ครับ เป็นชาวสิงคโปร์ มาพักที่ Sipadan Water Village หลังผมประมาณ 2-3 วัน พวกเธอชอบที่นี่มาก รวมทั้งการดำน้ำ ผมชมพวกเธอว่าเก่ง ที่มากัน 2 คน ส่วนพวกเธอก็ถามกลับอย่างแปลกใจว่า ทำไมผมถึงมาคนเดียวล่ะ?

ก็ร่ายยาวครับ นอกจากเรื่องเวลาที่ไม่ตรงกับเพื่อนๆ ผมก็เริ่มต้นเดินทางคนเดียวในประเทศแบบนี้มาหลายปีแล้ว แต่ทริปต่างประเทศน่ะ ครั้งแรก ยิ่งช่วงหลัง ลาออกจากงานมาดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง เวลายิ่งไม่ตรงกับคนอื่น ผมจึงเลือกเดินทางเฉพาะวัน เวลาที่เหมาะสม มีคนอยู่เป็นเพื่อนแม่ และแม่ต้องสบายดี ผมสบายใจในการเดินทางไม่มีห่วงในเวลานั้นๆ จนกระทั่งถึงวันนี้ วันที่แม่จากไป

ซูจือจะค่อนข้างพูดน้อยครับ คนที่ถามผมจะเป็น Michelle ซะมากกว่า ระหว่างที่คุยผมมองที่ตาของ Michelle และเธอก็มองผมเช่นกัน เธอรับฟังและพยักหน้าตาม สายตาจดจ่อ และดูจะเข้าใจความรู้สึกของผมที่ถ่ายทอดออกมา เวลากล่าวถึงแม่ พูดไปก็ชักน้ำตาซึมๆเหมือนกัน(ผมเคยคุยกับชาวต่างชาติ หลายคนไม่เข้าใจกับการกระทำของผม หลายๆสิ่งที่ละเอียดอ่อนมากๆ ผมยังเชื่อว่าคนไทยด้วยกันเองนี่แหละที่เข้าใจและรับรู้ได้ดีกว่า)

แต่กับ Michelle ผมมีความเชื่อว่า เธอตั้งใจฟังผม แม้ภาษาอังกฤษของผมจะไม่ดีนัก อยู่ในขั้นแค่สื่อสารได้ บางคำนึกไม่ออก ก็ต้องใช้มืออธิบายช่วย เธอดูจะพยายามเข้าใจ และคำๆหนึ่งที่เธอพูดก็คือ

แม่คงจะภูมิใจในตัวคุณมากๆนะคะ คุณเป็นลูกที่ดีจริงๆ

Michelle กับ ซูจือ เรียนมาสายวิทยาศาสตร์ครับ แต่ทำงานคนละที่ ซูจือบอกว่า Michelle มีรายได้สูงทำงานไม่กี่เดือนก็สามารถเก็บเงินมาดำน้ำที่สิปาดันได้แล้ว พวกเธอค่อนข้างประทับใจที่นี่มาก เสียดายที่ไม่มีกล้อง ผมเลยหยิบกล้องมาเปิดรูปและวีดีโอให้สาวๆ ได้ดู พร้อมอธิบายว่า สัตว์ทะเลตัวนี้มีชื่อภาษาอังกฤษว่าอะไร และพวกเธอได้พบหรือไม่

คุยกันเพลินจนลืมเวลาไปเลยครับ ถึงสนามบินตาเวา ซะแล้ว


At Tawau Airport And Delay!!!

ต่อคิวโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องไปกัวลาลัมเปอร์ รอบๆยังไม่เห็นนักท่องเที่ยวเท่าไร มีแต่ชาวมาเลเซียที่เป็นมุสลิม(ดูจากการแต่งตัว) แถวไม่ยาวนักแต่ค่อนข้างนาน ก็คุยกับ Michelle ไปพลางๆ

โหลดกระเป๋าเรียบร้อย เอาสัมภาระที่เหลือมาไว้ในรถเข็นคันเดียวกัน เดินขึ้นไปชั้นบน นั่งรอจนกว่าประตูจะเปิด เครื่องดีเลย์ด้วยครับ คงต้องนั่งรออีกซักพักเลย ก็นั่งคุยไปพลางๆอีกนั่นแหละ

ผมเล่าถึง Dive ที่พบฉลามวาฬ(Whale Shark) ครั้งแรกที่ชุมพร และการดำน้ำในเมืองไทย Michelle ไม่เคยมาดำในเมืองไทยมาก่อน แต่ดูเธอจะสนใจมากๆ เธออยากพบฉลามวาฬ และขอให้ผมช่วยเขียนสถานที่ดำน้ำในเมืองไทยให้ ผมเขียนทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทยตลอดจนจุดดำน้ำในกระดาษแผ่นนึง พร้อมทั้งอธิบายให้เธอได้ฟัง ซึ่งผมยินดี หากจะช่วยเหลืออะไรเธอได้บ้าง

ตามธรรมเนียม เมื่อเจอเพื่อนใหม่ ผมจะขอ E-mail ติดต่อ(เอาไว้ส่งรูปให้) เสียดายน่าจะเจอกันตั้งแต่วันแรกๆ จะได้ช่วยถ่ายรูปให้พวกเธอ หลังจากถ่ายรูป Michelle กับ ซูจือ แล้ว ซูจือบอกให้ผมเข้าไปใกล้ๆ Michelle เพราะเธอจะถ่ายรูปคู่ให้

ประตูเปิดแล้ว เราก็เดินขึ้นเครื่องกัน


ค่อยเหมือนคนมาเที่ยวหน่อย!!!

ขากลับนี่ ไม่เจอแซนดร้าแล้วครับ(สุดแสนเสียดาย) สังเกตได้ว่า ผู้โดยสาร เหมือนพึ่งกลับมาจากการท่องเที่ยวมากขึ้น มีฝรั่งถือฟินดำน้ำ(น่าจะมาสิปาดันครับ แต่อาจพักที่อื่น) มีเสียงคนไทยด้วย(ไม่เหมือนขามาเลยนะ 555)

เครื่องขึ้นแล้วครับ คงไม่มีอาการอะไรนะ พักน้ำมาพอแล้วนี่นา นอนดีกว่า


At Kuala lumpur Airport – เธอคงไม่รอผมหรอก!!!

มาถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ ผมรอกระเป๋าที่โหลดมาใต้เครื่อง เลยเดินมาถามเจ้าหน้าที่สนามบิน ว่าให้รอตรงไหน แต่ไม่เห็น Michelle กับ ซูจือครับ พวกเธอคงไปแล้วแหละ ใจหนึ่งคิดว่าจะได้กินข้าวด้วยกันซะอีก อีกใจนึง พวกเธอก็ไม่จำเป็นต้องรอผมนะ ก็พึ่งรู้จักกันนี่นา

ได้กระเป๋าแล้ว เดินดุ่มๆออกไป เหมือนขามา Self Check-In เลยดีกว่า สะดวกดี กดที่ตู้เหมือนตอนขามา นั่นแหละ ไหนเดินดูซิ มีอะไรกินบ้าง นอกจากนี้ก็เดินดูด้วยครับ ว่าผมจะต้องเดินไปตรงไหนเวลาจะขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ

อ้าว เวร! เดินผิดทาง นี่มันตรงที่เรามาถึงในวันแรกนี่นา กลับหลังหันๆ

เดินกลับมา อยู่หน้าร้าน Marrybrown(คล้าย KFC) แล้วผมก็ได้เจอ Michelle ที่เดินตรงเข้ามาหา

“Hey Michelle!!”

เธอบอกว่า เดินตามหาผมอยู่ครับ ผมก็บอกว่า นึกว่าเธอไปซะแล้ว เมื่อถามก็ยังไม่ได้กินข้าว งั้นกินด้วยกันซะเลยซิ นั่น! ซูจือ เดินมาแล้ว


Lunch!

เอาสัมภาระมารวมในรถเข็นเดียวกันอีกครั้ง เข็นเข้ามาในร้านด้วย เดี๋ยวของจะสูญหาย เมนูอาหารในร้าน Marrybrown จะคล้าย KFC แต่หลากหลายกว่ามาก ทั้งเมนูข้าวและอื่นๆ อร่อยดีแฮะ ราคาถูกกว่าร้าน Taste of Asia ที่ผมกินเมื่อตอนขามานิดหน่อยครับ

กินเสร็จแล้ว ยังมีเวลากว่าเครื่องจะออก สาวๆอยากเดิน Shopping โอเค ไม่มีปัญหา ผมก็ไม่มีที่จะไปอยู่แล้วในตอนนี้ ดีกว่าไปนั่งแกร่วคนเดียว ก็มีเพื่อนแล้วนี่

Michelle เข้าร้านเครื่องสำอางค์ ผมรออยู่ด้านนอก และบอกว่าจะเฝ้าของไว้ให้(ด้วยความยินดีเลย 555)

เสร็จจากร้านนี้ 2 สาว ชวนผมไปร้านกาแฟ ปกติก็ไม่ดื่มกาแฟ แต่ไม่เป็นไร ก็มีอย่างอื่นให้กินน่ะ(สาวๆอุตส่าห์ชวน)

เราแบ่งหน้าที่กันทำครับ 2 สาว ช่วยดูสัมภาระไว้ให้ เพราะรถเข็นเอาเข้ามาในร้านไม่ได้ ส่วนผมไปรับกาแฟแล้วจ่ายเงินให้ จากนั้นเราก็มีเวลาที่จะสนทนากันต่อ

เขาบอกว่า Lawyer เจ้าชู้ จริงไหม? ซูจือถาม

ก็แล้วแต่คนนะครับ ผมดูเหมือนเจ้าชู้เหรอ? 555 “

เธอก็ขำๆครับ บอกว่า ได้ยินมาแบบนั้น ว่าแล้วเธอก็เล่าถึงแมวที่เลี้ยงในห้อง ตัวสีขาว แล้วทำเสียงร้องให้ฟังด้วย(ผมก็ไหลซิครับ คนละภาษาก็พริ้วได้ 555)

ได้เวลาแล้ว เข็นรถเดินนำหน้า 2 สาว ไปที่ Check-In สายการบินของสิงค์โปร์ จริงๆ ผมจะไปตอนนี้ก็ได้ แต่พวกเธอก็เป็นเพื่อนคุยให้ผม มีมิตรภาพดีๆ จึงอยากตอบแทน ผมช่วยพวกเธอขนสัมภาระไป Check-in จากนั้น เดินผ่านด่านตรวจสัมภาระ เจ้าหน้าที่ถามว่า ที่ไหล่ขวาผมมีอะไร ก็บอกว่าอุปกรณ์ดำน้ำ เธอก็ติดสติ๊กเกอร์ แล้วให้ผมผ่านไป

ยังมีร้านของฝากอีกครับ เป็นร้านขนม Michelle ขอแวะ ลงมาด้านล่างก็มีอีกร้าน คราวนี้ผมแวะบ้าง(Michelle ก็แวะด้วย) ไม่อยากเหลือเงินริงกิตกลับประเทศน่ะ(เวลาซื้อของก็ต้องยื่น Passport ครับ ของแพงใช้ได้เลยนะ คำนวนให้พอดีๆ)

เราคงต้องแยกกันแล้วล่ะ ประตูของผมอยู่ตรงนั้น และถูกเรียกก่อนซะด้วย ผมขอร้องนักท่องเที่ยวใกล้ๆ ให้ช่วยถ่ายรูปรวมให้หน่อย ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย

กล่าวคำลา 2 สาว ชาวสิงคโปร์ คงจะมีโอกาสได้พบกันอีกนะครับ


บทส่งท้าย

สิ้นสุด 6 วัน แห่งการเดินทาง เป็นการเดินทางที่สนุก และตื่นเต้นมากๆ แม้จะกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว ภาพทุกภาพ เรื่องราวทุกตอน ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของผม

หลายๆครั้ง แอบยิ้มคนเดียว เมื่อนึกถึงวันเวลาดีๆที่นั่น

6 เดือน แห่งการเขียนบันทึกการเดินทางเรื่องนี้ กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เพราะต้องไปทำภาระ หน้าที่ แต่เมื่อมีเวลาว่าง ก็จะกลับมาเขียน ทุกๆครั้งที่ทำ ผมมีความสุขเสมอ

หวังว่า บันทึกการเดินทางเรี่องนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายๆคน ออกเดินทางสู่โลกกว้าง ดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเล ไปในสถานที่ใหม่ๆ พบเจอคนใหม่ๆ หลายชาติ หลายภาษา

เหมือนที่ผมได้รับแรงบันดาลใจมาเช่นเดียวกัน

ขอขอบคุณพี่ๆ น้องๆเพื่อนๆ ทุกท่าน ที่ช่วยกรุณาให้ข้อมูลกับผมก่อนออกเดินทาง

ขอบคุณ Divemaster และ Staff ทุกท่านที่ Sipadan Water Village ที่ดูแลผมเป็นอย่างดี ตลอดจนมิตรภาพดีๆ จากเพื่อนใหม่

ขอบคุณท่านผู้อ่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวของผม เชื่อเลยว่า หากท่านอ่านจนจบ ก็เหมือนได้เดินทางไปดำน้ำพร้อมๆกับผมแล้ว

และที่ลืมไม่ได้ สำหรับผู้หญิงคนสำคัญที่สุด คนที่อยู่ในใจของผมตลอดเวลา แม่

ผมเชื่อว่า ท่านอยู่ใกล้ๆและคอยคุ้มครอง ทำให้ผมแคล้วคลาดปลอดภัย

วันนี้ ผมได้พาแม่มาท่องเที่ยวแหล่งดำน้ำที่สวยงามที่สุดติดอันดับโลก ณ ทะเลเซเลเบส

อยากจะอ่านเรื่องนี้ให้แม่ได้ฟังจัง

รักแม่นะครับ


Phop Payapvipapong

19 April 2011

12.37 Am


How to get There?

1) การเดินทางมาสิปาดัน ควรเตรียมตัวล่วงหน้าและวางแผนการเดินทางให้ดี หากซื้อตั๋วล่วงหน้าเป็นปีๆ จะได้ราคาถูกกว่าซื้อใกล้ๆ (จาก 9000 เหลือ แค่ 4000 ก็เยอะอยู่นะครับ)

2) ไม่มีเที่ยวบินจากกรุงเทพมา Tawau ต้องเดินทาง 2 ต่อ คือไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน Kuala lumpur และโดยสารเครื่องบินภายในประเทศของมาเลเซีย มายัง Tawau และต่อรถมายัง Semporna ก่อนจะขึ้นเรือไปยังที่พักที่ติดต่อไว้

3) ควรให้เวลาระหว่าง Flight อย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการ Delay และอาจจะทำให้พลาดเที่ยวบินได้ เช่น ถึง กัวลาลัมเปอร์ 11 โมง เที่ยวไป ตาเวา เวลาควรจะประมาณ บ่าย 3 โมง

4) ควรติดต่อร้านดำน้ำที่จัดทริป เพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่า ไปติดต่อเองหน้าเว็บไซด์ ร้านดำน้ำจะมีโปรแกรมการเดินทาง ไว้ให้เสร็จ ไปเป็นหมู่คณะก็ช่วยเหลือกันได้ (ถ้าหมดหนทางจริงๆ ค่อยมาแบบผมครับ)

5) ควรแลกเงินเป็นริงกิตมาเลเซีย เพราะร้านค้าส่วนใหญ่ที่สนามบิน ติดราคาริงกิตไว้ สะดวกในการคิดคำนวน แต่ถ้าจะแลกเป็นยูเอสก็ไม่น่าจะมีปัญหา เอาไว้สำรองก็ดี (เงินริงกิต เป็นเงินไทย เอา 10 คูณ เงินยูเอส เป็นเงินไทย เอา 30 คูณ)

6) หากมีข้อสงสัย สอบถามได้นะครับ ยินดีช่วยเหลือ

Sunday, April 17, 2011

สิปาดัน....มหัศจรรย์ทะเลเซเลเบส(13)




Dive 14 กางปีกออก-ปลาแมงป่องปีศาจและการแสดงตัว!!!

ลงมากับ Ramil ครับ พี่แกชี้ให้ดู ปลาตัวแรกทันที เป็นกลุ่มครอบครัวปลามีดโกน(Razor Fish) 30 ตัว ยังคง Concept เดิม คือ การว่ายน้ำที่แปลกประหลาด เอาหัวทิ่ม คงยากที่จะหาปลาชนิดไหนเลียนแบบได้

มาดำน้ำข้ามทะเลไกลขนาดนี้ ยังได้เจอเพื่อนเก่าที่อาศัยอยู่ประจำ ณ อ่าวไทยอย่าง ปลาการ์ตูนอินเดียนแดง(Pink Anemonefish) ด้วย
เพื่อนเก่าที่เจอทุกครั้งที่อันดามันอย่างปลาปักเป้าหน้าหมา
(Blackspottled Puffer) ก็มาด้วยนะ

ที่ Lobster Wall น้ำค่อนข้างใส ทำให้ผมนึกถึงทริปอันดามันใต้กับมนุษย์กบไทยอยู่เหมือนกัน ที่นั่น คือ เกาะดอกไม้ จ.ภูเก็ต เป็นไดฟ์สุดท้าย และเป็น Wall Dive ซะด้วย สวยงามมาก

Ramil ขยัน เรียกผมตลอด เวลาเจอ ของ(ก็แหงละครับ ก็มีผมคนเดียวที่ตามเขานี่ คนน้อยก็มีส่วนดีอยู่บ้างเหมือนกัน) (ของเป็นศัพท์ของนักดำน้ำครับการหาของ ก็คือ หาสัตว์ทะเลนั่นแหละ) อะไรหว่า ที่หิน มีสามตัว เป็นทากเปลือยชนิดหนึ่งครับ(ชื่อขอติดไว้ก่อน)

จากทากกลับมาที่ปลาการ์ตูน เป็นปลาการ์ตูนลายปล้อง(Clark ‘ s Anemonefish) ที่มีการผันแปรของสีได้หลากหลาย อย่างที่เห็นตอนนี้ ก็จะมีตัวสีดำสลับลายสีขาวใบหน้าเปื้อนเหลืองครีบหูสีเหลืองและครีบหางสีเหลือง กับตัวสีดำสลับลายสีขาวใบหน้าเปื้อนส้ม ครีบหูสีส้มและครีบหางสีขาว

กลับมาที่ทากอีกครั้ง นี่เป็นทากปุ่มชนิดหนึ่งครับ

กุ้งใน ปะการังลูกโป่ง ตาดีจริงๆ Ramil ชี้ให้ดู

รูปร่างเหมือนปลาหิน ตัวนี้ Ramil ก็เรียกผม ตอนแรกคิดว่าธรรมดาครับ ก็ปลาแมงป่องทั่วไปมิใช่เหรอ แต่พอเห็นครีบหูสีส้มๆ ที่กางออกมา ทำให้ผมทราบในทันที

ปลาแมงป่องปีศาจ นี่หว่า!!!!

จำรูปจากในหนังสือที่บ้านได้ดีครับ ปลาแมงป่องปีศาจ(Devil Scorpionfish) ตัวที่ผมเห็นนี้ มีลำตัวสีขาว ที่ปีกสีส้มที่เด่นมากๆ มีจุดสีดำที่ปีก ค่อนข้างหายากในบ้านเราเหมือนกัน

ส่วนอีกตัว นี่ล่ะครับที่คุ้นกันดี ปลาแมงป่องเกล็ดเล็ก(Tassled Scorpionfish) เป็นปลาแมงป่องที่เจอบ่อยที่สุดในเมืองไทย

พี่เต่าตนุ(Green Turtle) กำลังนอนสบายเลย คงอีกนานเลยนะ กว่าจะได้กลับมาเยี่ยมพี่ที่นี่อีก

Fire Dartfish หรือปลาลูกดอกเพลิง หนึ่งในปลาบู่ทะเล ไม่ค่อยชัดเท่าไรครับ แต่ขืนรอ Landing ก็คงหลบเข้าไปโพรงแน่ กดไว้ก่อนๆ

ในโพรงมีปลาไหลมอเรย์หน้าปาน(Darkspottled Moray)ด้วย เขี้ยวงี้แหลมเชียว ไปล่ะครับ ไม่อยากยุ่งด้วย เดี๋ยวพี่กัดผม

ลายแบบนี้ จำได้ๆ ปลาวัวหางพัด(Scrawled Leatherjacket)นั่นเอง ใกล้ๆก็มีปลาปักเป้ากล่องเหลือง(Yellow Box Fish)ด้วย

แก้ตัวใหม่ครับ ถ้าหากใครอยากเห็นติ่งเนื้อรอบปากของปลาแมงป่องเกล็ดเล็ก(Tassled Scorpionfish) นะ

ส่วนอีกตัวน่าจะชนิดเดียวกัน เพราะเห็นติ่งเนื้อ แต่สีค่อนข้างแปลกกว่านิดหน่อยตรงที่มีสีชมพูอ่อนๆด้วย อาจเป็นขนาดที่ยังไม่โตเต็มวัย(ขนาดตัวเท่าหัวแม่มือก็เคยเจอมาแล้วครับ มือเกือบโดนเหมือนกัน สมกับเป็นนักพรางตัว 555)

ปลาไหลมอเรย์ตาขาว(Greyface Moray) ตัวนี้โผล่หน้าออกมาต้อนรับ ดูแล้วหน้าตามันคงไม่ต้อนรับผมเท่าไรล่ะมั้ง

Leaf Scorpionfish หรือ ปลาแมงป่องใบไม้ สีขาว สองตัว ถ่ายจากด้านบนครับ จะลงมาก็ เอ่อ ไม่ดีกว่า จริงๆ ตอนนี้ผมอยากขึ้นแล้วครับ แบบว่า พอดูไดฟ์คอม เวลาค่อนข้างเหลืออีกไม่มาก ที่จะติดดีคอม เลยดำแบบสบายๆดีกว่า รักษาระดับความลึก ไม่ลงไปมากกว่านี้

แต่ Ramil ก็ยังคงเรียกผมมาดูนั่นดูนี่ตลอด ก็ไม่อยากขัดศรัทธาด้วย เขาก็เจตนาดี ทำงานของเขา เลยใช้วิธี ถ้าเรียกก็ไป แต่ถ่ายเสร็จรีบแวบขึ้นมาในระดับที่ตื้นขึ้นทันที(อาจไม่ดีนัก กับการเปลี่ยนระดับ ขึ้นๆลงๆบ่อยๆ)

ทากครับ ก้อนหินก้อนนี้(ไม่ใช่ก้อนนั้น) มีนูดี้ 5 ตัว เป็นครอบครัวกันหรือเปล่านะ

ไปต่อมีทากอีกสองชนิด เยอะจริงๆเลย

ยังไม่หมด ยังมีอีกสองชนิด ที่ไม่ซ้ำกันด้วย ดูง่ายๆว่าเป็นทากหรือไม่ จากพู่ที่โชว์ขึ้นมานี่แหละ

และแล้ว Ramil ก็ทำสัญญานให้ขึ้น เป็นอันจบไดฟ์สุดท้ายของทริปแล้วครับ


อ้าว คนไทยเหรอครับ?

กลับมาที่ SWV ระหว่างที่เดินกลับห้อง ก็เจอกับหนุ่มสาว 2 คน หน้าตาคล้ายๆคนไทยเลยแฮะ ลองถามดูแล้วกัน

คนไทย หรือเปล่าครับ

ใช่ค่ะ

เฮงครับ กว่าจะเจอคนไทย ครั้งแรกก็วันที่มาถึงที่นี่ พออีกที ก็วันสุดท้ายของการอยู่ที่นี่ พรุ่งนี้ก็จะกลับเมืองไทยซะแล้ว

ฝนเป็นคนไทย ส่วนไคเป็นชาวมาเลเซีย แต่พูดไทยได้ชัดมาก พึ่งมาถึงและพูดเหมือนกับผมเลยว่า พึ่งจะได้เจอคนไทยเหมือนกัน

เขาและเธอมีพยานรักด้วยกันหนึ่งคน และไปๆมาๆระหว่างเมืองไทย(บ้านของฝนที่ยะลา ถ้าจำไม่ผิดนะ)กับบ้านของไคที่มาเลเซีย

ในฐานะที่เป็นคนไทยเหมือนกัน แน่นอนว่าเราคุยกันได้ในหลายๆเรื่อง ฝนไม่ดำน้ำเพราะเธอกลัว ส่วนไคชอบดำน้ำมากๆ มีอุปกรณ์กล้องถ่ายรูปและ Housing มาพร้อมเลย

นัดทานข้าวกันตอนเย็นครับ คืนนี้คงมีอะไรหลายๆเรื่องที่จะคุยกัน


ล่าลายเซ็นต์ Divemaster!!!

มาที่ Dive Center อีกครั้งเพื่อขอให้ Divemaster ที่ผมลงดำน้ำด้วย เซ็นชื่อใน Log Book(นักดำน้ำหลายๆคนก็เลิกเขียนไปแล้วครับ แต่ผมยังเขียนอยู่นะ)

เริ่มจาก Matius ,พี่วิทย์ , Niger , Andyrian , Rika , Jimmy , Froilan นอกนั้น ยังหาตัวไม่เจอครับ เท่าที่ทราบ พี่วิทย์บอกว่า Bobby ไม่อยู่ ไปตาเวา(อดหนึ่งคน) ส่วน Valentine

นักบวช น่ะเหรอ พี่วิทย์ยิ้ม

อ้าว ทำไมเป็น นักบวช ล่ะพี่ 555”

Valentine ป่วยครับ คงไม่ออกมา ปกติ Valentine ก็ไม่ค่อยออกมาด้านนอกเท่าไรอยู่แล้ว(นี่ล่ะมั้ง ที่เรียกว่านักบวช) คงจะอดอีกคนแล้ว ผมไม่น่าชะล่าใจเลย น่าจะให้เซ็นตั้งแต่เนิ่นๆ

“Hey , Phop Do you know Dragon Hotel? ” Andyrian ถามผม

งงครับ ไม่เคยได้ยินแฮะ Andyrian บอกว่า เคยไปพักที่นั่น ครั้งไปกรุงเทพ มันอยู่แถวไหนละเนี่ย

ซักพักไคกับฝนก็มานั่งด้วยครับ เลยนั่งคุยกับพี่วิทย์ด้วยเลย

ถ่ายรูป Dive Center อีกนิดหน่อย เก็บตกในส่วนที่ยังไม่ได้ถ่าย เช่น Dive Site ของ Paradise 1 และ Paradise 2 เป็นต้น

พี่วิทย์บอกว่า Tips ให้ใส่ไว้ในกล่องที่ Dive Center หรือไม่ก็เอาไปให้ Jimmy หรือ Allan ก็ได้ ผมเตรียมไว้ก่อนมาแล้วล่ะครับ ครูตุ๋มก็บอกตามศรัทธา คิดว่าควรจะให้เท่าไร ที่เขาพาเราดำน้ำในทุกๆวัน น่ะ

นึกขึ้นได้ว่า คงหาตัว Ramil ได้ไม่ยากนัก เขาชอบนั่งเล่น internet อยู่ที่ Bar นี่นา ลองไปหาหน่อย และก็เจอด้วยๆ

ที่ร้าน Souvenir Shop ใกล้ปิดแล้วครับ รีบดีกว่า ไม่งั้นอดซื้อ แม้ราคาจะสูงกว่าข้างนอกก็เถอะ ผมเดินดูว่าจะซื้ออะไรดี สุดท้ายก็ได้แผ่นแม่เหล็กติดตู้เย็น กับเสื้อ 2 ตัว มีสัญลักษณ์ แผนที่ และลายที่ชอบ คำนวนเงินซิ โอเคยังพออยู่ๆ

เดินออกมา ร้านอาหารก็ปิดแล้ว ผมควรจะต้องไปพักผ่อนแล้วล่ะ แต่ทิปในมือนี่ ผมไม่อยากใส่กล่องแฮะ อยากให้กับเจ้าตัวเอง ใครก็ได้ ไหนลองถามพนักงานดูซิ

Where is Jimmy?

พนักงานคนนี้พาผมมาที่ห้องๆหนึ่งครับ เมื่อเปิดประตู ออกมาดู

อ้าว เฮ้ย! อยู่กันเพียบ Valentine ก็อยู่ กำลังตั้งวงก๊ง กันเลย

Hey ,Phop - Come in


Divemaster , My Friend

Divemaster กำลังดูหนังกันอยู่ครับ มี Allan , Jimmy , Valentine , Andyrian, Matius

ผมให้ซองเงินกับ Allan และให้ Valentine เซ็น Log Book ให้

Matius ชวนผมก๊งด้วย แล้วบอกว่า พรุ่งนี้ตื่น ตีสี่ พานักดำน้ำไป Morning Dive ที่ สิปาดัน(อึดกันจริงๆ คงไม่นอนกันเลยมั้งเนี่ย 555) (กะจะบอกว่า พรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้า คงไม่ได้แล้วมั้ง 555)

เรียกว่า เหล้ารำ หรืออะไรเนี่ยแหละครับ พอซัดหมด พี่แกเติมให้ตลอด สงสัยคืนนี้จะอีกยาว 555

พี่วิทย์ โดนเรียกจากในห้อง มาที่นี่ด้วย แกทำหน้างง เมื่อเห็นผม นั่งอยู่

กะเอาซอง Tip มาให้เฉยๆ ครับพี่ โดยเรียกมานั่งกินเนี่ย

พี่วิทย์ก็ได้มาหนึ่งแก้ว และก็มานั่งก๊งด้วย

Valentine เอาเครื่อง Ps2 เกม Tekken มาเล่น Jimmy เล่น Facebook Andyrian นั่งเล่นคอมเหมือนกัน ที่เหลือ นั่งเล่นเกม

ปกติมี Diver มานั่งดื่มกับ Divemaster ในนี้ บ่อยไหมพี่ โทษทีครับ พี่เลยไม่ได้นอนเลย ผมถามพี่วิทย์

ก็ไม่ค่อยบ่อยหรอก นานๆมีแบบเรามาทีนึง ไม่เป็นไรๆ

ผมบอกว่า ปกติไม่ค่อยดื่ม(ปกติเลือกจะดื่มเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์น้อยแทน) แต่นับจากที่แม่จากไป บางครั้ง การดื่ม มันก็อาจจะช่วยลืมความเจ็บปวดได้บ้าง

พี่วิทย์เล่าให้ฟังว่า Divemaster ที่นี่ ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากรัฐบาลมาเลเซีย ให้เรียนดำน้ำฟรี ผมมั่นใจว่าเขาต้องปลูกฝังหลายๆอย่างไว้ด้วย ดังที่ผมเห็นจาก Jimmy และ Divemaster ทุกๆคน ที่มีจิตใจอนุรักษ์ดี และดูแลนักดำน้ำอย่างดีด้วย

ส่วนที่ SWV เจ้าของเป็นคนญี่ปุ่น นานๆครั้งถึงจะมา เพราะมีธุรกิจลงไว้หลายที่(มิน่า ถึงมีญี่ปุ่นมาเยอะเหมือนกัน)

Allan ชวนผมเล่นเกมครับ ใครแพ้ออก สำหรับ Tekken ผมถนัด Paul ที่สุด(ตัวที่ผมตั้งๆสีทอง) จำท่ากดไม่ค่อยได้ครับ รู้แต่มีหมัดเหล็กนี่แหละ ท่าหากินของผม แรกๆ ชนะครับ ชนะกระจาย เล่นกับ Valentine กับ Andyrian

พอมาเจอ Allan(รู้สึกจะใช้ Kuma) แย่ครับ ผมโดนหมีกัด เล่นกันไม่กลัวจอยพัง เต็มที่กับชีวิตกันมากๆ สนุกดี 555

มานั่งดื่มต่อ ซักพัก ผู้จัดการรีสอร์ทมาครับ(ที่เหมือนแขก แล้วเดินตรวจตราไปๆมาๆน่ะ) แกจะงงหรือเปล่า ที่มีสิ่งแปลกปลอมในห้อง Divemaster อ้าว เข้ามาร่วมก๊ง ด้วยซะงั้น!!

แกบอกไม่เป็นไรครับ ตามสบายเลย ผมบอกว่า ชอบที่นี่มากๆ ทุกๆอย่าง และจะกลับมาอีกครั้งแน่นอน(แกบอกยินดีมากๆ)

พี่วิทย์เอาแคบหมูมาเปิดให้กินเป็นกับแกล้ม คงจะมาจากนักดำน้ำชาวไทยที่แวะเวียนมาเยี่ยมนี่แหละ

หากผมไม่ได้มาที่นี่คนเดียว ก็คงไม่ได้มานั่งอยู่ที่นี่ ตรงนี้ อาจจะอยู่กับเพื่อนๆที่มาด้วยมากกว่า ฉะนั้น การได้รับโอกาสดีๆ ได้เห็นชีวิตนอกเวลางานของ Divemasterแบบนี้ มันเหมือนกับว่า ผมได้ทำงานอยู่ที่นี่เลยนะ แม้จะอยู่เพียงไม่กี่วันก็เถอะ

เริ่มมึนครับ ดึกแล้วด้วย ของก็ยังไม่ได้จัด พรุ่งนี้ต้องตื่นก่อนตีห้า เรือออกหกโมง ต้องรับผิดชอบตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะกลับเมืองไทย ถ้าอยากกลับถึงบ้านตรงเวลา

ผมอำลา Divemaster ทั้งหลาย อย่างเป็นทางการ ขอบคุณมากๆนะครับ แล้วผมจะกลับมาอีก

โชคดี ภพ แล้วเจอกัน พี่วิทย์กล่าว

อากาศเย็นดีครับ มาถึงห้อง ประมาณตีสองมั้ง เงียบสงัด มึนๆกรึ๊บๆอยู่ แต่ต้องจัดของ จะล้มตัวนอนยังไม่ได้ ตรวจของให้ดีๆ มีอะไร ลืมอีกบ้างไหม ล๊อคกระเป๋าให้เรียบร้อย

ตั้งนาฬิกาปลุก ทำให้เหมือนวันที่ตื่นมา Morning Dive แบบว่า ห้ามพลาดนะเว้ย

ต่างกันก็คือ เป็นการเดินทางกลับ เมืองไทยครับ