Thursday, August 02, 2012

บินลัดฟ้าเยือนยุโรปที่...อังกฤษ(2)


Welcome to Abu Dhabi Airport!


มาถึงที่เมือง อาบูดาบี ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งอยู่บนเกาะรูปตัวที ที่ยื่นเข้าไปในอ่าวเปอร์เซีย เมืองครอบคลุมพื้นที่ 67,340 ตร.กม. 

เวลาท้องถิ่นที่นี่ 5 ทุ่มตรง ซึ่งจะช้ากว่าบ้านเรา 3 ชั่วโมง(บ้านเรา ตี สองแล้ว) คิดๆว่าจะปรับเวลาที่นาฬิกาข้อมือให้ตรงดีไหม เพราะตอนไปถึงอังกฤษ ก็ต้องปรับอีกอยู่ดีน่ะ(ปรับซะหน่อย ก็แล้วกัน)

ระหว่างเดินลากกระเป๋า ก็พอจะมองเห็นว่ามีต้นไม้แปลกๆ รอบๆสนามบิน (ลักษณะ คล้ายๆต้นปาลม์) ออกไปนั่น สงสัยจะเป็นทะเลทรายนะ

 

พักเข้าห้องน้ำกันหน่อย เดินทางกันมานาน จากนั้นเราเดินไปกันต่อ เพื่อผ่านจุดตรวจสัมภาระ(ซึ่งดูไม่ได้เข้มงวดเท่าไรนัก) ผมบอกเจ้าหน้าที่ว่า ในเป้ของผมมี Laptop นะ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนั้น รับรู้ และให้ผ่านไปได้ โดยไม่ต้องหยิบออกมา แต่ผมก็ยังต้องถอดหัวเข็มขัดที่เป็นเหล็กออกอยู่ดีแหละ

เท่าที่เห็น แถวจะไม่แออัดมากนัก เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก เรียกนักท่องเที่ยวให้ไปตามช่องที่ว่างกว่าเสมอๆ 

 

ผ่านเข้ามาได้แล้ว ระหว่างรอพ่อ(ซึ่งยังไม่มาซะทีครับ สงสัยพ่อยังไม่ออกจากห้องน้ำแน่เลย) เรามาดูป้ายกันก่อน มีอะไรบ้าง มาประเทศตะวันออกกลาง ก็จะมีภาษาอาหรับ มาให้เห็นสลับกับภาษาอังกฤษ ดูแล้วก็เหมือนอักษรโบราณเหมือนกันนะ

พ่อผ่านจุดตรวจเข้ามาแล้วครับ ตอนนี้ให้แต่ละคนแยกย้ายกันไปเดินก่อน เพราะสายการบินของเรา ที่จะไปสนามบินฮีทโธรว์ (Heathrow) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ยังไม่ปรากฎบนจอมอนิเตอร์เลยน่ะ

 

สำรวจสนามบิน / กิจกรรมระหว่างรอ


ลงบันไดเลื่อน ก็มาเจอ Duty Free ครับ เป็นแผนกเครื่องสำอางค์ ต่อด้วยช๊อคโกแลค ซึ่งถ้าใครสนใจก็ซื้อไปฝากได้(แต่ผมว่า คงยังไม่มีเท่าไรในตอนนี้ เนื่องจากขากลับเราจะต้องกลับมาที่นี่ อยู่แล้วน่ะครับ)

 

ตู้ปลาทะเลนี้ ติดแบรนด์ของ La Mer ด้วย คงจะสื่ออะไรซักอย่างครับ ผมก็ไม่ค่อยทราบนัก รู้แต่เพียงว่า La Mer แปลว่า ทะเล แค่นั้นแหละ 555 (เคยเรียนมาบ้าง แต่คืนคุณครู สุมล ที่สอนฝรั่งเศส ไปเกือบหมดละ)

 

ใครไม่อยากเดิน ก็มานั่งพักตรงนี้กันดีกว่า หลายๆคนในคณะ ส่วนมากเลือกที่จะนั่งพัก นั่งคุย กันตรงนี้ (มีจำลองรถแข่งและคนขับ กันตรงนี้ด้วย) ถึงตอนนี้ สายการบิน Etihad ของเรา ปรากฎในจอมอนิเตอร์แล้วครับ แต่อีก 2-3 ชั่วโมงเลยนะ (เวลาขึ้นมาว่า 2 นาฬิกา 40 นาที ) แน่นอนว่า Gate ก็ยังไม่เปิดล่ะ

 

ไปห้องน้ำดีกว่า พ่อมาแปรงฟันครับ ผมก็มาด้วย ซึ่งหลังจากแปรงฟันแล้ว ลองมาเล่น Free Internet ฆ่าเวลาซะหน่อย มีอยู่หลายตู้ แต่ต้องรอจังหวะให้คนว่างนะ

พอกดเข้าไป อยู่ๆก็เด้งออกมาหน้าแรกเฉยเลย แล้วจะเข้าได้ไหมเนี่ย 5555 ว่าจะส่งข่าวถึงที่บ้านครับ ว่าตอนนี้อยู่ไหนแล้ว หลังจากใช้วิชานินจา ไปเครื่องนั้น กลับมาเครื่องนี้ สรุป เลิกดีกว่า (เอาเป็นว่า พอเล่นได้ล่ะ แต่ยังไม่ดีมากเท่าไร) ผมลองต่อ Wifi จากมือถือ ก็เข้าไม่ได้ หรือว่าเครื่องของผมอาจจะเก่าเกินไปนะ

จากนั้น ใช้เวลาสั้นๆ เดินสำรวจ สนามบิน ทั้งร้านขายอาหารที่ชั้นบน และร้านขายของต่างๆ 

 

กลับมาตรงที่เรานั่งรอ มีร้านขายของที่ระลึกด้วย อูฐตัวนี้ ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ดูหรูหรา พ่อกับอาอ๊อดและลุงธวัชชัย ก็บอกว่ามันสวยดี สำหรับสกุลเงินที่นี่ เรียกว่า Dirham ก็คงหลายตังค์อยู่ครับ เพราะ อาบูดาบีถือเป็นเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดอันดับ 3 ในภูมิภาค และอันดับ 26 ของโลก

อย่างน้อย ผมว่าในทริปของเรา ไม่มีใครแลกเงินสกุลนี้มาหรอก หากจะซื้อคงต้องเอาเงิน US Dollar หรือ เงิน Pound ของอังกฤษจ่ายละมั้ง(ถ้ารับ) ไม่ก็ต้องไปแลกที่ Currency Exchange ครับ

ได้เวลาแล้วครับ เสียงเจ้าหน้าที่ เรียกสายการบินของเรา ขึ้นเครื่อง

หยิบ Passport แล้วไปกันต่อ

 

Etihad Airways คราวนี้ละนั่งยาว!


ได้ที่นั่งติดริมหน้าต่าง มาดูรีโมท มีปุ่มกด แบบมือถือด้วยครับ(โทรได้จริงเปล่าเนี่ย 555)



สำหรับอีกด้าน เป็น JoyStick สำหรับเล่นเกมได้ มีปุ่มกดเรียก แอร์โฮสเตส ซึ่งมือผมคงไปโดนโดยบังเอิญ เธอ(แอร์โฮสเตส)ก็เลยเดินมาแล้วถามว่า มีอะไรไหม ( I ‘ m sorry )


 

โชคเข้าข้างแล้ว เพราะคราวนี้จอไม่เสีย(สงสัยผมจะจ่ายค่าเครื่อง ครบพอดี) 555

ดูไฮเทคมากครับ เพราะเราสามารถกดดูภาพจากกล้องที่ติดอยู่นอกเครื่องบินได้ด้วย ทำให้เห็นภาพเครื่องบินกำลังขึ้น(ใต้เครื่อง) ได้อย่างชัดเจน



เท่าที่ดูแผนที่ จาก Abu Dhabi เราจะบินขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่าน คูเวต(Kuwait) ผ่านอิสตันบูล (Istanbul) ประเทศตุรกี ก่อนจะไปถึงมหานครลอนดอน โอ้ ดูแล้ว อีกนานเลยนะ

 

พ่อหลับไปเรียบร้อย มันก็ดึกแล้วนะ พ่อควรจะได้พักผ่อนเยอะๆ ด้วย เรามาดูหนังกันบ้างดีกว่า มีให้ดูหลายเรื่องเลยครับ มีทั้ง Captain America , Harry Potter ก็มี ส่วนเรื่องนี้ Arthur ผมไม่รู้จักแฮะ

 

เทพเจ้า Thor , หุ่นยนต์ Transformer และ X-Men ก็มี หนังสนุกๆ เยอะครับ 

 

มากินโจ๊กรอบดึก กันหน่อย รสชาดแบบไทยๆ เยี่ยมเลย จากหน้ามืดเพราะหิวข้าว ก็ตาสว่างขึ้นในทันที

 

หนังมีหลายแนวมาก The Smurfs นี่ก็ยังไม่ได้ดู มีหลายภาษาให้เลือก

 

หรือจะเป็น Rise of the Planet of the Apes จะทำอย่างไร เมื่อกองทัพลิงบุก หรือหนังโจรสลัดอย่าง Pirates of the Caribbean ก็มี

ดูหนัง จนจบ ไป 2 เรื่อง ก็แล้ว หลับก็แล้ว มันก็ยังไม่ถึงซะที(นานจัง) ลุกไปเข้าห้องน้ำซะหน่อย สังเกตดู ส่วนใหญ่ก็หลับกันหมด 

 

กลับมาดูแผนที่ พึ่งจะได้ครึ่งทางเองเหรอ 5555

 

คงต้องหาอะไรทำต่อ ลองเล่นเกมดูบ้าง พรีเซ็นเตอร์สาวคนนี้ น่ารักดี คุณครับ มาคุยกันหน่อยซิ 555(ชักเลอะเทอะ) ว่าแล้ว นอนต่อดีกว่า 

ตื่นมาเป็นพักๆ ตามที่มีของให้กิน กลับไปคราวนี้ ผมคงจะอ้วนขึ้น เพราะอาหารมีให้โดยตลอด แจกกันเห็นๆ พึ่งกินไปตะกี้ มาอีกแล้วเหรอ 555 ของหวานก็ไม่ธรรมดาครับ ผมชอบนะ จำได้ว่า คล้ายๆไอศครีม ใส่ถั่วแดงมั้ง ว่าแล้วก็นอนต่อ

...........................................

 

เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็จะถึงที่หมายครับ พร้อมกับอาหารให้ทาน ยามเช้ามืด หลายๆคนก็เริ่มตื่นกันแล้ว

จะถึงที่หมายประมาณ ตี 4 เกือบๆตี 5 (ตามเวลาที่อังกฤษ)

 

มาดูแผนที่ต่อ ที่ผ่านมาช่วงหลับ เราผ่านกรุงบูดาเปสต์(Budapest) ประเทศ ฮังการี ด้วย

 

ผ่านกรุงปราก(Prague) ประเทศ สาธารณเช็ก

 

ผ่านประเทศเยอรมนี(Germany) เห็นชื่อแต่ละเมืองแล้ว อยากลงไปดูฟุตบอลบุนเดสลีกา ซักนัด

ผมเข้าใจแล้วล่ะ ว่า การเดินทางบนเครื่องบิน แม้จะรวดเร็ว และสะดวกสบาย เพียงไร อยู่นานๆ มันก็เบื่อได้เหมือนกัน (นี่ถ้าไปแถบอเมริกา ก็คงจะนานยิ่งกว่านี้มาก)

 

ใช้เวลาเดินทางจากเมือง อาบูดาบี ไปยังสนามบินฮีทโธรว์ (Heathrow) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประมาณ 7-8 ชั่วโมง

เสียงกัปตันประกาศว่า เราได้มาถึงจุดหมายเรียบร้อยแล้ว (ถึงซะที)

 

0 Comments:

Post a Comment

<< Home