Thursday, May 17, 2012

Lembeh Strait...มหัศจรรย์แห่ง Muck Dive(5)

Dive 3 จิ๋วแต่มีพิษร้าย Mototi Octopus!!!!! 




ลงมาเห็นพี่ยากับพี่ตุลย์กำลังถ่ายสัตว์ทะเลอย่างขะมักเขม้น ส่วนจะเป็นสัตว์ทะเลชนิดไหน สารภาพว่าช๊อตนี้จำไม่ได้จริงๆครับ 555

 

มาดูพี่ Dodi Leader ของเรากันบ้าง มือขวาถือ Pointer และยังคงมองหาสัตว์ทะเล เพื่อให้เราดูต่อไป

 

เจ้าดอกไม้ทะเลต้นนี้ ดูแปลกดีครับ ขอถ่ายซะหน่อย เพราะที่นี่ก็ไม่ได้มีพวกปะการังและดอกไม้ทะเลมากมายเหมือนบ้านเราเสียด้วย

 

ส่วนดอกไม้ทะเลกอนี้ มีกุ้งตัวใสอยู่หนึ่งตัว ลองถ่ายดูซะหน่อย แม้จะมองเห็นรายละเอียดไม่ชัดเจนนัก แต่พอทราบว่าเป็นกุ้งละครับ

 

สัตว์ทะเลด้านหน้า 2 ตัวนี้ ขึ้นชื่อว่ามีพิษอยู่แล้ว อย่าเผลอไปถูกเข้าล่ะ อยู่ในครอบครัว Scorpaenidae ซึ่งจะมีทั้งปลาหิน ปลาสิงโต และปลาแมงป่อง แต่ในรูปน่าจะเป็นปลาแมงป่องครับ

 

เขาเลื้อยออกมาแล้ว เขาเลื้อยออกมาแล้ว ตกใจเหมือนกันครับ 555 ตามปกติ เรามักจะพบปลาไหลมอเรย์ อยู่ในรูหรือโพรง ในเวลากลางวัน แต่นี่ พี่ปลาไหล ออกมาให้เห็นทั้งตัว แถมว่ายช้ามาก เหมือนจะมาสังเกตการณ์ตัวประหลาดอย่างมนุษย์ เช่น ผม หรือเปล่า 

 

สำหรับชื่อของมัน ก็คือ เจ้าปลาไหลมอเรย์ลายเกล็ดหิมะ(Snowflake Moray) ตัวสีขาวมีจุดสีเหลือง บริเวณหัว แม้หน้าตาจะดูน่ากลัวน้อยกว่าปลาไหลมอเรย์ยักษ์(Giant Moray) ก็เถอะ ผมจำได้ว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่เคยเห็นเจ้า Snowflake Moray ส่วนครั้งแรก เป็นการดำน้ำแบบ Night Dive ที่สิมิลันครับ ส่องไฟเข้าไปในรู เจอเข้าจังๆ ช่วงแรกตกใจ หลังๆเริ่มอยากรู้อยากเห็น (แต่ก็เสียวมันออกมากัดเหมือนกันแหละ 555)

 

ต่อไปเห็นพี่ยากำลังถ่ายกอปะการังเล็ก แตกแขนงออกมาเป็น 2 ก้าน มีม้าน้ำ(Sea Horse)เกาะอยู่ 1 ตัวครับ แต่ผมโฟกัสออกมาค่อนข้างเบลออยู่

 

ถัดไปเป็น Sea Hares (ตอนแรกนึกว่าปลากบครับ จากการช่วยเหลือของพี่แคท เลยทำให้ได้ชื่อของมันมา) เจ้า Sea Hares หรือกระต่ายทะเล ที่ดูๆไปแล้ว ก็เหมือนรูปคนขี่ม้าเหมือนกัน Sea Hares เป็นสัตว์ทะเลจัดอยู่ใน phyllum Mollusca เช่นเดียวกับหอย แต่เป็นสัตว์ทะเลที่มีลำตัวอ่อนนุ่มและไม่มีส่วนเปลือกแข็งหุ้มลำตัว เห็นว่าปล่อยสารพิษได้ด้วยครับ 

 

สำหรับ Lembeh จะมีสัตว์ทะเลตัวเล็กๆซะมาก ตัวใหญ่ๆไม่ค่อยมี ด้านข้างผมจะมีเจ้าปลากระเบนจุดฟ้า Bluespotted Stingrays หาได้ทั่วไปเมื่อไปดำน้ำที่สิมิลัน แต่ถือเป็นตัวใหญ่สำหรับที่นี่ ถ่ายซะหน่อย 555

 

Dodi ชี้ให้ผมดู เจ้าหมึกตัวจิ๋ว ที่ดูแล้วแสนธรรมดา แต่เมื่อพินิจพิเคราะห์จะเห็นวงกลมสีฟ้า บริเวณแก้ม ซึ่งเป็นสัญญานที่ผมรู้ทันทีว่า มีพิษแน่ และเป็นพิษที่ร้ายแรงถึงตายด้วย Dodi บอกว่า นี่ คือ Mototi Octopus เป็นหมึกที่หายากและมีพิษร้ายแรงมาก (คนละตัวกับ Bluering Octopus นะ) เจ้า Mototi Octopus แม้จะจิ๋ว แต่ก็ไม่กลัวใคร(ผมนี่ละกลัว 555) ถ่ายได้2-3 ช๊อต เราปล่อยพี่เบิ้ม(แม้จะตัวเล็ก) ไปตามทางดีกว่า (พี่ Cat ก็บอกว่า เคยเห็นที่นี่ เหมือนกัน บอกเลยว่า ที่มีวงกลมสีฟ้าที่แก้ม ใช่ไหม นี่ละครับ คนรู้จริง เพราะมาดำบ่อยจริงๆ)

เหมือนเส้นด้าย ด้านหน้านี้ ผมมองด้วยตาเปล่าไม่ชัดจริงๆ ได้แต่ดูจากกล้องของพี่ๆ (เรื่องถ่ายเองไม่ต้องพูดถึง ผมโฟกัสไม่ได้ครับ 555) เป็นสัตว์ทะเลที่หายากไม่แพ้เจ้า Mototi Octopus นี่คือ Lembeh Sea Dragon ซึ่งขนาดเล็กมาก เหมือนเส้นผม หรือด้ายซะมากกว่า ความยาวไม่น่าจะเกิน 2.5 ซม. (วันหลังต้องหาแว่นขยายไป) ว่าแต่ Dodi ก็ตาดีจริงๆ มองเห็นได้ไงเนี่ย 

 

ตัวต่อไป เป็น Wonderpus ซึ่งเป็น Octopus ชนิดหนึ่งครับ เป็น 10 wonders in Lembeh ของพี่ปิ่นด้วยนะ 

 

Wonderpus ตัวจะเล็กว่า Mimic Octopus (ซึ่งผมอยากจะเห็นเช่นกัน ในทริป Lembeh นี้) Wonderpus จะมีลำตัวสีน้ำตาลแดง พบในแถบบาหลี สุลาเวสีเหนือ ไปจนถึงฟิลิปปินส์

 

ทีเด็ดต่อเนื่อง เรามาดูเจ้านี่ดีกว่า มันคือ Ambon Scorpionfish ครับ เป็น 10 wonders in Lembeh ของพี่ปิ่น เช่นเดียวกัน (ผมบอกครูตุ๋มว่า อยากเห็น Ambon Scorpionfish เธอบอกเยอะแยะ ถ้าไปน่ะ เจอแน่ๆ ภพ) ในไดฟ์นี้พบ 2 ตัวครับ หลังจากไดฟ์ที่แล้วได้แต่มอง แต่ไม่ได้ถ่ายมา 555 

 

Ambon Scorpionfish ตัวนี้สีออกชมพู แต่หน้าตาออกแนวน่ารักซะมากกว่า ยังไม่คล้าย Decepticon ในเรื่อง Transformer ที่ผมเคยเห็นจากในรูปเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะไม่ได้ถ่ายหน้าตรงติดบัตรหรือเปล่า (ผมจินตนาการเอง เพราะเห็นรูปร่างมันแปลกดี แตกต่างจากปลาแมงป่องทั่วๆไปครับ)

น้ำเข้าหน้ากากอีกล่ะ เคลียร์ก่อนครับ จากนั้น คงได้เวลาปลายๆไดฟ์ อากาศเหลือ 50 ด้วยละ Dodi ก็เลยทำสัญญานให้ผมขึ้น ไดฟ์นี้เจอตัวแปลกๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่หลายตัว

 

ส่วนปลาอื่นๆ เท่าที่จำได้ในไดฟ์นี้ ก็ปลาสิงโต(Common Lionfish) เจ้าเก่านั่นเอง


กลับ Bastianos มีขนมของอินโดนีเซีย ลักษณะเป็นแผ่นใหญ่ๆ ของทางรีสอร์ท รสชาดไม่ค่อยคุ้นเท่าไร โชคดีว่า กลุ่มมนุษย์กบไทย ครูตุ๋ม พี่แดง พี่ตา ใจดีมาก มีขนมมาเพียบเลย หนึ่งในนั้นถ้าจำไม่ผิดมีขนมหวานๆอร่อย อย่างคุ๊กกี้สิงคโปร์ และ นางเล็ดด้วย ขอบคุณมากๆครับ สบายท้องเลยเรา

พี่ยากับพี่ตุลย์ลง Night Dive ครับ ผมก็ขอตามไปด้วย (ซื้อไดฟ์เพิ่มเอา) พี่ Cat บอกผมว่า Night Dive ที่ Lembeh ต้องลงนะภพ เพราะสัตว์ทะเลบางชนิดจะออกหากิน ไม่เหมือนตอนกลางวัน สำหรับจุดดำน้ำต่อไปที่ผมจะลงก็คือ Jahir 

นั่งเรือออกมาแล้ว บรรยากาศรอบๆก็เริ่มมืด Back Row ตูมลงไป ปล่อยลมออกจาก BCD มาดูชีวิตสัตว์ทะเล ยามราตรีที่ Lembeh กันครับ


Dive 4 Stargazers นักล่าจากรัตติกาล!!!!!


บรรยากาศเหมือน Night Dive ทั่วๆไปครับ ก็คือ มืด มีแสงสว่างเพียงไฟฉายเท่านั้น คนข้างๆท่านอาจจะไม่ใช่เพื่อนท่านก็ได้ 5555 (อย่าคิดลึก) ผมหมายถึงว่ามันมืดเฉยๆ อาจจะหลงได้น่ะ ใช้ไฟส่องที่ลำตัวหรือ ที่Fin ก็อาจจะพอเดาได้ครับ แต่ไม่ใช้ไฟส่องหน้ากันนะ

 

 สัตว์ทะเลตัวแรกดูน่ารัก ลำตัวมีสีแดง ใช้ตัวซุกอยู่ในทรายสีดำ ที่หัวของมันเหมือนเป็นเขาสามอัน เจ้า Whiteface Waspfish  เคยเห็นผ่านๆในหนังสือ Reef Fish Identification Tropical Pacific  ของ Gerald Allen , Roger Steene, Paul Humann , Ned  Deloach  




 

ปลาเล็ก ปลาน้อย รวมกันเป็นฝูง เพื่อความอยู่รอด ในขณะที่ปลาบางชนิดเริ่มเข้านอนแล้ว อย่างเจ้าปลาการ์ตูนด้านหน้านี่ ใช้ดอกไม้ทะเลเป็นที่นอนครับ เห็นแล้วน่าอิจฉามันจริงๆ 555

 

ที่พื้นทรายตรงนั้น มีตากับปากโผล่มาครับ ลำตัวอยู่ในทรายทั้งหมด รูปร่างแบบนี้ คือ ปลาไหลงู(Snake Eel) นั่นเอง ปลาเล็กๆไปใกล้ๆล่ะก็ โดนฮุบแน่นอน เป็นการล่าเหยื่อที่มีประสิทธิภาพจริงๆ



เจ้าหมึกคลุกทรายก็มีครับ สงสัยทรายจะเย็น 555 ในพื้นทราย นอกจากจะป้องกันไม่ให้เป็นผู้ถูกล่าแล้วก็ยังเพิ่มโอกาสให้กับการล่าอีกด้วย 

ต่อไปนี้ Dodi ชี้ให้ผมดู สัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง (ซึ่งอยู่ใน 10 wonders in Lembeh ของพี่ปิ่น) ด้วย ตัวอ้วนป้อม มันกำลังมุดลงไปในพื้นทราย เฮ้ย จะใช่หรือเปล่านะ มองเห็น 2 ตา และปากใหญ่ๆกับฟันที่แหลมคม ที่เหลือในตอนนี้ มุดอยู่ใต้พื้นทรายเรียบร้อย รูปร่างแบบนี้ 

มัน Stargazers นี่หว่า!



เจ้า Stargazers ถือเป็นปลาที่ผมคิดว่า เมื่อแรกเห็น หน้าตาดูน่ากลัวมากที่สุด เพราะดวงตาที่อยู่ด้านบน กลมโต คอยจ้องมอง มีฟันแหลมคม คอยจับเหยื่อ ที่ผ่านไปมา โดยการขม้ำ คุ้มค่าแล้ว ได้เห็น Stargazers ด้วย Dodi บอกว่า เราจะพบ Stargazers ได้ในตอนกลางคืน และเฉพาะที่ Jahir นี้เท่านั้นนะ!

เกือบหลงครับ แบบว่า เวลาจ้องดูอะไรนานๆ ก็อย่าลืมชำเลืองคนรอบข้างด้วย ว่าเพื่อนๆและ Dive Leader อยู่ไหม 

 

สำหรับสัตว์ทะเลที่จำได้ ก็มีคล้ายๆ Zebra Dwarflionfish และปลาแมงป่องที่สายเชือกตอนจะขึ้นครับ (เฮ้ย เกือบไป 555)


จบ 4 ไดฟ์แรก วันนี้ ช่างสุดยอดอะไรแบบนั้น สัตว์ทะเลแปลกๆและหายาก มากมาย ผมลืมการเดินทางที่แสนยาวนานแล้วล่ะ เพราะคุ้มค่ามาก ต่อให้ลำบากกว่านี้ ผมก็ไปได้ ถ้าปัจจัยทุกอย่างลงตัว

อาบน้ำ เอากล้องออกมา ทำความสะอาด Housing และไปที่ร้านอาหาร เพื่อทานอาหารเย็น


This is call ปั้งสิด!!


มื้อเย็นแบบนี้ จัดต็มอยู่แล้วครับ หนึ่งในอาหาร แปลกๆ เป็นของทอด ที่ผมถามพนักงานว่า มันเรียกว่าอะไรกันแน่ เธอบอกเป็นภาษาอินโดนีเซีย มันเรียกว่า “ปั้งสิด” แค่คำเดียวนี่แหละครับ กว่าผมจะจำได้ พอไม่ใช่ภาษาของเรานี่ จำยากจริง 555

สำหรับรสชาด อร่อยดีนะครับ ไม่ธรรมดาเลย

สงสัยก็เลยถาม มาประเทศแบบนี้ ผมเห็นหมูในอาหารได้ยังไง เธอ(พนักงาน)ให้ความกระจ่างว่า เธอก็เป็นคริสเตียน ในประเทศของเรา คุณจะสังเกตเห็นว่ามีโบสถ์มากมาย นั่นคือคำตอบนะ

มาลอง Viber ดีกว่า สำหรับ Wifi ที่ Front สัญญานดีมาก ผมใช้โทรกลับบ้าน จำได้ว่า แมนซิตี้ ชนะ แมน ยู 7 ต่อ 1( พี่ชายบอก) และยังใช้โทรไปเมือง Xiamen ประเทศจีน ซึ่งเพื่อนกำลังศึกษาต่อเป็นด๊อกเตอร์อยู่ด้วย ทั้งหมดฟรี (รู้แบบนี้ หยิบโทรศัพท์มาทุกครั้งเวลามาต่างประเทศก็คงดี ขอบคุณนะครับแม่)

ดึกแล้วครับ พักผ่อนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้สดชื่น


 

23 ตุลาคม 2554


อากาศสดชื่นเหมือนเคย เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม อาหารเช้ามีข้าวต้ม กับขนมปังครับ

Dodi บอกว่า อาจจะต้องเลื่อนการดู ม้าน้ำแคระ(Pygmy seahorse)ในไดฟ์แรกไปก่อน เนื่องจากเราออกมาช้า เรืออีกลำ นักดำน้ำลงไปกันแล้ว ถ้าลงไปเยอะ จะดูกันลำบาก ดังนั้น จุดแรกขอเปลี่ยนเป็น Aer Bajo 3 ซึ่ง Dodi ให้สัญญาว่าจะพาไปดู Pygmy seahorse อย่างแน่นอน

พร้อมแล้ว ไปลุย Aer Bajo 3 กันต่อเลย

0 Comments:

Post a Comment

<< Home