หลับให้สบายนะครับ คุณราตรี
นับจากวันที่คุณแม่ของผมป่วยเป็นมะเร็ง ก็ 2 ปีกว่า เข้าไปแล้ว ซึ่งคุณแม่ก็มีเพื่อนใหม่เกิดขึ้นมากมาย หลายคน เพื่อนใหม่ที่ว่านี้ เป็นบุคคลที่เข้าใจ รับรู้ และรู้สึกกับอาการป่วยของคุณแม่ได้เป็นอย่างดี
แน่นอนครับ ว่า พวกเขาและพวกเธอ เป็น “มะเร็ง” เหมือนกัน
ผมทราบดีว่า คุณแม่ผมเป็นคนคิดมาก หลายๆครั้ง ผมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องโกหกเกี่ยวกับอาการป่วยมะเร็ง ของพ่อเพื่อนบ้าง แม่เพื่อนบ้าง และหลังจากนั้น พวกเขาและพวกเธอก็ล้มหายตายจากไปทีละคน โดยที่ผมมักจะแอบไปงานศพ โดยไม่ได้บอกคุณแม่
เริ่มจากคุณแม่ของฟาง คุณพ่อของเอ คุณพ่อของจอย แม้กระทั่งล่าสุด คุณแม่ของติงลี่ แม้ผมไม่สามารถไปในงานได้ แต่ก็ได้โทรศัพท์แสดงความเสียใจกับเพื่อนและเข้าอกเข้าใจเพื่อนเป็นอย่างดี
หลายๆคนก็ทราบดีครับ ว่าโรคนี้ร้ายแรงแค่ไหน บางครั้งก็แสนจะฉับพลัน คุณลุงทหารหน้าบ้านผม ไม่ได้มีสัญญานการป่วยมาก่อน ดูแข็งแรงมาก อยู่ๆก็เป็นมะเร็ง และจากไปในเวลาอันสั้น(ไม่ถึงเดือน)
หลายๆคน คุณแม่ก็ทราบดี ทั้งสามีของคุณบัวซอน คุณพ่อของคุณวรวี คุณพ่อของพี่ไชตูด เป็นต้น
หลายคนอายุยังน้อย อย่างแอร์โฮสเตสเพื่อนร่วมงานพี่สะใภ้ อายุ 27 ปีเท่านั้น ก็ต้องจากไปก่อนวัยอันควรเพราะโรคนี้
นี่ยังไม่รวมถึงเด็กที่ มูลนิธิ วิชชิ่ง เวลนะครับ นั่นอายุน้อยสุดๆ แต่ก็ต้องมาป่วยเป็นโรคบ้าๆ นี้
คุณราตรีเป็นมะเร็งที่เต้านมครับ เป็นระยะแรกๆและสามารถผ่าตัดได้(เป็นระยะที่น้อยกว่าคุณแม่ของผมเสียอีก) คุณแม่ก็โทรคุยกับคุณราตรีตลอด คุณราตรียังชวนคุณแม่ไปนั่งสมาธิเลย แต่หลังจากผ่าตัด คุณราตรีไปอยู่ที่อเมริกา 1 ปี โดยที่ไม่ได้ติดตามอาการแต่อย่างใด
หลังจากนั้น มะเร็ง เม็ดแทส ไปที่กระดูก คุณราตรีจึงกลับมารักษา อาการที่กระดูกก็ดีขึ้น
ต่อมา มะเร็ง เม็ดแทส ไปที่ปอดและตับ จนสัปดาห์ก่อน คุณราตรีมีอาการเหนื่อยมาก จนเข้าห้องไอซียู และจากไปอย่างสงบเมื่อเที่ยงวันนี้
ไม่น่าเชื่อเลยครับ เพราะสัปดาห์ก่อน คุณแม่ก็ยังโทรคุยกับคุณราตรีอยู่เลย และผมก็เป็นคนกดโทรศัพท์และรับโทรศัพท์เวลาคุณราตรีโทรมาเสมอๆ
ผมจึงทราบเลยว่า การเป็นมะเร็งนั้น ไม่สำคัญว่าจะเป็นระยะไหน สิ่งสำคัญ คือ กำลังใจของผู้ป่วย การรักษาที่ต่อเนื่อง กำลังทรัพย์ การตอบสนองของยาว่าได้ผลหรือไม่ การเม็ดแทสของมะเร็ง และที่ลืมไม่ได้ก็คือ ปาฎิหาริย์ ทุกอย่างต่างมีความสัมพันธ์กันทั้งนั้น
ขอบคุณนะครับ คุณราตรี ที่เป็นเพื่อนคุยและปรับทุกข์อาการป่วยของโรคนี้ กับคุณแม่โดยตลอด
แม้ผมจะรับรู้ถึงอาการป่วยของโรคนี้และเข้าใจผู้ป่วยเพราะดูแลคุณแม่อยู่แต่ก็คงไม่เท่ากับคนที่ป่วยด้วยโรคนี้จริงๆ
หลับให้สบายและไปสู่สุขคตินะครับ
รูปประกอบขอขอบคุณ http://www.aphonda.co.th/