Saturday, September 10, 2005

ครึ่งหนึ่งของชีวิต


คํานี้ ชูฮวยมักพูดบ่อยๆ ว่าเจอหรือยัง ซึ่งผมคิดว่า มันเป็นคําสั้นๆที่สื่อความหมายได้ดีทีเดียว

บางคนก็วิ่งตามหาซะให้วุ่น ก็ยังไม่เจอเสียที ในขณะที่บางคนไม่วิ่งตามหา เพียงแค่อยู่เฉยๆ ครึ่งชีวิตนั้นก็วิ่งเข้าไปหาเอง (แต่ต้องมีการสานต่อด้วยนะครับ เดี๋ยวงานฝีมือจะไม่เสร็จ เอ้า ขําอีกล่ะๆ) สิ่งต่างๆเหล่านี้ ผมมีความเชื่อว่า เกี่ยวข้องกับโชคชะตาครับ

การแต่งงาน แน่นอนครับ ว่ามันไม่ใช่ความสุขที่สุดของชีวิต เพราะหลายๆคู่ก็สามารถมีความสุขได้โดยไม่มีการแต่งงาน แถมเป็นความสุขที่ยั่งยืนเสียด้วย ในขณะที่บางคน การมีชีวิตโสดก็เป็นความสุขของเขาแล้วเพราะยังรักที่จะใช้ชีวิตที่อิสระอยู่ ยังไม่ต้องการผูกมัดกับใคร

ทางฝ่ายพ่อและแม่นั้น วันนี้เป็นวันที่ท่านยินดีมาก อยากเห็นลูกๆเป็นฝั่งเป็นฝาซะที(ไม่ใช่หอยนะ ถึงจะมีฝาได้)

การแต่งงานจึงเป็นเพียงก้าวแรกในการชีวิตคู่ เป็นข้อพิสูจน์ว่า ครึ่งชีวิตที่เราหาเจอแล้วนั้น จะเติมเต็มให้ชีวิตของเราสมบูรณ์มากขึ้นหรือเปล่า และเราสามารถเติมเต็มชีวิตของเธอได้ดีเช่นกันหรือไม่

อีกไม่กี่ชั่วโมง จะเป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ไปงานแต่งงานของเพื่อน(ปกติไปแต่งานผู้ใหญ่ๆหน่อย) ชื่อข่อย เพื่อนสมัย รร ประจํา ที่หยอกล้อมาตั้งแต่เด็กๆ

ผมมักหยอกล้อกับข่อยแรงๆเสมอ ในขณะที่ข่อยมักชอบแกล้งคนจึงมีศัตรูพอสมควร เช่นบักบาน เป็นต้น(บักบานวิ่งล่า ข่อยรอบคณะเพราะข่อยแย่งการ์ตูน ซิตี้ฮันเตอร์จากบักบานไป)

ข่อยเป็นคนที่มาดนิ่งๆ แต่แฝงความตลกไว้เสมอเวลาพูด แม้ข่อยจะดูสบายๆเกินไปในบางครั้ง แต่ ข่อยเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ มีมาดผู้นํา เห็นได้จากการเป็นหนึ่งในหัวหน้าคณะ ที่คุมน้องๆ มาแล้ว

ผมถามข่อยว่า เหตุใดถึงแต่งงานเร็วจัง ข่อยบอกว่า “ให้รอนานกว่านี้ก็ต้องแต่งอยู่ดีว่ะ” ผมคิดในใจว่า ครึ่งชีวิตที่ข่อยค้นหาได้มาถึงแล้ว ข่อยจริงใจและจริงจังกับเธอคนนี้อีกทั้งพร้อมจะเสียสละเพื่อเธอ ทําให้เธอมีความสุขได้(เจ้าสาวชื่อเอครับ)

น่าดีใจที่หากข่อยและเอ มีทายาทเร็วๆ นั่นก็หมายความว่า ลูกๆจะได้เห็นหน้าคุณพ่อแบบหนุ่มมากๆ ในขณะที่คุณแม่ก็ยังสาวเสียด้วย

อย่างไรก็ตาม ดีใจกับคู่บ่าวสาว ด้วยครับ

ไปแล้วจะมาเล่าบรรยากาศของงานให้ฟังกัน

6 Comments:

At 1:51 AM, September 10, 2005, Anonymous Anonymous said...

This comment has been removed by a blog administrator.

 
At 8:22 AM, September 10, 2005, Blogger Lex Luthor said...

เหอๆๆ งานผมมีแน่เพลงนี้ ชอบ

 
At 10:52 AM, September 10, 2005, Anonymous Anonymous said...

55....
คุยเรื่อง "แต่งงาน" ;b

เรื่องนี้แล้วแต่ความคิดเห็นของปัจเจกบุคคลเนอะ
Pouletเชื่อ...และเคารพในสถาบันครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง
และคงจะโบฯมากแหละ เพราะเชื่อในเรื่องการแต่งงาน(แต่ไม่ได้เชื่อว่าการกอดทะเบียนสมรสไว้ซะอย่าง จะทำให้บางคนเป็นสุขนะ...ในกรณีวุ่นวายน่ะค่ะ)

และไม่เคยเชื่อว่าแต่งแล้วต้องแต่งเลย...แต่งแล้วหากระกำก็จำทน..ไม่เชื่อแบบนั้น !! เพราะทุกคนมีสิทธิ์และศักดิ์ศรีในความเป็นคนเท่าเทียมกัน

แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องของคนสองคนที่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้..วงจรชีวิตทำให้มาเจอกัน และตัดสินใจที่จะ "เสียสละความเป็นตัวของตัวเอง และความเป็นส่วนตัวบางอย่าง ให้กันและกัน" บนพื้นฐานของความรัก-ความเข้าใจ และที่สำคัญคือความซื้อสัตย์+ให้อภัย

ไม่รู้ดิ่...เชื่อแบบนี้ โตมาในแวดล้อมแบบนี้...และ "ได้" แบบนี้.....อิ อิ theme song ของข้าพเจ้ายังเป็นเพลงEndless loveเล้ยยยย

....Two hearts, two hearts that beat as one...our life had just begun.....;b

 
At 4:31 PM, September 10, 2005, Blogger Egas said...

ช่วงนี้รู้สึกมีแต่คนอินกันจังกัยเรื่องงานแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ ระยะนี้รู้สึกแปลกทุกครั้งเวลาทราบข่าวว่ามีเพื่อนหรือคนที่เรารู้จักคนใดคนหนึ่งที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกันแต่งงาน ใจนึงก็ยินดีกับเขาที่เขาพร้อมแล้วที่จะเพิ่มภาระหน้าที่และความรับผิดชอบมากขึ้นไปอีก แต่อีกใจนึงก็อดคิดไม่ได้ว่า เราแก่ขึ้นอีกปีนึงแล้วเหรอเนี่ย สร้างความหนักหน่วงใจให้กับตัวเองในฐานะคนที่ยังไม่พร้อมที่จะมีบ่วงใดๆ ทั้งสิ้น

 
At 1:44 AM, September 11, 2005, Blogger kasab71 said...

ขอบคุณในคอเมนต์ ที่แสนจะมีประโยชน์ ให้ข้อคิดมากๆนะครับ คุณมิ้ม

สําหรับผมการแต่งงานเป็นเพียงพิธีหนึ่ง ที่ทัให้พ่อแม่ปลื้มใจ(เราก็ปลื้มด้วย)

แต่แน่นอน ว่า ไม่สามารถตอบคำถามได้หมดครับ ว่าเราจะอยู่กันได้ยืดหรือไม่ มันเป้นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น

หลายๆคนจึงไม่อยากแต่งงาน แต่อยากจะศึกษาดูใจ
กันให้ชัวร ๆ(ไม่ต้องถึงขนาดท้อง)

คงไม่มีใครอยากเตียงหักเป้นแน่แท้ (เตียงหักก็ซ่อมได้ เอ้ย เขากําลังพูดสาระ ชอบขัดๆ)

เพราะคงเจ้บปวดมากๆกว่า การอกหักจากสาวก่อนแต่งซะอีก


เพลงเหรอครับ ผมไม่เคยฟังซะด้วย คงต้องขอลองฟังอาจนึกออกว่าเปิดไหม

อาจมีเปิด แต่ผมจําไม่ได้ด้วยซิว่าเป้นเพลงนี้ไหม ที่จำได้แน่ๆ เพราะถามเพื่อนมา มีเพลงไทย ชื่ออะไรไม่ทราบ แต่เป้นของ นิค เดอร สตารร้อง

สื่อความหมายได้ดีเชียวล่ะ (เพลงอะไรหนอ ข้าก็ไม่รู้)


คุณpoulet

ใช่ครับ บางทีก็ไม่น่าจะมาเจอกันได้ แต่มันก้มาเจอกัน

เพลงฝรั่งอีกแล้ว ข้าไม่เคยฟังอีกล่ะ นึกไม่ออก ฮ่าๆๆๆ
แต่คิดว่า คงเป้นเพลงที่ไพเราะเพลงหนึ่ง

หัวขี้

ใจเย็นๆ มึงแก่ กูก็แก่นา ซักวัน มึงก็จะพร้อมเองแหละ

จะรอดูวันนั้นนะ แอนดริว

ตังเก ไปต่างจังหวัดเหรอ อืม

เจอหรือยังเหรอ อืม วันก่อนของหาย เจอแล้วด้วย(ไอ้คนบล็อคเกอรไร้สาระอีกล่ะ)


ขอบคุณทุกคอมเมนอีกทีนะครับ

 
At 12:09 AM, September 13, 2005, Blogger kasab71 said...

ได้เพลงล่ะ ร้องว่า

อยากบอกว่ารัก ว่ารักเธอเหลือเกิน .....

ใครเชี่ยวชาญเพลงไทยตอบด้วย

 

Post a Comment

<< Home