ความรัก หวงแหน ในสถาบัน
หลายๆคน คงมีความรู้สึกภูมิใจอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย ที่จะได้สําเร็จการศึกษามาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ไม่ว่าเป็นระดับ ประถม มัธยมจนถึงระดับอุดมศึกษา โดยเป็นที่ที่เคยวิ่งเล่น เคยหัวเราะ เคยร้องไห้ ได้เพื่อนแท้ หรือแม้กระทั่งมีความรักครั้งแรก
บางคนมีความประทับใจที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาจจะมีความรู้สึกผูกพันชีวิตเด็กมัธยมมากกว่า หรือบางคนอาจจะผูกพันชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งก็เป็นความรู้สึกส่วนบุคคล
สําหรับผม ผูกพันชีวิตในชีวิตเด็กโรงเรียนประจํามาก เพราะอยู่มา 10 ปี ได้อะไรมาเยอะมาก ซึ่งหล่อหลอมให้ผมเป็นคนดีจนถึงทุกวันนี้ นอกจากการสั่งสอนของพ่อและแม่
จึงไม่แปลกใจว่าผมจะมีความรู้สึกรักสถาบันที่จบมามาก บ่อยครั้งที่ผมมักจะเล่าเรื่องเก่าๆสมัย รร ให้เพื่อนๆฟัง แม้จะเป็นเรื่องซ้ำๆ ฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ฟังทีไรก็ไม่เบื่อ(เพื่อนๆก็ไม่เบื่อ)
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของผม แม้จะไม่ค่อยได้ทํากิจกรรมมากนัก แต่ถึงผมจะเป็นนักกิจกรรมตัวยงก็ตาม ความผูกผันในตัวสถาบันคงไม่เท่า รร ประจําอย่างแน่นอน
วันนี้ ผมรับหน้าที่ช่างกล้องให้คุณแม่ ในงานมุทิตาจิต ของศิษย์เก่าวชิระพยาบาล(หรือวิทยาลัยเกื้อการุณย์ ในชื่อปัจจุบัน) สัญลักษณ์ คือดอกสารภี(สมัยเรียกวชิระพยาบาล)และดอกพวงชมพู(สมัยเรียกเกื้อการุณย์)
จัดขึ้นสําหรับผู้ที่เกษียนอายุราชการ ที่สําคัญพี่ๆน้องๆจะได้มาพูดคุยและให้ข้อคิดกับนักศึกษาปัจจุบันด้วย สร้างความสัมพันธ์อันดีของสถาบันแห่งนี้
ผมยอมรับว่า ก็ถ่ายรูปไป อัดวีดีโอบ้างตามหน้าที่ ไม่ได้สนใจอะไรมาก คิดว่าคงเป็นงานเลี้ยงธรรมดาๆ(น้องๆก็น่ารักดีครับ เอ้ะ ไหนว่าไม่สนใจ) แต่สิ่งที่ทำให้ผมชื่นชม ความสมานฉันท์กลมเกลียวแห่งวิทยาลัยแห่งนี้ คือภาพบรรยากาศในงานต่างหาก มีการฉายสไลด์รูปของผู้เกษียณ ตั้งแต่สมัยยังสวมหมวกพยาบาล จนกระทั่งรูปปัจจุบัน สร้างเสียงฮือฮาได้ทั้งห้อง
มีการให้ผู้เกษียณอายุ มานั่งเรียงแถวหน้าห้องประชุม โดยมีรุ่นพี่ รุ่นน้อง มามอบของขวัญและรดน้ำ(เหมือนรดน้ำสังข์) มีการให้ศีลให้พร เป็นภาพที่ประทับใจมากครับ
นอกจากนี้ ยังให้ผู้เกษียณอายุกล่าวอะไรสั้นๆซัก 1-2 นาที (บางคนก็นานกว่านั้น แต่ไม่มีการสั่นกระดิ่ง เอ้ย ไม่ใช่โต้วาที) สิ่งที่ผมเห็นคือ ทุกๆคน มีความรักความภูมิใจในสถาบันมากและยินดีกลับมาช่วยเหลือหากวิทยาลัยต้องการ พี่ๆบางคนสอนรุ่นน้องว่า อย่าน้อยเนื้อต่ำใจที่เป็นพยาบาล เพราะพยาบาลก็เป็นอาชีพที่มีเกียรติ เหมือนอาชีพอื่นๆ เป็นต้น
จากนั้นนักศึกษาวชิระพยาบาล ขึ้นมาบนเวทีและร้องเพลงประสานเสียงหมู่ ก่อนจะลง มาล้อมรอบรุ่นพี่ (มีการบูมด้วยแฮะ) ก่อนจะปิดท้ายด้วยการร้องเพลงคํามั่นสัญญาณและเพลงสารภี
อาชีพพยาบาล เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละ เพราะนอกจากจะต้องมีใจรักในงานบริการผู้ป่วยแล้ว ก็ต้องมีจิตใจอ่อนโยน ไม่อย่างงั้นคงมาทํางานในอาชีพนี้ลําบาก
วันนี้ผมได้เห็นภาพในการรักและหวงแหนสถาบันของวชิระพยาบาล หากคุณแม่ไม่เกษียณ ก็คงไม่ทราบเลยว่า ความรู้สึกของคนที่จบมาที่นี่ มีความภาคภูมิใจในสถาบันแค่ไหน และมากน้อยเพียงใด
6 Comments:
This comment has been removed by a blog administrator.
ป้าผมบ่นอยู่เสมอ ว่าเวลาโอวีคุยกัน น่าเบื่อ
"คนโน้นเตะตูดคนนี้ คนนี้เอากางเกงคนนั้นไปซ่อน แล้วก็หัวเราะกันฮ่าๆๆๆ เล่ามาเป็นสิบๆครั้งแล้วก็ยังหัวเราะกัน"
พ่อผมก็เล่าเรื่องวิธีปลุกเพื่อนแบบพิศดารด้วยการตดอัดหน้า
วันนึงคราวซวย เกิดเป็น "ตดเหลว"
เพื่อนก็กลายเป็นเยลโลเพจเจสไป
พ่อผมเล่ามาห้ารอบ
หัวเราะเสียดังเท่าเดิม
ไว้ผมจะไปขอฟังเรื่องเยลโล เพจเจสนะครับ ท่าทางน่าสนุกดี ครับพี่บุญชิต
ท่าจะมีเรื่องอีกเยอะแน่นอน
ฉายาเหรอครับ คุณมิ้ม ผมจะตั้งให้ ฮ่าๆๆๆ(ก็เขาไม่ให้ตั้ง ยังจะตั้งอีก)
ผมก็ไม่ได้จบ ม 6 ครับ แต่จบ ม 8 คงมีคุณสมบัติพอนะ (ไม่เหมือนกันเหรอไง)
หนังซ้ำก็ไม่ฉายครับ ฉายภาพยนต์ดีกว่า
มีอาการรักโรงเรียน...จนออกนอกหน้าค่ะ
อาจจะเป็นอาการ (ค่อนข้าง) ปกติของนักเรียนประจำมั้ง...ใช่ป่ะ ??
..ทุกวันนี้Pouletยังต้องวนเวียนไปวุ่นวายอยู่ทุกๆเดือนนี่นา ;b
..เวลามีงานmeeting ทุกคนมีแต่พูดๆๆๆ เล่าๆๆๆ..เรื่องเดียวกันทั้งน้านนน เรื่องสมัยอยู่โรงเรียน..ในบางโอกาสก็แย่งกันร้องเพลงซะงั้นค่ะ
..ไม่มีเว้นเลยนะ ตั้งกะรุ่นป้า จนรุ่นหลาน..
บางทีก็อยากฟังเรื่องเดิมๆหลายครั้ง แต่คนเล่าไม่ยอมเล่าให้ฟังครับ เรื่อง.. อาจารย์พัชโรจน์ รบกวนช่วยติดตามมาเล่าด้วยนะครับ
ใช่ครับ ผมว่าเป็นอาการปกติแน่ๆ หลายคนคงเป็น
เล่าให้เป็นรอบ ที่พัน แล้วอ้อม
ไม่ตลกแล้วนา ฮ่าๆๆๆ
Post a Comment
<< Home