อันดามันเหนือ….สวรรค์แห่งการดำน้ำ(4)
http://www.colours.dk/
http://filaman.ifm-geomar.de
Dive 6 ผมเจอปลากัดทะเลครับ!!!!
เจ้าปลาไหลมอเรย์หน้าปาน(Darkspotted Moray) อ้าปากหวอทักทายนักดำน้ำ ผมจดจำลักษณะเขา เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น เช่นกัน
สอดส่องตามโพรงบริเวณผาหิน พี่ตามเรียกให้ผมมาดูสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง ตอนแรกมองไม่เห็นครับ โพรงก็ไม่ใหญ่ แถมคนดูก็ตาถั่ว ผมเลยเข้าไปใกล้ ในระยะมากๆ ระยะ ไม่กี่เซนติเมตร(ถ้าเป็นปลาไหลมอเรย์ก็ออกมาฉกตาได้เลยล่ะครับ)
สิ่งที่ผมเห็น คือ ปลากัดทะเล(Comet)ครับ ขนาดไม่เกิน 12 ซม ดีใจสุดๆ เพราะถือว่าเป็นปลาที่หายาก กลางวันมักหลบซ่อนอยู่ตามโพรงหิน พฤติกรรมก็ไม่ใช่ปลาว่ายน้ำในที่โล่งซะด้วย รูปร่างเหมือนปลากัดน้ำจืดแต่มีลำตัวสีดำ มีจุดสีขาวรอบตัว ความขี้อายของเขา ทำให้เราพบเห็นได้ยากครับ ปลากัดทะเลมีตาปลอมไว้ขู่ผู้รุกรานด้วย ผมเห็นตาปลอมชัดเจน(ภายหลังกลับมาดูภาพในเว็บอีกที ถึงเห็นครับ ว่าตาปลอมนั้น เหมือนหัวปลาไหลมอเรย์เลยล่ะ)
ผมทำสัญญาณมือให้พี่ตามว่า โอเค ผมเห็นแล้วพี่(แต่หลายคนอาจไม่ทราบครับ ว่า ปลากัดทะเลนั้นหายากจริงๆ ถ้าถามผม ตัวใหญ่ๆที่หายาก เช่น แมนต้า ฉลามวาฬ เรายังมีโอกาสเห็นพวกเขาบนผิวน้ำได้ ถ้ามาถูกที่ ถูกเวลา บางคนดำผิวน้ำก็เห็น แต่สำหรับปลากัดทะเลขนาดเต็มวัยแบบนี้(วัยเด็ก อาจจะว่ายในแนวปะการัง แต่ก็ดูยากอยู่ดี) ต้องแปลงกายเป็นมนุษย์กบลงมาดูครับ ยิ่งตัวเล็กๆแบบนี้ด้วย)
ต่อไป มีอีกโพรงหนึ่งครับ พี่ตามเรียกให้มาดูอีกเช่นกัน คราวนี้เป็นกุ้งครับ ชื่อว่า กุ้งนักมวย(Boxer Shrimp) ลายปล้องน้ำตาลแดงสลับขาว จดจำได้ง่าย หลายคนสงสัยว่านักมวยอะไร จะไปต่อยมวยเหรอ จริงๆแล้ว กุ้งนักมวยมีพฤติกรรมไล่กุ้งตัวอื่นที่อยู่ในรัศมีออกไป(นักเลงแฮะ ตรงนี้ล่ะมั้งที่เป็นที่มาของชื่อ)
ด้านล่าง ปลาชนิดหนึ่งว่ายผ่านผมไป นี่คือ ปลาปักเป้ากล่องดำลายจุด(Spotted Boxfish) มีสีน้ำเงินสลับสีดำ สวยดีครับ ปลาชนิดนี้เปลี่ยนเกล็ดให้เป็นเกราะแข็ง เพื่อใช้ป้องกันตัว สามารถสร้างเมือกพิษที่ชื่อว่า Ostracitoxin ได้ด้วยครับ
นอกนั้นก็มีทากทะเล(Sea Slug) ที่จำชนิดไม่ได้ และปลาปักเป้าหน้าหมา(Blackspotted Puffer) ครับ
ผมสวนกับกลุ่มนักดำน้ำชาวต่างชาติ(เห็นหัวทองน่ะครับ) ไม่น่าจะต่ำกว่า 10 คน จะเรียกว่า ตลาดน้ำริเชลิวคงไม่ผิดนัก(ยังมีกลุ่มอื่นๆ อีก) เผลอแวบเดียว ผมหลงกับพี่ตาม Leader ของผมเรียบร้อย(ขนาดน้ำใสๆนะ) พี่โหน่งก็ไปไหนเนี่ย
โชคดีเจอพี่โหน่งครับ ช่วยกันมองหา Leader เราดีกว่า ไม่นานก็เจอครับ
ในช่วงอากาศเหลือ 50 บาร์ ผมบอกพี่ตาม แกกำลังหาทางขึ้น ผมกับพี่โหน่งก็ว่ายตามแกไป จากนั้นไม่นาน เราหลงกันอีกแล้วครับ(ทราบภายหลังว่า แกหาผมและพี่โหน่งไม่เจอ) เอายังไง อากาศก็จะหมดแล้วด้วย จะแชร์กันคงไม่ไหว เพราะเหลือน้อยด้วยกันทั้งคู่(เวรกรรม)
ขึ้นดีกว่าครับ ค่อยๆทำ Safety stop แต่พลาดอยู่อย่าง คือ ไม่ได้จุด Sausage(ไส้กรอกสัญญาณ) ระหว่างทำ ไปๆมาๆ มันขึ้นเองน่ะครับ จะลงมาอีกทีก็ไม่ทันแล้ว พลาดอีกข้อ คือ พึ่งทำ Safety stop ไป 1 นาทีเอง โชคดีว่า ไม่มีเรือบนหัวนะ ไม่งั้นก็.............
ตีขา เข้าเรือครับ(มองหาดีๆล่ะ เรือเยอะมาก) ปรากฎว่าพี่ตามยังไม่ได้ขึ้นมา เรามองหากันใหญ่ คิดในใจว่า แกไม่เป็นไรอยู่แล้ว
ไม่นานนักพี่ตามก็ขึ้นมาครับ แกบอกว่ามองไม่เห็นจริงๆ คราวหน้าจะไม่พลาดแล้ว(ไม่เป็นไรครับพี่ นิดๆหน่อยๆ)
อาหารกลางวันมี ราดหน้าทะเลกุ้ง หมูและปลาหมึก มีเส้นใหญ่ เส้นหมี่และหมี่เหลือง ตบท้ายด้วยผลไม้รวม อร่อยดีครับ
เรือโชคศุลีออกจากกองหินริเชลิว จุดหมายต่อไป คือ เกาะตาชัย ผมมองเห็นข้างๆเรือ มีที่ว่าง(ของพอส) แถมด้านหน้าเรือ(ที่นอนบ่อยๆ) มีแดดครับ ไปนอนข้างเรือ หาผ้าห่มมาหนุนหัวนอนดีกว่า สบายใจ(กิจกรรมยามว่าง คือ นอน ครับ มันเพลียน่ะ)
มาถึงเกาะตาชัยเป็นที่เรียบร้อย เห็นหาดทรายสีขาวอยู่ใกล้ๆ ผมมีความหวังที่จะได้ขึ้นเกาะ หลังจากที่เคยได้ยินเจี๊ยบกับเดียร์เล่าให้ฟังถึงความสวยงามของหาดทรายบนเกาะตาชัย ครั้งเธอมากับเรือบัณฑิต แต่เอาเถอะครับ นี่ถึงเวลาจะลงไดฟ์ต่อไปแล้วล่ะ
Dive 7 ปลาหมูหน้าเสี้ยมหลบกระแสน้ำ!!!
น้ำใสกว่าที่กองหินริเชลิวครับ ไดฟ์นี้ผมรู้สึกว่า ดำดีสีไม่ตก เอ้ย รู้สึกว่าดำน้ำดีกว่า 2 ไดฟ์แรกวันนี้ครับ การหายใจเข้า-ออก อย่างช้าๆ ทำให้ผมตีขาน้อยมากๆ ลอยตัวอย่างอิสระ หันข้าง หงายหน้ามองดูปลากลางน้ำอย่างมีความสุข
ที่กลางน้ำ ผมเห็นฝูงปลาตะคองเหลือง(Golden Trevally) 1 ในปลากลางน้ำที่มีรูปร่างเพรียว ช่วยในการว่ายน้ำได้ดี ที่ผมเห็นเป็นขนาดโตเต็มวัยครับ หากเป็นวัยเด็กจะสีออกเหลืองๆ ที่น่าสนใจ คือ ปลาวัยอ่อนจะอาศัยอยู่ตามหนวดของแมงกระพรุน(คราวหน้าลองสังเกตดู อาจจะเจอครับ)
จากนั้นเป็นปลามงครีบฟ้า(Bluefin Trevally) ที่ออกมาทักทายติดๆกันเลยครับ
บริเวณผาหิน มีฝูงปลาชนิดหนึ่งหลบกระแสน้ำอยู่ เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ เมื่อผมสังเกตดู พวกเขาคือฝูงปลาหมูหน้าเสี้ยม(Longface Emperor) หัวยาวและแหลมคือจุดเด่น(ไม่ใช่ หม่ำ-เดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลมนะครับ อันนี้ปลาหมู 555) ปลาหมูหน้าเสี้ยมพบได้ยากกว่าฝูงปลามง การได้พบพวกเขาตอกย้ำได้ดีว่า ใต้ทะเลที่เกาะตาชัยอุดมสมบูรณ์มากครับ
ด้านหน้ามีฝูงปลาหูช้างครีบยาว(Teira Batfish) ที่มักจะไม่กลัวนักดำน้ำ นักดำน้ำจะชื่นชอบในความขี้เล่นของพวกเขา ผมอยู่ใกล้ปลาหูช้างในระยะที่เอื้อมถึง ขนาดจะชนแล้วยังไม่หนีเลยครับ ในบรรดาปลาทะเลหากจะกล่าวถึงความเป็นมิตรกับนักดำน้ำ เชื่อว่าปลาหูช้างติดอยู่ในอันดับต้นๆแน่นอนครับ
อ้าปากยาวๆ ออกมานอกโพรงแบบนี้ เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก ปลาไหลมอเรย์ยักษ์(Giant Moray) ถ้าไม่ผิดพลาดชนิดนี้แหละครับ ที่นักดำน้ำถูกกัดจนนิ้วขาดเพราะไปให้อาหารพวกเขา(ผมว่าอย่าไปให้เลยครับ นอกจากจะอันตรายแล้ว ยังทำให้พฤติกรรมของปลาเปลี่ยนไปด้วย)
ปิดท้ายด้วยปลาปากแตร(Trumpetfish) ที่มีมากเหลือเกิน ผมเห็นปลาปากแตร ไม่ต่ำกว่า 7 ตัว ที่นี่ครับ
ขึ้นมาด้านบนครูนิ้มบอกว่า กำลังรอดูสัตว์ใหญ่เพราะมีแพลงตอนเยอะ ถ้ามีปลาว่ายเหมือนหนีอะไรมาเมื่อไร มีลุ้นได้ดูแน่ครับ
มีอาหารว่างสุดยอดความอร่อย อย่างปูอัด ผักกาดหอมชุบแป้งทอด ถั่วชุบแป้งทอด(รูปร่างเหมือนถั่วฝักยาวครับ) มันฝรั่งชุบแป้งทอด จิ้มด้วยน้ำจิ้มปลาดิบ คงไม่ต้องอธิบายความอร่อยนะครับ
ผมกินได้ยังไม่เต็มคราบ มีเสียงสวรรค์บอกมาว่า ใครอยากขึ้นเกาะตาชัย ให้ไปลงดิงกี้ได้เลย มีเหรอจะพลาด ผมรอโอกาสที่จะขึ้นเกาะมานานแล้วครับ(เกาะไหนก็ขึ้นหมดล่ะครับ ไม่มีคำว่าเบื่อแน่นอน อารมณ์เหมือน เดวี่ โจนส์ ในหนัง Pirates of the Caribbean ที่จะขึ้นเกาะได้ ปีหนึ่งมีวันเดียว ผมกระหายขึ้นเกาะ อดอยากปากแห้งแบบนั้นเลยครับ 555) นอกจากจะได้เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว ผมจะไปถ่ายรูปด้วยน่ะ ว่าแล้วหยิบของว่างเข้าปาก ไปกันเลยครับ
หาดสวย น้ำใสที่เกาะตาชัย!!!!
ชุดแรกมีผม พี่โหน่ง เอ็ม บี พี่เตย พี่พูห์ ครูปรีชาและน้องฟิน เนื่องจากเรามาในช่วงเย็น แสงแดดจึงไม่ค่อยมี แต่ไม่เป็นไรครับ ยังพอมองเห็นความงามของเกาะตาชัยได้
ทรายละเอียดมาก สีขาว ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่ง หาดยาวสุดลูกหูลูกตา ทุกคนดูมีความสุขมากครับ เดินถ่ายรูปกัน โดยเฉพาะน้องฟิน ลูกสาวครูปรีชา เด็กสาวที่อายุน้อยที่สุดบนเรือ ได้มาเหยียบเกาะตาชัยแล้ว(ผมว่าเธอโชคดีมากครับ ตอนผมอายุเท่าเธอยังไม่มีโอกาสดีๆแบบนี้เลยน่ะ)
มีชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งอยู่บนเกาะครับ สวมทูพีช 2 ราย(โอ้ แม่เจ้า ต้องบอกว่า Cool!) เดี๋ยวว่าจะเดินผ่านไปทักทายซะหน่อย (ว่าแล้วก็ขอซูมก่อน แต่ได้เต็มที่แค่นั้นน่ะ 55)
ย่ำ เหยียบ ไปบนผืนทราย เท้าที่จมลงไป รับรู้ถึงความละเอียดของเนื้อทราย ผมเดินไปสุดหาดกับพี่เตย พี่พูห์ แวะทักทาย 2 สาวชาวต่างชาติเล็กน้อย(แค่ Hello ก็พอ เดี๋ยวสามีที่นั่งอยู่ด้วยจะเตะก้านคอเอาครับ 55)
เห็นครูตุ๊กกับมังคุด ตัวเปียก ไปไถ่ถามจึงทราบว่า 2 คนนี้ว่ายน้ำมาครับ(สุดยอดครับพี่)
ตอนแรกนึกว่าไม่มีใครมาครับ ไปๆมาๆ มากันหมดทั้งเรือ(ทนความเย้ายวนใจของเกาะตาชัยไม่ไหว) ดิงกี้รอบต่อมา ผมเห็นหยั่น ประพันธ์ อารีย์ พี่ตาม พี่หนุ่ย พี่โอ๋ ครูนิ้ม พี่อิ๋ว ครูเอ๋ พี่อุ๋ย พี่ตู่ ก็มากันครับ เรามาถ่ายรูปหมู่ร่วมกันดีกว่า
เขียนชื่อเกาะบนพื้นทรายดีกว่า ผมใช้มือเขียน แล้วก็ถ่าย ก็พอดูได้ครับ
มีปูน้อยอยู่(ไม่แน่ใจชนิดครับ) ผมลองถ่ายวีดีโอไว้ ตั้งใจเก็บพฤติกรรมน่ารักๆของเขาไว้ดู
ได้เวลากลับแล้วครับ พี่สายชลมารับแล้ว มาถึงเรือโชคศุลี นั่งพักเล็กน้อย ก่อนที่เรือโชคศุลีจะเคลื่อนตัวออกมา บริเวณอ่าวของเกาะตาชัย สถานที่ที่เราจะลง Night Dive ในวันนี้
ผมชอบมากครับ ไดฟ์นี้ เราไม่ต้องนั่งดิงกี้โดยจะกระโดดจาก Plat form เรือ ผมรีบแต่งตัว ขึ้นมาจะได้อาบน้ำและทานข้าวเร็วๆ
Dive 8 โอ้ ลูกปลาสิงโตแคระม้าลาย!!!!
ในแนวปะการังแบบนี้ น้ำใสมากครับ อยู่ในอ่าวแบบนี้กระแสน้ำก็ไม่มี ผมรู้สึกว่าชอบในการดำน้ำตามแนวปะการังมากกว่าออกไปตามกองหินในทะเล อาจเป็นเพราะในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นกระแสน้ำ การใช้อากาศ เป็นต้น
สัตว์ทะเลที่หลับแล้วก็มี(สงสัยเมื่อคืนนอนดึกล่ะมั้ง555) ที่ยังไม่หลับก็มี ปลาปักเป้าหน้าหมา(Blackspotted Puffer) และ ปลานกแก้ว(Parrot Fish) คือ 2 ชนิด ที่เจอทั้งหลับและตื่น น่ารักดี
ส่องตามรูเจอปูครับ เจ้าปูเสฉวนยักษ์(White-spotted hermit crab) ดูจะตื่นกลัว ออกมาแล้วก็รีบหนีเข้าไปในโพรงเหมือนเดิม ต่อด้วยปูใบ้ปะการัง(Coral Crab)
หอยมือเสือ(Giant Clam) ระดับบิ๊กไซด์เลยครับ ใหญ่จริงๆ ไม่ได้เห็นขนาดใหญ่แบบนี้มานานแล้วเหมือนกันนะ
พี่ตามเรียกให้ผมดู สัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง เป็นลูกปลาสิงโตครับ แต่ขนาดเล็กมากๆ ไม่เกิน 10 ซม ชื่อว่า ปลาสิงโตแคระม้าลาย(Zebra Dwarflionfish) เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพวกเขาในวัยเด็ก หลังจากที่เคยเห็นขนาดโตเต็มวัยมาแล้ว(ขนาดโตเต็มวัย 18 ซม ครับ) ปลาสิงโตแคระม้าลายตัวนี้ ดูไม่กลัวนักดำน้ำเลย เขาเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ผมสังเกตเขาได้อย่างใกล้ชิด เพลินจังครับ เหมือนเฝ้าดูเด็กน้อยเดินทางกลับบ้านเลยครับ(แสดงว่าเลี้ยงเด็กบ่อยน่ะซิ 555)
ถัดจากนั้น มีปลาสิงโตครีบจุด(Spotfin Lionfish) ไม่แปลกใจว่าเมื่อรัตติกาลมาเยือน เหตุจึงพบพวกเขาได้บ่อย เนื่องจากกลางวันเขามักซ่อนตัว ตกกลางคืนออกหาอาหารครับ
ส่องไปเรื่อยๆ พบเพื่อนอีกหลายชนิดครับ เริ่มจาก ปลาอมไข่(Cardinalfish) ปลาผีเสื้อแบนเนต(Bennett ‘ s Butterflyfish) ที่พบได้ไม่บ่อย แต่ผมมั่นใจว่าใช่พวกเขาครับ ปลาโนรีครีบยาว(Longfin Bannerfish) ปลาโนรีหน้าหัก(Phantom Bannerfish) ปลาผีเสื้อเทวรูป (Moorish Idol) ปลิงทะเล (Sea Cucumber)
ก่อนขึ้นด้านบน บริเวณทุ่น ปลาไหลมอเรย์ยักษ์(Giant Moray) เลื้อยออกมาให้เห็นแบบเต็มๆ ลำตัวยาวน่าดูเลยครับ
ขึ้นมาคอแห้ง คลื้นไส้นิดหน่อย(เป็นปกติน่ะครับ กับน้ำทะเลแบบนี้ )
อาบน้ำ แต่งตัว อาหารเย็นมี แกงส้มปลากระพง ใส่ยอดมะพร้าวและผักกะเฉด ไข่เจียวหมูสับ ผัดผักสี่สหายราดซอสหอยนางรม ปลาแดงทอดขมิ้น และผลไม้
ครูปรีชาเล่าเรื่องตลกครับ มุขเยอะมาก ไม่ต่ำกว่า 10 มุข แถมไม่ซ้ำกัน เสียงหัวเราะทำให้เรือคึกคักขึ้นมาทันที คนที่หัวเราะจนน้ำตาไหล(ขำจัด) คือ พี่เตย ส่วนหัวเราะเสียงดังที่สุด ยกให้พี่โอ๋เลยครับ 555(บางมุข ผมตลกเพราะเสียงพี่นี่แหละ 555)
จากนั้นมีเกมทายไพ่ ที่ทายยังไงผมก็ยังจับไม่ได้ว่า เขาทราบได้อย่างไรว่าผมเลือกใบไหน แต่น่าจะเกี่ยวกับการชี้ไพ่แน่นอน(อาจเป็นการบอกรหัสลับก็ได้) แต่ก็สนุกดีครับ
สาวๆ จาก Scubanet มาอีกครับ คราวนี้มาพร้อมกัน 3 สาว พร้อมครูต้องและผู้ใหญ่อีกหลายคน เขามาทำกิจกรรมฝึกปรือวิชาว่า ดอกของใครจะสูงกว่า ผมไม่ค่อยมีโชคเลยไม่เล่นดีกว่า(ดูสาวอย่างเดียวพอแล้ว)
ขึ้นมาดาดฟ้าครับ มานั่งคุยกับพี่โหน่ง พี่เตย ประพันธ์ หยั่นและอารีย์ ลมด้านบนนี้ออกเย็นๆ ผมใส่เสื้อกล้ามยังหนาวเลยครับ ดุทุกคนจะแฮปปี้กับการดำน้ำทริปนี้มาก
ผมมองเห็นประพันธ์คอยดูแล ถามไถ่ อารีย์ พี่สาวเขาตลอด ดูแลทั้งใต้น้ำและบนบก รู้สึกเหมือนกับอีกหลายๆคนว่า ประพันธ์รักพี่สาวของเขามาก เป็นภาพที่ดีมากๆ น่าชื่นชมครับ
ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันไปนอนครับ ผมลงไปด้านล่างดีกว่า กิจกรรมฝึกปรือวิชา ปรากฎว่า ผู้มาเยือนพ่ายเจ้าบ้านครับ สร้างรอยแค้นให้กับผู้มาเยือน พร้อมกับบอกว่า พรุ่งนี้ โชคศุลี ต้องไปเยือน Scubanet บ้าง ต่างคนต่างเกทับ ฟังแล้วก็สนุกดีครับ
คืนนี้ ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์แล้ว(พี่ตามบอกว่า การดื่มมีผลกับการดำน้ำแน่นอน จะมากหรือน้อย) ผมคิดว่าอาจจะเกี่ยวกับผมแน่ ผมอยากดำแบบสบายๆ แบบสองไดฟ์แรกวันนี้ อึดอัดครับ
นั่งคุยกับน้องเอ็มและพี่โหน่ง เด็กอะไร หิวบ่อยจัง เดี๋ยวก็ต้มมาม่ามากิน(น่าจะเหมือนผมครับ ระบบการเผาผลาญอาหารดีมากๆ ไม่รู้พยาธิเยอะหรือเปล่า)
เมื่อได้เวลา เราแยกย้ายกันไปนอน พรุ่งนี้แผนการดำน้ำเราน่าจะกลับไปดำแถวสิมิลันในช่วงบ่าย และไปจอดเรือ ดำ Night Dive ที่นั่นครับ
เจ้าปลาไหลมอเรย์หน้าปาน(Darkspotted Moray) อ้าปากหวอทักทายนักดำน้ำ ผมจดจำลักษณะเขา เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น เช่นกัน
สอดส่องตามโพรงบริเวณผาหิน พี่ตามเรียกให้ผมมาดูสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง ตอนแรกมองไม่เห็นครับ โพรงก็ไม่ใหญ่ แถมคนดูก็ตาถั่ว ผมเลยเข้าไปใกล้ ในระยะมากๆ ระยะ ไม่กี่เซนติเมตร(ถ้าเป็นปลาไหลมอเรย์ก็ออกมาฉกตาได้เลยล่ะครับ)
สิ่งที่ผมเห็น คือ ปลากัดทะเล(Comet)ครับ ขนาดไม่เกิน 12 ซม ดีใจสุดๆ เพราะถือว่าเป็นปลาที่หายาก กลางวันมักหลบซ่อนอยู่ตามโพรงหิน พฤติกรรมก็ไม่ใช่ปลาว่ายน้ำในที่โล่งซะด้วย รูปร่างเหมือนปลากัดน้ำจืดแต่มีลำตัวสีดำ มีจุดสีขาวรอบตัว ความขี้อายของเขา ทำให้เราพบเห็นได้ยากครับ ปลากัดทะเลมีตาปลอมไว้ขู่ผู้รุกรานด้วย ผมเห็นตาปลอมชัดเจน(ภายหลังกลับมาดูภาพในเว็บอีกที ถึงเห็นครับ ว่าตาปลอมนั้น เหมือนหัวปลาไหลมอเรย์เลยล่ะ)
ผมทำสัญญาณมือให้พี่ตามว่า โอเค ผมเห็นแล้วพี่(แต่หลายคนอาจไม่ทราบครับ ว่า ปลากัดทะเลนั้นหายากจริงๆ ถ้าถามผม ตัวใหญ่ๆที่หายาก เช่น แมนต้า ฉลามวาฬ เรายังมีโอกาสเห็นพวกเขาบนผิวน้ำได้ ถ้ามาถูกที่ ถูกเวลา บางคนดำผิวน้ำก็เห็น แต่สำหรับปลากัดทะเลขนาดเต็มวัยแบบนี้(วัยเด็ก อาจจะว่ายในแนวปะการัง แต่ก็ดูยากอยู่ดี) ต้องแปลงกายเป็นมนุษย์กบลงมาดูครับ ยิ่งตัวเล็กๆแบบนี้ด้วย)
ต่อไป มีอีกโพรงหนึ่งครับ พี่ตามเรียกให้มาดูอีกเช่นกัน คราวนี้เป็นกุ้งครับ ชื่อว่า กุ้งนักมวย(Boxer Shrimp) ลายปล้องน้ำตาลแดงสลับขาว จดจำได้ง่าย หลายคนสงสัยว่านักมวยอะไร จะไปต่อยมวยเหรอ จริงๆแล้ว กุ้งนักมวยมีพฤติกรรมไล่กุ้งตัวอื่นที่อยู่ในรัศมีออกไป(นักเลงแฮะ ตรงนี้ล่ะมั้งที่เป็นที่มาของชื่อ)
ด้านล่าง ปลาชนิดหนึ่งว่ายผ่านผมไป นี่คือ ปลาปักเป้ากล่องดำลายจุด(Spotted Boxfish) มีสีน้ำเงินสลับสีดำ สวยดีครับ ปลาชนิดนี้เปลี่ยนเกล็ดให้เป็นเกราะแข็ง เพื่อใช้ป้องกันตัว สามารถสร้างเมือกพิษที่ชื่อว่า Ostracitoxin ได้ด้วยครับ
นอกนั้นก็มีทากทะเล(Sea Slug) ที่จำชนิดไม่ได้ และปลาปักเป้าหน้าหมา(Blackspotted Puffer) ครับ
ผมสวนกับกลุ่มนักดำน้ำชาวต่างชาติ(เห็นหัวทองน่ะครับ) ไม่น่าจะต่ำกว่า 10 คน จะเรียกว่า ตลาดน้ำริเชลิวคงไม่ผิดนัก(ยังมีกลุ่มอื่นๆ อีก) เผลอแวบเดียว ผมหลงกับพี่ตาม Leader ของผมเรียบร้อย(ขนาดน้ำใสๆนะ) พี่โหน่งก็ไปไหนเนี่ย
โชคดีเจอพี่โหน่งครับ ช่วยกันมองหา Leader เราดีกว่า ไม่นานก็เจอครับ
ในช่วงอากาศเหลือ 50 บาร์ ผมบอกพี่ตาม แกกำลังหาทางขึ้น ผมกับพี่โหน่งก็ว่ายตามแกไป จากนั้นไม่นาน เราหลงกันอีกแล้วครับ(ทราบภายหลังว่า แกหาผมและพี่โหน่งไม่เจอ) เอายังไง อากาศก็จะหมดแล้วด้วย จะแชร์กันคงไม่ไหว เพราะเหลือน้อยด้วยกันทั้งคู่(เวรกรรม)
ขึ้นดีกว่าครับ ค่อยๆทำ Safety stop แต่พลาดอยู่อย่าง คือ ไม่ได้จุด Sausage(ไส้กรอกสัญญาณ) ระหว่างทำ ไปๆมาๆ มันขึ้นเองน่ะครับ จะลงมาอีกทีก็ไม่ทันแล้ว พลาดอีกข้อ คือ พึ่งทำ Safety stop ไป 1 นาทีเอง โชคดีว่า ไม่มีเรือบนหัวนะ ไม่งั้นก็.............
ตีขา เข้าเรือครับ(มองหาดีๆล่ะ เรือเยอะมาก) ปรากฎว่าพี่ตามยังไม่ได้ขึ้นมา เรามองหากันใหญ่ คิดในใจว่า แกไม่เป็นไรอยู่แล้ว
ไม่นานนักพี่ตามก็ขึ้นมาครับ แกบอกว่ามองไม่เห็นจริงๆ คราวหน้าจะไม่พลาดแล้ว(ไม่เป็นไรครับพี่ นิดๆหน่อยๆ)
อาหารกลางวันมี ราดหน้าทะเลกุ้ง หมูและปลาหมึก มีเส้นใหญ่ เส้นหมี่และหมี่เหลือง ตบท้ายด้วยผลไม้รวม อร่อยดีครับ
เรือโชคศุลีออกจากกองหินริเชลิว จุดหมายต่อไป คือ เกาะตาชัย ผมมองเห็นข้างๆเรือ มีที่ว่าง(ของพอส) แถมด้านหน้าเรือ(ที่นอนบ่อยๆ) มีแดดครับ ไปนอนข้างเรือ หาผ้าห่มมาหนุนหัวนอนดีกว่า สบายใจ(กิจกรรมยามว่าง คือ นอน ครับ มันเพลียน่ะ)
มาถึงเกาะตาชัยเป็นที่เรียบร้อย เห็นหาดทรายสีขาวอยู่ใกล้ๆ ผมมีความหวังที่จะได้ขึ้นเกาะ หลังจากที่เคยได้ยินเจี๊ยบกับเดียร์เล่าให้ฟังถึงความสวยงามของหาดทรายบนเกาะตาชัย ครั้งเธอมากับเรือบัณฑิต แต่เอาเถอะครับ นี่ถึงเวลาจะลงไดฟ์ต่อไปแล้วล่ะ
Dive 7 ปลาหมูหน้าเสี้ยมหลบกระแสน้ำ!!!
น้ำใสกว่าที่กองหินริเชลิวครับ ไดฟ์นี้ผมรู้สึกว่า ดำดีสีไม่ตก เอ้ย รู้สึกว่าดำน้ำดีกว่า 2 ไดฟ์แรกวันนี้ครับ การหายใจเข้า-ออก อย่างช้าๆ ทำให้ผมตีขาน้อยมากๆ ลอยตัวอย่างอิสระ หันข้าง หงายหน้ามองดูปลากลางน้ำอย่างมีความสุข
ที่กลางน้ำ ผมเห็นฝูงปลาตะคองเหลือง(Golden Trevally) 1 ในปลากลางน้ำที่มีรูปร่างเพรียว ช่วยในการว่ายน้ำได้ดี ที่ผมเห็นเป็นขนาดโตเต็มวัยครับ หากเป็นวัยเด็กจะสีออกเหลืองๆ ที่น่าสนใจ คือ ปลาวัยอ่อนจะอาศัยอยู่ตามหนวดของแมงกระพรุน(คราวหน้าลองสังเกตดู อาจจะเจอครับ)
จากนั้นเป็นปลามงครีบฟ้า(Bluefin Trevally) ที่ออกมาทักทายติดๆกันเลยครับ
บริเวณผาหิน มีฝูงปลาชนิดหนึ่งหลบกระแสน้ำอยู่ เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ เมื่อผมสังเกตดู พวกเขาคือฝูงปลาหมูหน้าเสี้ยม(Longface Emperor) หัวยาวและแหลมคือจุดเด่น(ไม่ใช่ หม่ำ-เดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลมนะครับ อันนี้ปลาหมู 555) ปลาหมูหน้าเสี้ยมพบได้ยากกว่าฝูงปลามง การได้พบพวกเขาตอกย้ำได้ดีว่า ใต้ทะเลที่เกาะตาชัยอุดมสมบูรณ์มากครับ
ด้านหน้ามีฝูงปลาหูช้างครีบยาว(Teira Batfish) ที่มักจะไม่กลัวนักดำน้ำ นักดำน้ำจะชื่นชอบในความขี้เล่นของพวกเขา ผมอยู่ใกล้ปลาหูช้างในระยะที่เอื้อมถึง ขนาดจะชนแล้วยังไม่หนีเลยครับ ในบรรดาปลาทะเลหากจะกล่าวถึงความเป็นมิตรกับนักดำน้ำ เชื่อว่าปลาหูช้างติดอยู่ในอันดับต้นๆแน่นอนครับ
อ้าปากยาวๆ ออกมานอกโพรงแบบนี้ เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก ปลาไหลมอเรย์ยักษ์(Giant Moray) ถ้าไม่ผิดพลาดชนิดนี้แหละครับ ที่นักดำน้ำถูกกัดจนนิ้วขาดเพราะไปให้อาหารพวกเขา(ผมว่าอย่าไปให้เลยครับ นอกจากจะอันตรายแล้ว ยังทำให้พฤติกรรมของปลาเปลี่ยนไปด้วย)
ปิดท้ายด้วยปลาปากแตร(Trumpetfish) ที่มีมากเหลือเกิน ผมเห็นปลาปากแตร ไม่ต่ำกว่า 7 ตัว ที่นี่ครับ
ขึ้นมาด้านบนครูนิ้มบอกว่า กำลังรอดูสัตว์ใหญ่เพราะมีแพลงตอนเยอะ ถ้ามีปลาว่ายเหมือนหนีอะไรมาเมื่อไร มีลุ้นได้ดูแน่ครับ
มีอาหารว่างสุดยอดความอร่อย อย่างปูอัด ผักกาดหอมชุบแป้งทอด ถั่วชุบแป้งทอด(รูปร่างเหมือนถั่วฝักยาวครับ) มันฝรั่งชุบแป้งทอด จิ้มด้วยน้ำจิ้มปลาดิบ คงไม่ต้องอธิบายความอร่อยนะครับ
ผมกินได้ยังไม่เต็มคราบ มีเสียงสวรรค์บอกมาว่า ใครอยากขึ้นเกาะตาชัย ให้ไปลงดิงกี้ได้เลย มีเหรอจะพลาด ผมรอโอกาสที่จะขึ้นเกาะมานานแล้วครับ(เกาะไหนก็ขึ้นหมดล่ะครับ ไม่มีคำว่าเบื่อแน่นอน อารมณ์เหมือน เดวี่ โจนส์ ในหนัง Pirates of the Caribbean ที่จะขึ้นเกาะได้ ปีหนึ่งมีวันเดียว ผมกระหายขึ้นเกาะ อดอยากปากแห้งแบบนั้นเลยครับ 555) นอกจากจะได้เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว ผมจะไปถ่ายรูปด้วยน่ะ ว่าแล้วหยิบของว่างเข้าปาก ไปกันเลยครับ
หาดสวย น้ำใสที่เกาะตาชัย!!!!
ชุดแรกมีผม พี่โหน่ง เอ็ม บี พี่เตย พี่พูห์ ครูปรีชาและน้องฟิน เนื่องจากเรามาในช่วงเย็น แสงแดดจึงไม่ค่อยมี แต่ไม่เป็นไรครับ ยังพอมองเห็นความงามของเกาะตาชัยได้
ทรายละเอียดมาก สีขาว ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่ง หาดยาวสุดลูกหูลูกตา ทุกคนดูมีความสุขมากครับ เดินถ่ายรูปกัน โดยเฉพาะน้องฟิน ลูกสาวครูปรีชา เด็กสาวที่อายุน้อยที่สุดบนเรือ ได้มาเหยียบเกาะตาชัยแล้ว(ผมว่าเธอโชคดีมากครับ ตอนผมอายุเท่าเธอยังไม่มีโอกาสดีๆแบบนี้เลยน่ะ)
มีชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งอยู่บนเกาะครับ สวมทูพีช 2 ราย(โอ้ แม่เจ้า ต้องบอกว่า Cool!) เดี๋ยวว่าจะเดินผ่านไปทักทายซะหน่อย (ว่าแล้วก็ขอซูมก่อน แต่ได้เต็มที่แค่นั้นน่ะ 55)
ย่ำ เหยียบ ไปบนผืนทราย เท้าที่จมลงไป รับรู้ถึงความละเอียดของเนื้อทราย ผมเดินไปสุดหาดกับพี่เตย พี่พูห์ แวะทักทาย 2 สาวชาวต่างชาติเล็กน้อย(แค่ Hello ก็พอ เดี๋ยวสามีที่นั่งอยู่ด้วยจะเตะก้านคอเอาครับ 55)
เห็นครูตุ๊กกับมังคุด ตัวเปียก ไปไถ่ถามจึงทราบว่า 2 คนนี้ว่ายน้ำมาครับ(สุดยอดครับพี่)
ตอนแรกนึกว่าไม่มีใครมาครับ ไปๆมาๆ มากันหมดทั้งเรือ(ทนความเย้ายวนใจของเกาะตาชัยไม่ไหว) ดิงกี้รอบต่อมา ผมเห็นหยั่น ประพันธ์ อารีย์ พี่ตาม พี่หนุ่ย พี่โอ๋ ครูนิ้ม พี่อิ๋ว ครูเอ๋ พี่อุ๋ย พี่ตู่ ก็มากันครับ เรามาถ่ายรูปหมู่ร่วมกันดีกว่า
เขียนชื่อเกาะบนพื้นทรายดีกว่า ผมใช้มือเขียน แล้วก็ถ่าย ก็พอดูได้ครับ
มีปูน้อยอยู่(ไม่แน่ใจชนิดครับ) ผมลองถ่ายวีดีโอไว้ ตั้งใจเก็บพฤติกรรมน่ารักๆของเขาไว้ดู
ได้เวลากลับแล้วครับ พี่สายชลมารับแล้ว มาถึงเรือโชคศุลี นั่งพักเล็กน้อย ก่อนที่เรือโชคศุลีจะเคลื่อนตัวออกมา บริเวณอ่าวของเกาะตาชัย สถานที่ที่เราจะลง Night Dive ในวันนี้
ผมชอบมากครับ ไดฟ์นี้ เราไม่ต้องนั่งดิงกี้โดยจะกระโดดจาก Plat form เรือ ผมรีบแต่งตัว ขึ้นมาจะได้อาบน้ำและทานข้าวเร็วๆ
Dive 8 โอ้ ลูกปลาสิงโตแคระม้าลาย!!!!
ในแนวปะการังแบบนี้ น้ำใสมากครับ อยู่ในอ่าวแบบนี้กระแสน้ำก็ไม่มี ผมรู้สึกว่าชอบในการดำน้ำตามแนวปะการังมากกว่าออกไปตามกองหินในทะเล อาจเป็นเพราะในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นกระแสน้ำ การใช้อากาศ เป็นต้น
สัตว์ทะเลที่หลับแล้วก็มี(สงสัยเมื่อคืนนอนดึกล่ะมั้ง555) ที่ยังไม่หลับก็มี ปลาปักเป้าหน้าหมา(Blackspotted Puffer) และ ปลานกแก้ว(Parrot Fish) คือ 2 ชนิด ที่เจอทั้งหลับและตื่น น่ารักดี
ส่องตามรูเจอปูครับ เจ้าปูเสฉวนยักษ์(White-spotted hermit crab) ดูจะตื่นกลัว ออกมาแล้วก็รีบหนีเข้าไปในโพรงเหมือนเดิม ต่อด้วยปูใบ้ปะการัง(Coral Crab)
หอยมือเสือ(Giant Clam) ระดับบิ๊กไซด์เลยครับ ใหญ่จริงๆ ไม่ได้เห็นขนาดใหญ่แบบนี้มานานแล้วเหมือนกันนะ
พี่ตามเรียกให้ผมดู สัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง เป็นลูกปลาสิงโตครับ แต่ขนาดเล็กมากๆ ไม่เกิน 10 ซม ชื่อว่า ปลาสิงโตแคระม้าลาย(Zebra Dwarflionfish) เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพวกเขาในวัยเด็ก หลังจากที่เคยเห็นขนาดโตเต็มวัยมาแล้ว(ขนาดโตเต็มวัย 18 ซม ครับ) ปลาสิงโตแคระม้าลายตัวนี้ ดูไม่กลัวนักดำน้ำเลย เขาเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ผมสังเกตเขาได้อย่างใกล้ชิด เพลินจังครับ เหมือนเฝ้าดูเด็กน้อยเดินทางกลับบ้านเลยครับ(แสดงว่าเลี้ยงเด็กบ่อยน่ะซิ 555)
ถัดจากนั้น มีปลาสิงโตครีบจุด(Spotfin Lionfish) ไม่แปลกใจว่าเมื่อรัตติกาลมาเยือน เหตุจึงพบพวกเขาได้บ่อย เนื่องจากกลางวันเขามักซ่อนตัว ตกกลางคืนออกหาอาหารครับ
ส่องไปเรื่อยๆ พบเพื่อนอีกหลายชนิดครับ เริ่มจาก ปลาอมไข่(Cardinalfish) ปลาผีเสื้อแบนเนต(Bennett ‘ s Butterflyfish) ที่พบได้ไม่บ่อย แต่ผมมั่นใจว่าใช่พวกเขาครับ ปลาโนรีครีบยาว(Longfin Bannerfish) ปลาโนรีหน้าหัก(Phantom Bannerfish) ปลาผีเสื้อเทวรูป (Moorish Idol) ปลิงทะเล (Sea Cucumber)
ก่อนขึ้นด้านบน บริเวณทุ่น ปลาไหลมอเรย์ยักษ์(Giant Moray) เลื้อยออกมาให้เห็นแบบเต็มๆ ลำตัวยาวน่าดูเลยครับ
ขึ้นมาคอแห้ง คลื้นไส้นิดหน่อย(เป็นปกติน่ะครับ กับน้ำทะเลแบบนี้ )
อาบน้ำ แต่งตัว อาหารเย็นมี แกงส้มปลากระพง ใส่ยอดมะพร้าวและผักกะเฉด ไข่เจียวหมูสับ ผัดผักสี่สหายราดซอสหอยนางรม ปลาแดงทอดขมิ้น และผลไม้
ครูปรีชาเล่าเรื่องตลกครับ มุขเยอะมาก ไม่ต่ำกว่า 10 มุข แถมไม่ซ้ำกัน เสียงหัวเราะทำให้เรือคึกคักขึ้นมาทันที คนที่หัวเราะจนน้ำตาไหล(ขำจัด) คือ พี่เตย ส่วนหัวเราะเสียงดังที่สุด ยกให้พี่โอ๋เลยครับ 555(บางมุข ผมตลกเพราะเสียงพี่นี่แหละ 555)
จากนั้นมีเกมทายไพ่ ที่ทายยังไงผมก็ยังจับไม่ได้ว่า เขาทราบได้อย่างไรว่าผมเลือกใบไหน แต่น่าจะเกี่ยวกับการชี้ไพ่แน่นอน(อาจเป็นการบอกรหัสลับก็ได้) แต่ก็สนุกดีครับ
สาวๆ จาก Scubanet มาอีกครับ คราวนี้มาพร้อมกัน 3 สาว พร้อมครูต้องและผู้ใหญ่อีกหลายคน เขามาทำกิจกรรมฝึกปรือวิชาว่า ดอกของใครจะสูงกว่า ผมไม่ค่อยมีโชคเลยไม่เล่นดีกว่า(ดูสาวอย่างเดียวพอแล้ว)
ขึ้นมาดาดฟ้าครับ มานั่งคุยกับพี่โหน่ง พี่เตย ประพันธ์ หยั่นและอารีย์ ลมด้านบนนี้ออกเย็นๆ ผมใส่เสื้อกล้ามยังหนาวเลยครับ ดุทุกคนจะแฮปปี้กับการดำน้ำทริปนี้มาก
ผมมองเห็นประพันธ์คอยดูแล ถามไถ่ อารีย์ พี่สาวเขาตลอด ดูแลทั้งใต้น้ำและบนบก รู้สึกเหมือนกับอีกหลายๆคนว่า ประพันธ์รักพี่สาวของเขามาก เป็นภาพที่ดีมากๆ น่าชื่นชมครับ
ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันไปนอนครับ ผมลงไปด้านล่างดีกว่า กิจกรรมฝึกปรือวิชา ปรากฎว่า ผู้มาเยือนพ่ายเจ้าบ้านครับ สร้างรอยแค้นให้กับผู้มาเยือน พร้อมกับบอกว่า พรุ่งนี้ โชคศุลี ต้องไปเยือน Scubanet บ้าง ต่างคนต่างเกทับ ฟังแล้วก็สนุกดีครับ
คืนนี้ ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์แล้ว(พี่ตามบอกว่า การดื่มมีผลกับการดำน้ำแน่นอน จะมากหรือน้อย) ผมคิดว่าอาจจะเกี่ยวกับผมแน่ ผมอยากดำแบบสบายๆ แบบสองไดฟ์แรกวันนี้ อึดอัดครับ
นั่งคุยกับน้องเอ็มและพี่โหน่ง เด็กอะไร หิวบ่อยจัง เดี๋ยวก็ต้มมาม่ามากิน(น่าจะเหมือนผมครับ ระบบการเผาผลาญอาหารดีมากๆ ไม่รู้พยาธิเยอะหรือเปล่า)
เมื่อได้เวลา เราแยกย้ายกันไปนอน พรุ่งนี้แผนการดำน้ำเราน่าจะกลับไปดำแถวสิมิลันในช่วงบ่าย และไปจอดเรือ ดำ Night Dive ที่นั่นครับ
0 Comments:
Post a Comment
<< Home