Monday, December 12, 2011

Singapore...This is my occasion(8)


















Enchanted Airways


อยู่ใน Zone ของ Far Far Away ครับ เข้าไปเลยดีกว่า ไม่ต้องต่อแถว ไม่มีคนเล่นเลยนะ 555

หากเปรียบ Battle Galactica เป็นรถไฟสำหรับผู้ใหญ่(ที่ไม่ใช่ผู้สูงอายุ) Enchanted Airways ก็เรียกว่าเป็น “รถไฟเด็ก” ก็แล้วกัน

ความเร็วระดับปานกลางครับ ไม่ถึงกับช้ามาก แต่ก็ไม่เร็วจี๋ ถามว่าหวาดเสียวสำหรับผู้สูงอายุหรือไม่ ก็น่าจะเป็นบริเวณโค้ง ที่มีเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา(ผมล่ะกลัวจริงๆ ว่าจะมีผลกับพ่อซึ่งเคยใส่บอลลูนมาแล้ว)

ถามพ่อว่าเป็นอย่างไรบ้าง แกบอกว่าสบายๆครับ ไม่ได้หวาดเสียวอะไร(เฮ้อ งั้นก็ดีล่ะครับ ผ่านไปได้)

หากใครอยากลองเล่น Battle Galactica แต่กลัวว่าจะไม่ไหว ลองมาทดสอบขั้นพื้นฐานกับ Enchanted Airways ดูก่อนก็ได้นะครับ 555



Jurassic Park : Rapids Adventure / Tonight


ตอนกลางวันพ่อเล่นไปแล้ว คืนนี้พี่คนกลางจะเล่นบ้าง ส่วนผมกับพี่คนโตน่ะเหรอ รอบสองแล้วครับ

ต่อคิวยาวเหมือนกัน คนยังไม่กลับกันเลยนี่นา แน่นอนว่าก็ไม่ค่อยมีคนไทยหรอก

เวลาผ่านไป ตัดสินใจถูกไหมเนี่ย คนด้านหน้าผม เกิดรอไม่ไหว ออกดีกว่า เขาสละเสื้อกันฝนให้กับพี่คนกลางด้วยครับ

สำหรับเสื้อกันฝน ที่นี่จะมีขายแบบหยอดเหรียญในตู้อัตโนมัติ สำหรับคนที่ไม่สะดวกให้ร่างกายเปียกน้ำนะ

เอาล่ะ บรรยากาศในการพบไดโนเสาร์ในช่วงค่ำคืนจะแตกต่างจากตอนกลางวันหรือไม่ มาดูกันครับ



เงียบสงัด บรรยากาศดี สมจริง!


หากถามว่า เครื่องเล่นนี้ ควรมาเล่นตอนกี่โมง ถ้ามีโอกาสควรมาตอนกลางคืนครับเพราะหลายๆอย่างดีกว่ามากจริงๆ(แต่ถ้าไม่สะดวก มีเวลาน้อย ตอนไหนก็เข้าไปเถอะ)

ดีกว่ายังไง ขณะนั่งอยู่ในรถ มองไปบนท้องฟ้า มืดสนิท เห็นดวงดาวระยิบระยับ อากาศก็ไม่ร้อน เวลาไดโนเสาร์ออกมาจะไม่รู้สึกเฉยๆ เหมือนตอนกลางวัน จะเริ่มมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น เพราะในมุมมืดๆ อาจมีไดโนเสาร์โผล่ออกมาจากมุมไหนๆก็ได้(เผลอแป๊บเดียว ก็อาจเปียกได้ 555)

พอถึงจุด Climax ลงจากเนิน (ต้องเปียกมากที่สุด) แม้พี่คนกลางจะอยู่ริม แต่มีเสื้อกันฝนช่วยไว้(อะไรวะ ไม่มันเลย ต้องเปียกๆดิ 555) ส่วนผมนั่งตรงกลาง รู้สึกว่าเปียกน้อยกว่าเมื่อตอนกลางวันครับ



Revenge of the Mummy/ Tonight


เวลาใกล้หมดแล้ว เครื่องเล่นกำลังจะปิด เรายังพอเล่นได้ อีก 1 เครื่องเล่นนะ

3 พี่น้อง รีบวิ่งเข้าไปที่เครื่องเล่น แม้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบในหน้าที่และการงานกันแล้ว แต่ก็ยังมีความเป็นเด็กหลงเหลืออยู่ในตัว ซึ่งผมมองว่ามันเป็นข้อดี

ทำให้เราเข้าใจในธรรมชาติ สัจธรรม และการเอาใจเขามาใส่ใจเรา

การมองโลกจะกว้างยิ่งขึ้น มิใช่ยิ่งแคบลง



ความเร็ว ความร้อน และเสียงไม่เคยเปลี่ยน!


ได้รถเที่ยวสุดท้ายพอดี มีคนนั่งอยู่แล้วแค่ 2 คน เท่านั้น เริ่มได้!

ความเร็ว ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เข้าขั้นสปีด เร็วกว่านรก ผมปลิว ชวนให้เวียนหัว

ความร้อน เหมือนเดิม โดยเฉพาะตอนเจอมันมี่ ฮิมโฮเทป ไฟเต็มๆหน้าเลย ร้อนวาบ

ส่วนในเรื่องเสียง หมายถึงเสียงร้องของคนนั่งครับ ก็เหมือนกับการเล่นไวกิ้ง ที่ต้องเปล่งเสียงออกมาให้ลดความเสียวของท้องน้อย เวลาดิ่งลงไปด้านล่าง

บังเอิญว่า เสียงหมดแล้วครับ ตะโกนเบาๆพอ 555

ปิดท้ายเครื่องเล่นสุดท้าย ที่ Universal Studio บนความสนุกและจะอยู่ในความทรงจำตลอดไป



ก่อนกลับก็ออกมาถ่ายรูป แสงสวยๆยามค่ำคืนแบบนี้ ถ่ายออกมาสวยเชียว โชคดีว่า พี่ๆเอาขาตั้งกล้องมาครับ ถ้าเป็นกล้องจิ๋วของผม ก็คงถ่ายยากอยู่ซักหน่อย

สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ไม่ควรพลาดแสงสวยๆใน Universal Studio นะ คุณอาจได้ภาพความประทับใจกลับไปก็เป็นได้



RUYI Restaurant


ร้านนี้เปิด 24 ชั่วโมง จะอยู่บริเวณทางออกของ Universal Studio ครับ น่าจะอยู่บริเวณ The Forum นะ

บ้างก็ว่า ร้านนี้จะเป็นที่ฝากท้องของผู้ที่ออกจากการเล่นที่คาสิโนด้วยนะ 555

ตอนนี้ผมปวดหัวกับปวดท้องมาก คงเกิดจากอาการ “หิว” 3 ทุ่มกว่าล่ะ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย



อะไรก็สั่งไปก่อนล่ะ ตามรูปนี่แหละ ข้าวผัดมีกุ้ง มีแครอท กับเครื่องดื่มสไปร์ท แม้จะไม่ค่อยอร่อยนัก แต่ก็ทำให้ผมสดชื่น มีเลือดไปเลี้ยงสมองเพียงพอ และหายปวดหัวเป็นปลิดทิ้ง



ส่วนอีกเมนู พี่ชายสั่งครับ ทดสอบแล้ว อร่อยกว่าของผมเสียอีก รสชาดเหมือนพะโล้ครับ (Pork Shank Rice With Soy Egg ราคา 7.90 เหรียญสิงคโปร์)


วิ่งไล่จับหลานทัฬห์ เผลอแป๊บเดียวเดินไปนู่น อุ้มมาซะเลยดีกว่า



กลับถึง Hard Rock Hotel อาบน้ำและสวมเสื้อแจ๊กเก๊ตสีเหลืองของแม่

เริ่มจัดของเตรียมไว้

พรุ่งนี้ก็จะเข้าไปพักในเมืองแล้วครับ



19 กรกฎาคม 2554


เช้านี้ ถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆโรงแรม เรียกว่า “เก็บตก” ในส่วนที่ยังไม่ได้ถ่าย เริ่มจากกีตาร์ใหญ่ด้านหน้า รูปตึกด้านหน้า ป้าย รูป SuperStar ของ Hollywood สระว่ายน้ำ เป็นต้น



Breakfast วันนี้ ผมตักอาหารเฉพาะที่ลองแล้วชอบ ครัวซองทาด้วยเนยถั่ว(แบบ Meet Joe Black) ไส้กรอก ผัดหมี่ และขนมปังชนิดที่หวานๆ ส่วนทีเด็ดก็ต้องซาลาเปาใส้พุทรา อร่อยจริงๆ



พี่มุก พี่ณัฐ พี่เก่ง หลานทัฬห์ จะลงเล่นน้ำที่นี่ พ่อก็นั่งอยู่แถวๆสระว่ายน้ำ ใจนึงผมก็อยากลงเล่นนะ เพราะที่ Hard Rock Hotel ทำสระว่ายน้ำค่อนข้างดี แต่อีกใจหนึ่งก็อยากเดินไปสำรวจ ไปถ่ายรูป Merlion แห่ง Sentosa Island แห่งนี้ เพราะเมื่อ Check out เราก็จะไม่ได้กลับมาอีก

ผมมีเวลากลับมาให้ทัน Check out ครับ ก็ไม่น่าจะยากนะ เดินขึ้น Sentosa Express ตั้งหลายวันแล้วนี่

เดินไป-กลับ ไม่ถูกก็แย่ล่ะ ลุยเลยแล้วกัน!!!



Sentosa Express ไปอยู่ไหนละเนี่ย!!!


งงครับ งง ก็ลงมาทางเดิมนะ ผมมาทาง The Forum ครับ แล้วไปออกทางไหนต่อล่ะ อ้าวไม่ใช่นี่ เดินกลับไปทางเดิมก่อน



ทุกที เราเดินออกมาทาง Festive Hotel ไม่ใช่เหรอ นึกได้ล่ะ เดินๆๆๆ โอเค เริ่มคุ้นล่ะ



เดินมา ผมก็ยังไม่เจอ Sentosa Express เดินขึ้น-ลง ไปออกบริเวณป้าย Sentosa ใหญ่ๆ ที่อยู่บนผาหิน(เฮ้ย ไม่ใช่ล่ะ) เดินลงไปด้านล่าง เป็นลานจอดรถ(เอ้า ยิ่งไม่ใช่ใหญ่) แล้วทางออกอยู่ไหนละเนี่ย สุดท้ายก็มาโผล่ที่ The Forum(เวรกรรม) เดินออกมาอีก ก็เจอ Waterfront เราผิดตรงไหนเนี่ย(กางแผนที่ออกมา)

เหงื่อชุ่มหน้าดู เสียเครดิตนักเดินทางแบบเราหมด ชอบมีเรื่องตื่นเต้นอยู่เรื่อย 555



ที่หาไม่เจอไม่ใช่อะไรครับ ผมเดินอ้อมเป็นวงกลม ทั้งๆที่ Sentosa Express ก็อยู่ใกล้ๆนี่ล่ะ แต่ดันหาไม่เจอเอง 555 นั่นไงเซเว่นที่ลงบันไดเลื่อนมาทุกๆคืน รอดแล้วเรา



Merlion / Imbiah Station!


นั่ง Sentosa Express มาแค่สถานีเดียวจาก Waterfront ลงมาจะเห็น Merlion ขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ ตัวนี้พึ่งสร้างมาทีหลังนะครับ ของจริงต้องอยู่ริมน้ำ อยู่ฝั่งเมืองน่ะ



วันนี้ฟ้าสวยมาก แดดจัด เหงื่อท่วมตัว แต่ก็คุ้มค่า ได้มาถึงเสียที แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตามด้านหลังจะมีร้านขายของที่ระลึก และมี Merlion Walk ด้วยครับ เอาไว้นั่งเล่น เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจได้เหมือนกัน

รีบกลับดีกว่าครับ ใกล้ถึงเวลานัดหมายล่ะ



Check out!


เก็บกระเป๋าเสร็จ แบกลงมา Check-out ระหว่างคอยก็ถ่ายรูปโรงแรมอีกนิดหน่อย เรียก Taxi ไป Marina Bay Sands Hotel กันเลย



รถติดเล็กน้อย ระหว่างทางก็ยังมีตึกที่กำลังก่อสร้างค่อนข้างเยอะ เริ่มเห็นตึกขนาดใหญ่ที่เป็นรูปเรือ ซึ่งเป็นที่พักของเราในคืนนี้



Marina Bay Sands Hotel!


พนักงานของโรงแรมมาช่วยขนกระเป๋า พี่มุกไปต่อแถว Check-in ยืนรอฟังดนตรีจากสาวๆสิงคโปร์ไปพลางๆก่อน



ห้องจะเข้าได้ตอนบ่ายสามโมงครับ ฝากกระเป๋าไว้ที่นี่ก่อน พี่มุกจะพาไปกินข้าวมันไก่สิงคโปร์น่ะ



หลังจากสอบถามเจ้าหน้าที่โรงแรมว่า สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินไปทางไหน ก็เดินตรงไปเรื่อยๆ มันก็ต้องข้ามถนนเดินอีกไกลอยู่ มีหลายคนด้วย รถเข็นเด็กอีก เดี๋ยวพ่อจะเมื่อย ก็เลยนั่ง Taxi อีกรอบ



หลายคนนั่งได้ ไม่ต้องแยกกันคนละคัน เพราะว่า Taxi คันนี้มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ส่วนคนขับรถเป็นคนสิงคโปร์ก็จริง แต่สามารถพูดไทยและฟังไทยได้ครับ เราผ่าน Raffles Hotel Singapore ด้วย(ที่ไมเคิล แจ๊คสัน เคยมาพักน่ะ )

คนขับรถบอกว่า “ข้าวมันไก่ เทียน เทียน เหรอ ไม่อร่อยๆ(พูดแล้วก็สั่นหน้า) ร้านที่กำลังจะไปนี้อร่อยกว่าเยอะ” ถ้าถามผม แล้วแต่คนชอบน่ะนะ เทียน เทียน ผมก็ไม่เคยกิน แต่นักท่องเที่ยวก็บอกว่าอร่อยกัน ยังไงก็ขอผมลองกินก่อนแล้วกันนะครับ



ลิ้มรส ข้าวมันไก่ ร้าน YET CON


ร้านนี้หน้าร้านมีป้ายเขาบอกว่า Famous Chicken Rice / Delicious Roasted Pork / Stream Boat / Chinese and Western Dishes



รสชาดไก่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากบ้านเรา ของเขาเนื้อแน่นกว่ามาก แต่น้ำจิ้มถ้าเอาของบ้านเรามานี่เด็ดเลย (จะถูกปากคนไทยมากกว่า)



อีกจานเป็นผักกาดขาว คงให้ทานแกล้ม แก้เลี่ยน



ต่อมาเป็นหมูกรอบ กับซอสดำๆ ผมว่ามันอร่อยครับ จานนี้

โดยรวมรู้สึกว่า เฉยๆนะ ก็ใช้ได้ เอาไว้คราวหน้าอาจลองกิน เทียน เทียน ดูครับ แล้วผมจะมาบอกว่าอันไหนอร่อยกว่านะ 555