Friday, November 18, 2011

Singapore...This is my occasion(7)




















ถึง Beach Station / ต่อ Shutter Bus




2 สถานีจาก Waterfront เท่านั้น ก็ถึง Beach Station แล้ว ว่าแต่ไปไหนต่อละทีนี้ ดูป้าย เขาว่ายังไงบ้าง

ยังต้องต่อ Shutter Bus ไปอีก เพราะ Underwater World อยู่ Siloso Point ครับ




รถคันสีส้มมาล่ะ ด้านในกว้าง แอร์เย็นฉ่ำดี



Siloso Point / Welcome to Underwater World!!!



แม้ว่ามาสิงคโปร์ในครั้งนี้ จะห่างไกลจากการดำน้ำ แบบ Scuba ที่ผมชื่นชอบ ก็ตาม แต่การมา
Underwater World ก็อาจทำให้ ได้เจอกับเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่าก็เป็นได้



กระหายน้ำ ไหนขอลองเครื่องดื่ม “100 Plus” หน่อย ดูแปลกและไม่เคยเห็นดี(เห็นมีป้ายโฆษณาด้วย) รสชาดเหมือนกับโซดาครับ ซ่าๆหน่อย แต่ไม่ได้หวานเหมือนสไปร์ท



ซื้อบัตร เข้ามาเรียบร้อย ด้านในจะแบ่งออกเป็นหลายโซนและหลายชั้น(ลงไปใต้ดินได้ 2-3 ชั้น) เห็นด้านนอกมี บ่อ Touch Pool เหมือนอควอเรี่ยมทั่วๆไป




โซนปลาน้ำจืด - Exhibit Hall




รูปร่างคล้ายๆ Arapaima ครับ ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องปลาน้ำจืดมากนัก แต่รู้สึกว่าคุ้นๆ นะ



มีหนวดด้วย น่าจะเป็นปลาดุกน้ำจืด ใกล้ๆนั่นก็กระเบนน้ำจืดแน่นอน



ส่วนตัวนี้ ลอยนิ่ง นึกว่าหุ่นสตาฟซะอีก ตามป้ายบอกว่า คือ Bichir นึกว่าไดโนเสาร์นะเนี่ย



โซนปลาน้ำเค็ม 1




เห็นป้าย Sea Angel โอ้ว! นี่มันสัตว์ทะเลรูปร่างแปลกใต้ทะเลลึกและอาศัยอยู่ในเขตน้ำเย็นนี่นา เคยเห็นแต่ในวีดีโอที่พี่ถ่ายมา ตอนไปโอซาก้า

นางฟ้าแห่งท้องทะเล ไม่ใช่ปลาและไม่ใช่แมงกระพรุนครับ แต่อยู่ในไฟลั่ม Mollusca(พวกหอยและพวกหมึกทั้งหลาย)

เวลาดู Sea Angel ว่ายน้ำก็เพลินดี แต่เคยเห็นคลิป Sea Angel ตอนกินอาหาร(โหดใช้ได้นะ 555)

ตัวมันเล็กมากๆ (ไม่น่าจะเกิน 5 ซม) ต้องแนบตาใกล้ๆตู้( มีกระจกขยายวัตถุ ที่ตู้ด้วย ดีจริงๆ)



ไปต่อดีกว่า ตู้นี้ปลาทะเลสีฟ้า สวย สดใส เหมือนหลอดนีออน ไม่แน่ใจว่าผมเคยเห็นใต้ท้องทะเลหรือยัง(ถ้าตอนนี้ก็นึกออก ที่แสมสารที่เดียวครับ เกาะจวง ละมั้ง) ใครทราบชื่อก็บอกกันได้นะ



มาทักทายเจ้า Unicornfish กันบ้าง มองกล้องด้วย 555 ลักษณะเด่นก็คือ เขา นี่แหละ ยังจำครั้งแรกที่เจอ ที่สิมิลันได้ครับ มาบนผิวน้ำเลย



ปลามีดโกน(Razorfish) ชนิดนี้ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน สีขาวสลับแดง ถ้าเป็นชนิดที่พบได้บ่อยๆ จะเป็นอีกแบบครับ



มาด้วยเรื่องของแมงกระพรุน(Jellyfish) กันบ้าง ชนิดนี้ เมืองไทยพบบ่อย ทุกท่านก็คงจะคุ้นตาดี สำหรับนักดำน้ำแบบสน๊อคเกิ้ล ช่วงฝนตก จะพบได้มาก ยังไงก็ระมัดระวังอย่าไปโดนเข้านะครับ



โซนอุโมงค์


อุโมงค์ที่นี่กว้างและยาวมากๆ บริเวณพื้นที่เหยียบ จะเลื่อนไปข้างหน้าเรื่อยๆ นักท่องเที่ยวสะดวกสบาย เพียงแค่ยืนเฉยๆ ก็สามารถยลโฉมเหล่ามัจฉาขณะกำลังว่ายน้ำ



มีฝูงปลา มีกระเบนนก(Eagle Ray) กำลังว่ายน้ำ มีฉลามขาวอ้าปากเป็นสีแบบสามมิติ(ในความมืด) มี Leopard Shark(ฉลามเสือดาว) มีฉลามพยาบาล(Nurse Shark) มีปลาโรนัน (Guitarfish) มีปลากระมง(Jack Fish) มีปลาตะคองเหลือง ปลาหมอทะเล เผลอแป๊บเดียว ครบ 1 รอบ แล้ว



โซนปลาน้ำเค็ม 2


ที่นี่พบตู้แมงกระพรุน ตัวใสๆ บางตัวมีสีชมพู ไม่รู้เพราะแสงไฟหรือเปล่า แต่ดูสวยดีครับ



ส่วนตู้ต่อไป นี่เลยปลาหายากอย่าง Leafy Sea Dragon พบที่ออสเตรเลีย ชีวิตนี้อยากจะเจอใต้ทะเลตัวเป็นๆเหมือนกัน เจ้ามังกรทะเลใบไม้ ดูเผินๆจะเหมือนกับสาหร่าย ลอยไปลอยมา หากใครไม่สังเกตอาจมองไม่เห็นก็ได้ นี่ก็เป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มาในการพรางตัวนั่นเอง



จาก Leafy Sea Dragon ก็เป็นปูอลาสก้า ตัวใหญ่จริงๆ จำได้ว่าเคยเห็นครั้งแรกที่ Siam Ocean World บ้านเรา ว่าแต่ตัวใหญ่มาก ไปเจอใต้ทะเลก็คงมีตกใจบ้างล่ะ



ตู้ต่อไป Mimic Octopus ผมจะจะเจอตัวจริงๆ เดือนตุลาคมนี้แหละ ที่ Lembeh Strait



ต่อด้วย หอยนอติลุส(ตัวนี้ก็หายากนะ)



Shark in the Pool


ชื่อนี้ผมตั้งเองนะ (บ่อนี้มันฉลาม) ยังเป็นลูกฉลามอยู่ (Black-tip Reef Shark) ว่ายแบบ Alert มาก ตรงจุดนี้มีรูปฉลามหลายพันธุ์ครับ เริ่มจาก Nurse Shark , White-tip Shark , Black-tip Reef Shark , Bamboo Shark , Leopard Shark และฟันของฉลาม ผมจำได้ว่ามี Mako Shark , Bull Shark , Great White Shark ด้วยล่ะ( 3 รายหลังนี่ ติดหนึ่งใน 10 ของฉลามที่มีอันตรายต่อมนุษย์ด้วยนะครับ)




ส่วนใกล้ๆ ตรงบันได ก็มีตู้ปลาสูงมากๆ มีพวกปลาขี้ตังเบ็ด และปลาวัวหนามด้วย

มี Souvenir Shop มีของขายเยอะเหมือนกัน ใครสนใจก็มาเลือกซื้อกันได้



รอดูโชว์โลมา


แดดค่อนข้างร้อน ช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีคนเท่าไรนัก แต่พอเริ่มใกล้เวลาโชว์ก็มีคนทยอยมาเรื่อยๆจนเต็มอัฒจรรย์

ด้านบนเป็นห้องแอร์ ใครจะขึ้นไปก็ต้องจ่ายเพิ่ม ผมไม่แน่ใจว่ากี่ดอลลาร์นะ



ได้เวลาแสดงโชว์


มีโลมากับแมวน้ำออกมา การโชว์เริ่มจาก แมวน้ำยืน 2 เท้า จับมือกับผู้ฝึกสอน ให้อาหาร(เป็นรางวัล) แมวน้ำนอนตบมือ ตามจังหวะเพลง ขึ้นมาทำท่าหกสูง แมวน้ำรับห่วงมาห้อยคอ



โลมาเลี้ยงลูกบอลด้วยปาก โลมากระโดดพร้อมกัน โลมากระโดดแบบควงสว่าน

โดยรวมผมว่าเฉยๆครับ ดีนะที่รวมค่าดูอยู่ในตั๋ว Under Warter World เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม(ใครเสียเงินขึ้นไปดูด้านบนคงจะเสียดายน่าดู) เอาเป็นว่าผ่านไปได้เลยครับ โชว์นี้


ออกมามีบ่อเต่า เดินไปเรื่อยๆต่อคิวขึ้นรถ Shutter Bus กลับกันดีกว่า ว่าแต่คนต่อเยอะจริงๆ จะได้กลับไหมเนี่ย

รถมาล่ะ ขึ้นรถสายสีแดง กลับมาที่สถานี Imbiah เราจะต่อ Cable Car เพื่อชมทิวทัศน์ในขากลับ เปลี่ยนแนวบ้าง



Cable Car



จ่ายตังค์ค่าตั๋วเรียบร้อย พูดถึง Cable Car ที่สิงค์โปร์นี้ ผมคุ้นเคยกับคำว่า “ขึ้นกระเช้า ที่ Sentosa” มากกว่า เพราะคุณแม่ของผม เคยมาใช้ชีวิตที่นี่อยู่หลายเดือน ท่านเคยเล่าให้ผมฟังน่ะ



พูดแล้วยิ่งคิดถึง มาต่อดีกว่าครับ กระเช้าสีดำขนาดใหญ่กำลังพาเราชมทิวทัศน์รอบๆเมืองสิงคโปร์ ภายในดูกว้างขวาง สะดวกสบายดี

สิงคโปร์มีตึกเยอะมาก ที่กำลังก่อสร้างก็ไม่ใช่น้อย ในส่วนที่ยังเป็นป่าไม้ แน่นอนว่า รัฐบาลก็คงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีเพื่อพลเมืองของเขาแน่นอน



เราเห็นกระเช้าของนักท่องเที่ยวที่ผ่านไป บางกระเช้ามีอาหารกินด้านในด้วย(คงจะแพงกว่าธรรมดาแน่นอนครับ มีค่าบรรยากาศด้วยนี่ 555)



ยามเย็นแบบนี้ พระอาทิตย์ที่กำลังตกส่องแสงสว่างจ้า เราหยุดที่ตึกๆหนึ่ง ซึ่งจะมีร้านอาหารอยู่บนตึกนี้ด้วย

ในบัตรที่ซื้อมานั้น จะมีบริการกาแฟ ชา และขนมให้กินในตึกนี้(เรียกว่า เป็นแพคเกจ) แต่ต้องเดินหาเอา ว่าร้านอยู่ตรงไหนนะ

ผมเห็นกระเช้าแบบเก่า วางแบบปลดประจำการอยู่ที่ตึกนี้ด้วย คงจะเป็นกระเช้าแบบที่คุณแม่ของผมเคยมา ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นกระเช้าแบบใหม่ดังเช่นในปัจจุบัน



มีร้านขายของที่ระลึกด้วย เดินหาทางไปเรื่อยๆ จนเจอร้านที่ว่า นั่งพักซักเล็กน้อย อากาศร้อนจริงๆ ผมเดินหามุมถ่ายภาพพระอาทิตย์ดวงกลมๆสีส้มแดง กำลังจะลับขอบฟ้า พร้อมกับการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งของเมืองสิงคโปร์

ขนมไม่ค่อยอร่อยเท่าไรนะ ดูเก่าๆเก็บยังไงก็ไม่รู้ เอาเป็นว่า เรากลับไป Universal Studio กันดีกว่าครับ ยังมีเวลาอีกนิด ก่อนจะปิด



HarbourFront Tower Two



จากด้านบน ลงลิฟท์มาด้านล่าง ตึกนี้ชื่อ HarbourFront Tower Two ครับ มีที่ขายตั๋วด้วย เผื่อมีใครจะเริ่มต้นขึ้นกระเช้าจากตรงนี้ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด



ต่อจากนั้นเดินเท้าข้ามถนน ไปห้าง ViVo City ขึ้นชั้นบนไปต่อ Sentosa Express เพื่อกลับไปยังที่พัก สถานี Waterfront Station



At Night / Universal Studio



กลับมาอีกครั้งในยามค่ำคืน คนก็ยังดูคึกคัก หลายคนเริ่มเดินทางกลับ เริ่มหาคนไทยได้ยากขึ้น หากมากับทัวร์ก็คงจะใช้เวลาอยู่ที่นี่เพียงครึ่งวัน และคนก็จะเยอะมากๆ ลำบากในการต่อเครื่องเล่น

หากใครอยากมาเล่นเครื่องเล่นที่นี่จริงๆจังๆ ก็ควรจะมีเวลาเต็มวันจะดีมากครับ

สำหรับเครื่องเล่นต่อไป พี่ณัฐบอกว่า พ่อสามารถเล่นได้ ลักษณะเป็นรถไฟ (แต่ไม่มีตีลังกานะ) ผมยังกังวลว่ามันจะเร็วหรือเปล่า กลัวมันไม่ดีสำหรับผู้สูงอายุน่ะ