Friday, April 30, 2010

ดำน้ำสิมิลัน....วันคริสต์มาส(3)







Dive 2 ฝรั่งอนุรักษ์ธรรมชาติ / เออ ผมเข้าใจ ไม่ว่ากัน

ยาหม่องก็ไม่ได้ผลครับ ทาข้างหูก็แล้ว ได้แต่เรื่องความเย็นน่ะ จำได้ว่าผมเคยใช้ได้ผลนะ ไม่รู้คราวนี้เป็นอะไร ก็คงต้องค่อยๆเคลียร์ ช้าๆเหมือนเดิม

เริ่มต้นน้ำใสมากๆครับ แล้วก็ค่อยๆขุ่นไปบ้าง แต่ยังมองเห็นได้ไกล หลายเมตรอยู่
เห็นตุ๊ยจับมือฝ้ายไปตลอด นี่ซิ Buddy ตัวจริง

ผมเจอปลาไหลมอเรย์ยักษ์(Giant Moray) หาที่ Landing ก่อนครับ เป็นพื้นทรายแบบนี้สบายมาก


มีความรู้สึกเหมือนมีคนมาจับข้อเท้าครับ หันไปปรากฏว่าเป็นนักดำน้ำชาวต่างชาติ ทำสัญญานบอกให้ผมระวังบางอย่างตรงเท้า

อ่อ ผมโดนเจ้าปลิงขูด(Bohaddschia graffei) ครับ ก็ขยับขาไปหน่อย จะได้ไม่โดน ก็คงต้องขอบคุณเขาแหละ แต่บางทีก็ไม่ใช่แบบนั้น คงเคยได้ยินเรื่องคุณวินิจ รังผึ้ง ถ่ายรูปสัตว์ทะเลอยู่ ก็มีปัญหากับชาวต่างชาติ ดังเลยนะตอนนั้น(คุ้นๆว่ามีชักมีดขู่ใต้น้ำด้วย) ทั้งๆที่ประสบการณ์การถ่ายภาพของคุณวินิจ รังผึ้ง ก่อนถ่าย ก่อน Landing แกดูจนละเอียดแล้วครับ ว่าตรงนั้นไม่มีอะไร

บ้างก็ว่า ฝรั่งบางคนต้องการ Show –Off ไดฟ์เวอร์ของตัวเองครับ ก็ว่ากันไป แต่ผมว่าของแบบนี้คุยกันได้ ทำอะไรก็ได้อย่ามาละเมิดสิทธิกัน(ถ้าเราทำถูกต้อง) ผมไม่ค่อยชอบเรื่องการล้ำเส้นเท่าไรนะ

มาต่อกัน ไม่เปิดแฟลชแต่อยู่ไกล ปลาไหลมืดเชียว เข้ามาใกล้ๆหน่อย พอเปิดแฟลชดันติดNoise ซะงั้น 555 เอาน่ะ เข้าไปใกล้กว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่อยากนิ้วขาดครับ

เจอนีโมหรือปลาการ์ตูนส้มขาว(False Crown Anemonefish)อีกแล้วครับ คราวนี้มีเวลา แต่กอดอกไม้ทะเลแถวนี้ ไม่ได้อยู่ติดพื้นทรายก็เลยถ่ายยากกว่าที่อันดามันใต้ ที่ผมลงไปใช้ศอกตั้งบนพื้นทราย แล้วค่อยๆค้างชัดเตอร์ จนได้นีโมในหลายๆอิริยาบถน่ะ

พี่หนอมพาไปดูทากปิกาจู อยู่บริเวณซอกในก้อนหินขนาดยักษ์ แต่ผมไม่ลงไป มองอยู่ด้านบน หนึ่งคือ คนเยอะมากไม่อยากลงไปเบียดเสียด(แค่เห็นคนมุงก็ยอมแพ้แล้วครับ สองคือ ผมเคยเห็นแล้ว หลายตัวที่อันดามันใต้อยู่บนพื้นทราย ถ่ายรูปก็ง่ายกว่า สามคือ ผมจะติดดีคอมแล้วครับ ยังคงยึดมั่นว่าไม่อยากติดน่ะ แม้ติดแล้วบางคนจะว่าไม่มีอะไรก็แค่แก้ดีคอม พักน้ำนานๆ ก็ดำต่อได้(จริงๆก็มีนะครับ เสี่ยงต่อการเป็นเบน เบนคือ ฟองอากาศที่เข้ามาอุดตันในเส้นเลือด จะปวดตามไขข้อ เช่นที่แขนก็อาจจะงอแขนแล้วปวด เป็นต้น)

พักทานข้าวกลางวัน พักน้ำสองชั่วโมงสี่สิบนาที จุดดำน้ำต่อไป คือเกาะเจ็ดครับ


Dive 3 ครั้งแรกกับปลาไหลริบบิ้น!!!



ลงมาไม่นานก็เจอปลากบยักษ์(Giant Frogfish) ครับ ตัวนี้มีสีชมพู พรางตัวได้ไม่เนียนเท่าไร เลยทำให้มองเห็นได้ง่าย

ปลากบชนิดนี้สมชื่อครับ เพราะเป็นปลากบที่มีขนาดใหญ่กว่าปลากบชนิดอื่น จำแนกชนิดง่าย

ชีวิตของปลากบจะไม่ค่อยว่ายน้ำครับ มักจะอยู่นิ่งๆ มีคันเบ็ดล่อให้ปลาเล็กเข้าใกล้ แล้วฮุบเหยื่อ สบายดีแท้ อยู่เฉยๆก็มีอาหารมาถึงที่

หากเห็นปลากบว่ายน้ำ ว่ากันว่า เป็นเพราะย้ายถิ่นที่อยู่ หรือหนีภัย อาจเป็นเพราะนักดำน้ำอย่างเราๆไปรบกวนมันก็ได้

ถ่ายรูปปลากบเสร็จ ดีไม่ดีไม่ทราบครับ แต่ต้องรีบถอยฉาก คนถ่าย คนรอดูก็เยอะเหลือเกิน

ไปต่อครับ พบปลาสินสมุทรจักรพรรดิ(Emperor Angelfish) ปลากะรังแดงจุดน้ำเงิน(Coral Rockcod) ที่พบได้ทั่วไปในแนวปะการัง

และปลาที่เริ่มจะเห็นได้น้อยลง หลายๆปีหลังนี้ คือ ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า(Powder-blue Surgeonfish) สมัยก่อนเจอทีเป็นฝูง เยอะแยะไปหมด เดี๋ยวนี้เจอทีละไม่กี่ตัวเท่านั้น อีกตัว คือ ปลาขี้ตังเบ็ดลายน้ำเงิน(Palette Surgeonfish) ถ้าบอกดอรี่ใน Finding Nemo น่าจะนึกภาพออก ผมเคยเห็นครั้งเดียวครับ หายากกว่า ไม่รู้ปัจจุบันหายไปไหนหมด

ถ่ายรูปปะการังอ่อน(Soft Coral)กับดาวขนนก(Feather Star) ไปเรื่อยๆ ยังไม่มีอะไรเท่าไร

พี่หนอมพาลงไปดูบนพื้นทรายครับ มีอะไรผลุบๆโผล่ๆ มองไม่ชัดเลย ตัดสินใจลงไปดูครับ อาจจะคุ้มค่าน่ะ

คุ้มจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นปลาไหลริบบิ้น(Ribbon Eel) ดำมาไดฟ์ที่ 105 พึ่งจะเจอปลาไหลริบบิ้น แต่ผมก็ไม่อายหรอกครับ ขนาดฉลามวาฬกว่าจะเจอก็ปาเข้าไปไดฟ์ที่ 80 เข้าไปแล้ว ชีวิตการดำน้ำของผมยังมีสิ่งที่น่าค้นหาอีกเยอะครับ

ปลาไหลริบบิ้นตัวนี้ เป็นวัยเด็ก สีดำสลับเหลือง จัดว่าไม่มีเพศ(ใกล้ๆมีอีกตัวครับ แต่ผมเอาตัวนี้แหละ ตั้งกล้องถ่ายได้

อาจจะสงสัยว่าทำไม ปลาไหลริบบิ้นเป็นประเทือง เช่นเดียวกับปลาการ์ตูน และปลาอื่นอีกหลายชนิด เพราะมีทั้งเพศชายและเพศหญิงในตัวเดียวกัน

เมื่อโตขึ้น สีที่ผมเห็นจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าสลับเหลือง เป็นเพศผู้ เมื่อโตเต็มวัยจะเป็นสีเหลืองทั้งตัว เป็นเพศเมีย อัศจรรย์ไหมล่ะครับ ชีวิตสัตว์ทะเล

สำหรับอาหารของพวกเขาหรือพวกเธอ ก็คือปลาขนาดเล็กครับ

สัตว์ทะเลอื่นๆที่จำได้ ก็มี ปลาหมูตาโต(Big-Eye Emperor) ปลามงครีบฟ้า(Bluefin Trevally) ปลาสลิดทะเล(Rabbitfish) หนอนพู่ฉัตร(Christmas tree worm) และปลาเล็กปลาน้อยที่ละลานตาซะเหลือเกิน

บนผิวน้ำ ถ่ายรูปฝ้าย ถ่ายรูปพี่ซิมและวิวของเกาะ สวยดีครับ

ถึงเรือ พักไม่นานก็มีเสียง


“ใครจะขึ้นเกาะสี่ เตรียมตัวเลยนะครับ”

มาดำน้ำครั้งใด หากมีขึ้นเกาะ ผมไม่เคยพลาดครับ ถือเป็นสิ่งที่ผมต้องการเสมอๆ



กลับมาเยือนเกาะสี่(เกาะเมียง)


ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีคนขึ้นเกาะครับ มีแค่ผม พี่เอ น้องเหม่เม๋ พี่โป้งเหน่งและพี่เจตน์

เกาะสี่หรือเกาะเมียงเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน (ดันไม่ได้หยิบสมุดปั้มตราอุทยานแห่งชาติ จากบนเรือมาด้วยนี่นะ)

นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์ค้างแรมที่นี่ได้ครับ ผมมาเหยียบเป็นครั้งที่สองแต่ก็ยังไม่เคยมานอนบนเกาะนี่นะ มาทีไรก็มากับเรือดำน้ำ Liveaboard

น้ำทะเลสีสวยมาก สวยกว่าทะเลใกล้กรุงเทพแบบไม่ติดฝุ่น(แน่ละครับ มาไกลๆฝั่งมันก็ต้องสวยอยู่แล้ว)

สบายใจครับ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แม่คงจะเห็นว่าทะเลที่นี่สวยมากเพียงใด แล้วทำไมผมถึงมาแล้วก็มาอีก

เดินตรงเข้ามา บนต้นไม้มีค้างคาวแม่ไก่ครับ ห้อยหัวกันเป็นทิวแถว ไม่ต่ำกว่าร้อยตัว ไม่ซิมากกว่านั้นแน่นอน

โปรแกรมดำน้ำของที่นี่ จะน้อยกว่าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ครับ เพราะจุดดำน้ำแบบSnorkeling จะน้อยกว่า ผมยังไม่เคยลองซะที แต่เข้าใจว่าน้ำใสกว่า แต่จุดดำน้ำจะค่อนข้างลึกกว่านะ(ถ่ายรูปโปรแกรมเก็บไว้เป็นวิทยาทานครับ)

อ้าว สุดท้ายบนเรือลงกันมาเพียบเลยครับ พี่ดา นิ้วนาง ฝ้าย น้องแป้ง พี่พัท ตาล นางแบบเพียบ ช่างกล้องเพียบ

มาถ่ายรูปกันดีกว่าครับ

คราวนี้ถุงกันน้ำ Ocean pack ที่ซื้อมาจากงานดำน้ำที่ศูนย์สิริกิติ์ ได้ใช้ประโยชน์มากเลย ใส่หนังสือ กล้อง ได้หมด กันน้ำได้สบายๆ

ขากลับค่อนข้างสนุกเพราะมีคลื่น น้ำกระเด็นเข้าเรือ กระเด็นเข้าหน้า เฮฮากันใหญ่ ต้องกอดกล้องไว้ดีๆครับ หลายตังค์นา ถ้าตกน้ำก็คงต้องรีบโยนกล้องบนไว้บนเรือก่อนครับ 555

หาของกินครับ ชักหิว หยิบไฟฉายที่พี่โก้ซื้อมาให้ มาทาซิลิโคนและใส่ถ่าน ผมดำไม่บ่อยนัก กับ Liveaboard ปีละหนสองหน(ส่วนใหญ่การดำน้ำในเวลากลางคืน ก็จะมีในเรือ Liveaboard ด้วย) จึงไม่ต้องใช้ของแพงนัก แบบอันละสองพันเสียดายครับ นานๆใช้ที เอาแค่ไม่กี่ร้อยก่อน อนาคตอยากจะซื้อเมื่อไรก็ได้ ไม่สายหรอก

Night Dive วันนี้ จะลงดำกันที่ Honeymoon Bay ครับ


Dive 4 กุ้งยอดนักมวย!!!


ค่อยลงๆเหมือนเดิมครับ ช้าๆ ช้าๆ และช้าๆ

ทิวาจากไป ราตรีมาเยือน สัตว์ทะเลที่เราเห็นอยู่ในโพรงในเวลากลางวัน อาจจะเริงร่าในยามค่ำคืนก็ได้ การดำน้ำในเวลานี้ จึงตื่นเต้นไม่แพ้กลางวันครับ

บนก้อนปะการัง ไฟฉายส่องดู นี่คือปลาสิงโตครีบจุด(Spotfin Lionfish) กลางวันมักนอนนิ่ง กลางคืนเป็นเวลาออกหากิน

ต่อด้วยเจ้าหมึกกระดอง(Pharaoh Cuttlefish) หน้าตาชวนฉงนสงสัย ยังกับว่ามีคนไปถามปัญหาโลกแตก แล้วมันตอบไม่ได้อย่างงั้นแหละ บางครั้งจะว่ายน้ำไม่เร็วครับ อาจรอดูเชิง ดูระยะปลอดภัย ก่อนที่จะว่ายหนีแบบ 4คูณ 100(ใครเคยเห็นหมึกกระดองตอนดำน้ำ ลองนึกภาพตามที่ผมบอกนะ)

บนก้อนปะการัง รอบๆมีฟองน้ำสีแดง เจ้านี่ คือ กุ้งนักมวย (Boxer Shrimp) เป็นหนึ่งในกุ้งพยาบาลครับ
กุ้งชนิดนี้สีสวย มักชูหนวดสีขาว พอปลามาใกล้ๆก็เริ่มพยาบาลโดยการกำจัดปรสิตตามผิวหนังปลา บางครั้งเข้าไปในปากทำความสะอาดฟันและเหงือกให้ด้วย

ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงชื่อนี้ครับ อาจเป็นลีลาการชูหนวดเหมือนการตั้งการ์ดของนักมวยหรือเปล่า หรือจะเป็นการขยับตัว ที่เหมือนฟุดเวิร์คของนักมวย

จากกุ้งก็มาต่อด้วยกั้งตั๊กแตนเจ็ดสี(Peacock mantis shrimp)ครับ เสียดายถ่ายรูปมาไม่ได้ ดูจากสีสันสดใสน่าจะเป็นตัวผู้ครับ เพราะตัวเมียจะมีสีเขียวมะกอกน่ะ

เขาว่ากั้งมีแรงดีดพอสมควร ผมไม่เคยลองนะ ใครลองแล้วบอกผมด้วย ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว 555

นอนพริ้มเชียวครับ ปลานกแก้ว(Parrotfish)หลับซะแล้ว ลงมาดูนิดนึงน่ะ

ปิดท้ายด้วยปลาปักเป้าสองชนิดครับ ชนิดแรกคือปลาปักเป้าหน้าหมา(Blackspotted Puffer) เหมือนมาก สมชื่อ แต่น่ารัก

อีกชนิด คือปลาปักเป้ายักษ์(Star Puffer) ตัวใหญ่สมชื่อ

ปวดหูเหมือนกันครับ อาบน้ำแล้ว หยิบกล้องขึ้นมา เช็ดให้แห้ง ถอดHousing เปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วชารจ์ พรุ่งนี้เช้าค่อยประกอบใหม่

อาหารเย็นมีต้มยำทะเล ปูผัดผงกระหรี่(จำได้แค่นี่แหละ) ถ้าตอนโชคศุลี อาหารแต่ละมื้อ ผมจะแม่นมากเพราะถ่ายรูปเมนูข้างฝาไว้เลยครับ 555

นับจากครั้งแรกที่ดำน้ำตอนเดือนเมษายน 2548 นี่เป็นครั้งแรกในการดำน้ำบนเรือ Liveaboard ที่รู้สึกว่ามีคนรุ่นเดียวกันมากที่สุด(หมายถึงอายุห่างกัน มากกว่าน้อยกว่าไม่เกินสองสามปีครับ)

คุยกันหลายๆเรื่อง เฮฮา มีพี่วาม(พี่ดารา) เป็นตัวชูโรง หาเรื่องสนุกๆมาเล่าให้น้องๆฟังเสมอๆ พี่เอ พี่ดา พี่พัท ตาล นิ้วนาง โต้ง ปู น้องแคร์ ก็ดูสนุกกันทุกคนครับ

ที่เรียกแบบนั้น เพราะแกแสดงหนัง ละคร มาแล้วหลายเรื่อง เยอะจริงๆ เอาเป็นว่า เอาเรื่องล่าสุด เผื่อมีคนจะไปติดตามผลงาน บางระจัน 2 ครับ แสดงเป็นพม่า เป็นคนฆ่าภราดร เชียวนะ 555

คืนนี้ ค่อนข้างง่วง รู้สึกเลยว่าเพลีย อาจสะสมมาจากเมื่อวานก็ได้

หลายคนก็เพลียครับ ต่างคนก็แยกย้ายกัน แอลกอฮอล์ยังไม่ดื่มกันเลยน่ะ



25 ธันวาคม 2552


ประกอบHousing หาอาหารเบาๆทานก่อน ขนมปัง 1 แผ่นก็พอ

ไดฟ์แรกจะลงดำกันที่หินหัวช้าง(Elephant Head Rock)ครับ

0 Comments:

Post a Comment

<< Home