Thursday, May 17, 2012

Lembeh Strait...มหัศจรรย์แห่ง Muck Dive(5)

Dive 3 จิ๋วแต่มีพิษร้าย Mototi Octopus!!!!! 




ลงมาเห็นพี่ยากับพี่ตุลย์กำลังถ่ายสัตว์ทะเลอย่างขะมักเขม้น ส่วนจะเป็นสัตว์ทะเลชนิดไหน สารภาพว่าช๊อตนี้จำไม่ได้จริงๆครับ 555

 

มาดูพี่ Dodi Leader ของเรากันบ้าง มือขวาถือ Pointer และยังคงมองหาสัตว์ทะเล เพื่อให้เราดูต่อไป

 

เจ้าดอกไม้ทะเลต้นนี้ ดูแปลกดีครับ ขอถ่ายซะหน่อย เพราะที่นี่ก็ไม่ได้มีพวกปะการังและดอกไม้ทะเลมากมายเหมือนบ้านเราเสียด้วย

 

ส่วนดอกไม้ทะเลกอนี้ มีกุ้งตัวใสอยู่หนึ่งตัว ลองถ่ายดูซะหน่อย แม้จะมองเห็นรายละเอียดไม่ชัดเจนนัก แต่พอทราบว่าเป็นกุ้งละครับ

 

สัตว์ทะเลด้านหน้า 2 ตัวนี้ ขึ้นชื่อว่ามีพิษอยู่แล้ว อย่าเผลอไปถูกเข้าล่ะ อยู่ในครอบครัว Scorpaenidae ซึ่งจะมีทั้งปลาหิน ปลาสิงโต และปลาแมงป่อง แต่ในรูปน่าจะเป็นปลาแมงป่องครับ

 

เขาเลื้อยออกมาแล้ว เขาเลื้อยออกมาแล้ว ตกใจเหมือนกันครับ 555 ตามปกติ เรามักจะพบปลาไหลมอเรย์ อยู่ในรูหรือโพรง ในเวลากลางวัน แต่นี่ พี่ปลาไหล ออกมาให้เห็นทั้งตัว แถมว่ายช้ามาก เหมือนจะมาสังเกตการณ์ตัวประหลาดอย่างมนุษย์ เช่น ผม หรือเปล่า 

 

สำหรับชื่อของมัน ก็คือ เจ้าปลาไหลมอเรย์ลายเกล็ดหิมะ(Snowflake Moray) ตัวสีขาวมีจุดสีเหลือง บริเวณหัว แม้หน้าตาจะดูน่ากลัวน้อยกว่าปลาไหลมอเรย์ยักษ์(Giant Moray) ก็เถอะ ผมจำได้ว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่เคยเห็นเจ้า Snowflake Moray ส่วนครั้งแรก เป็นการดำน้ำแบบ Night Dive ที่สิมิลันครับ ส่องไฟเข้าไปในรู เจอเข้าจังๆ ช่วงแรกตกใจ หลังๆเริ่มอยากรู้อยากเห็น (แต่ก็เสียวมันออกมากัดเหมือนกันแหละ 555)

 

ต่อไปเห็นพี่ยากำลังถ่ายกอปะการังเล็ก แตกแขนงออกมาเป็น 2 ก้าน มีม้าน้ำ(Sea Horse)เกาะอยู่ 1 ตัวครับ แต่ผมโฟกัสออกมาค่อนข้างเบลออยู่

 

ถัดไปเป็น Sea Hares (ตอนแรกนึกว่าปลากบครับ จากการช่วยเหลือของพี่แคท เลยทำให้ได้ชื่อของมันมา) เจ้า Sea Hares หรือกระต่ายทะเล ที่ดูๆไปแล้ว ก็เหมือนรูปคนขี่ม้าเหมือนกัน Sea Hares เป็นสัตว์ทะเลจัดอยู่ใน phyllum Mollusca เช่นเดียวกับหอย แต่เป็นสัตว์ทะเลที่มีลำตัวอ่อนนุ่มและไม่มีส่วนเปลือกแข็งหุ้มลำตัว เห็นว่าปล่อยสารพิษได้ด้วยครับ 

 

สำหรับ Lembeh จะมีสัตว์ทะเลตัวเล็กๆซะมาก ตัวใหญ่ๆไม่ค่อยมี ด้านข้างผมจะมีเจ้าปลากระเบนจุดฟ้า Bluespotted Stingrays หาได้ทั่วไปเมื่อไปดำน้ำที่สิมิลัน แต่ถือเป็นตัวใหญ่สำหรับที่นี่ ถ่ายซะหน่อย 555

 

Dodi ชี้ให้ผมดู เจ้าหมึกตัวจิ๋ว ที่ดูแล้วแสนธรรมดา แต่เมื่อพินิจพิเคราะห์จะเห็นวงกลมสีฟ้า บริเวณแก้ม ซึ่งเป็นสัญญานที่ผมรู้ทันทีว่า มีพิษแน่ และเป็นพิษที่ร้ายแรงถึงตายด้วย Dodi บอกว่า นี่ คือ Mototi Octopus เป็นหมึกที่หายากและมีพิษร้ายแรงมาก (คนละตัวกับ Bluering Octopus นะ) เจ้า Mototi Octopus แม้จะจิ๋ว แต่ก็ไม่กลัวใคร(ผมนี่ละกลัว 555) ถ่ายได้2-3 ช๊อต เราปล่อยพี่เบิ้ม(แม้จะตัวเล็ก) ไปตามทางดีกว่า (พี่ Cat ก็บอกว่า เคยเห็นที่นี่ เหมือนกัน บอกเลยว่า ที่มีวงกลมสีฟ้าที่แก้ม ใช่ไหม นี่ละครับ คนรู้จริง เพราะมาดำบ่อยจริงๆ)

เหมือนเส้นด้าย ด้านหน้านี้ ผมมองด้วยตาเปล่าไม่ชัดจริงๆ ได้แต่ดูจากกล้องของพี่ๆ (เรื่องถ่ายเองไม่ต้องพูดถึง ผมโฟกัสไม่ได้ครับ 555) เป็นสัตว์ทะเลที่หายากไม่แพ้เจ้า Mototi Octopus นี่คือ Lembeh Sea Dragon ซึ่งขนาดเล็กมาก เหมือนเส้นผม หรือด้ายซะมากกว่า ความยาวไม่น่าจะเกิน 2.5 ซม. (วันหลังต้องหาแว่นขยายไป) ว่าแต่ Dodi ก็ตาดีจริงๆ มองเห็นได้ไงเนี่ย 

 

ตัวต่อไป เป็น Wonderpus ซึ่งเป็น Octopus ชนิดหนึ่งครับ เป็น 10 wonders in Lembeh ของพี่ปิ่นด้วยนะ 

 

Wonderpus ตัวจะเล็กว่า Mimic Octopus (ซึ่งผมอยากจะเห็นเช่นกัน ในทริป Lembeh นี้) Wonderpus จะมีลำตัวสีน้ำตาลแดง พบในแถบบาหลี สุลาเวสีเหนือ ไปจนถึงฟิลิปปินส์

 

ทีเด็ดต่อเนื่อง เรามาดูเจ้านี่ดีกว่า มันคือ Ambon Scorpionfish ครับ เป็น 10 wonders in Lembeh ของพี่ปิ่น เช่นเดียวกัน (ผมบอกครูตุ๋มว่า อยากเห็น Ambon Scorpionfish เธอบอกเยอะแยะ ถ้าไปน่ะ เจอแน่ๆ ภพ) ในไดฟ์นี้พบ 2 ตัวครับ หลังจากไดฟ์ที่แล้วได้แต่มอง แต่ไม่ได้ถ่ายมา 555 

 

Ambon Scorpionfish ตัวนี้สีออกชมพู แต่หน้าตาออกแนวน่ารักซะมากกว่า ยังไม่คล้าย Decepticon ในเรื่อง Transformer ที่ผมเคยเห็นจากในรูปเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะไม่ได้ถ่ายหน้าตรงติดบัตรหรือเปล่า (ผมจินตนาการเอง เพราะเห็นรูปร่างมันแปลกดี แตกต่างจากปลาแมงป่องทั่วๆไปครับ)

น้ำเข้าหน้ากากอีกล่ะ เคลียร์ก่อนครับ จากนั้น คงได้เวลาปลายๆไดฟ์ อากาศเหลือ 50 ด้วยละ Dodi ก็เลยทำสัญญานให้ผมขึ้น ไดฟ์นี้เจอตัวแปลกๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่หลายตัว

 

ส่วนปลาอื่นๆ เท่าที่จำได้ในไดฟ์นี้ ก็ปลาสิงโต(Common Lionfish) เจ้าเก่านั่นเอง


กลับ Bastianos มีขนมของอินโดนีเซีย ลักษณะเป็นแผ่นใหญ่ๆ ของทางรีสอร์ท รสชาดไม่ค่อยคุ้นเท่าไร โชคดีว่า กลุ่มมนุษย์กบไทย ครูตุ๋ม พี่แดง พี่ตา ใจดีมาก มีขนมมาเพียบเลย หนึ่งในนั้นถ้าจำไม่ผิดมีขนมหวานๆอร่อย อย่างคุ๊กกี้สิงคโปร์ และ นางเล็ดด้วย ขอบคุณมากๆครับ สบายท้องเลยเรา

พี่ยากับพี่ตุลย์ลง Night Dive ครับ ผมก็ขอตามไปด้วย (ซื้อไดฟ์เพิ่มเอา) พี่ Cat บอกผมว่า Night Dive ที่ Lembeh ต้องลงนะภพ เพราะสัตว์ทะเลบางชนิดจะออกหากิน ไม่เหมือนตอนกลางวัน สำหรับจุดดำน้ำต่อไปที่ผมจะลงก็คือ Jahir 

นั่งเรือออกมาแล้ว บรรยากาศรอบๆก็เริ่มมืด Back Row ตูมลงไป ปล่อยลมออกจาก BCD มาดูชีวิตสัตว์ทะเล ยามราตรีที่ Lembeh กันครับ


Dive 4 Stargazers นักล่าจากรัตติกาล!!!!!


บรรยากาศเหมือน Night Dive ทั่วๆไปครับ ก็คือ มืด มีแสงสว่างเพียงไฟฉายเท่านั้น คนข้างๆท่านอาจจะไม่ใช่เพื่อนท่านก็ได้ 5555 (อย่าคิดลึก) ผมหมายถึงว่ามันมืดเฉยๆ อาจจะหลงได้น่ะ ใช้ไฟส่องที่ลำตัวหรือ ที่Fin ก็อาจจะพอเดาได้ครับ แต่ไม่ใช้ไฟส่องหน้ากันนะ

 

 สัตว์ทะเลตัวแรกดูน่ารัก ลำตัวมีสีแดง ใช้ตัวซุกอยู่ในทรายสีดำ ที่หัวของมันเหมือนเป็นเขาสามอัน เจ้า Whiteface Waspfish  เคยเห็นผ่านๆในหนังสือ Reef Fish Identification Tropical Pacific  ของ Gerald Allen , Roger Steene, Paul Humann , Ned  Deloach  




 

ปลาเล็ก ปลาน้อย รวมกันเป็นฝูง เพื่อความอยู่รอด ในขณะที่ปลาบางชนิดเริ่มเข้านอนแล้ว อย่างเจ้าปลาการ์ตูนด้านหน้านี่ ใช้ดอกไม้ทะเลเป็นที่นอนครับ เห็นแล้วน่าอิจฉามันจริงๆ 555

 

ที่พื้นทรายตรงนั้น มีตากับปากโผล่มาครับ ลำตัวอยู่ในทรายทั้งหมด รูปร่างแบบนี้ คือ ปลาไหลงู(Snake Eel) นั่นเอง ปลาเล็กๆไปใกล้ๆล่ะก็ โดนฮุบแน่นอน เป็นการล่าเหยื่อที่มีประสิทธิภาพจริงๆ



เจ้าหมึกคลุกทรายก็มีครับ สงสัยทรายจะเย็น 555 ในพื้นทราย นอกจากจะป้องกันไม่ให้เป็นผู้ถูกล่าแล้วก็ยังเพิ่มโอกาสให้กับการล่าอีกด้วย 

ต่อไปนี้ Dodi ชี้ให้ผมดู สัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง (ซึ่งอยู่ใน 10 wonders in Lembeh ของพี่ปิ่น) ด้วย ตัวอ้วนป้อม มันกำลังมุดลงไปในพื้นทราย เฮ้ย จะใช่หรือเปล่านะ มองเห็น 2 ตา และปากใหญ่ๆกับฟันที่แหลมคม ที่เหลือในตอนนี้ มุดอยู่ใต้พื้นทรายเรียบร้อย รูปร่างแบบนี้ 

มัน Stargazers นี่หว่า!



เจ้า Stargazers ถือเป็นปลาที่ผมคิดว่า เมื่อแรกเห็น หน้าตาดูน่ากลัวมากที่สุด เพราะดวงตาที่อยู่ด้านบน กลมโต คอยจ้องมอง มีฟันแหลมคม คอยจับเหยื่อ ที่ผ่านไปมา โดยการขม้ำ คุ้มค่าแล้ว ได้เห็น Stargazers ด้วย Dodi บอกว่า เราจะพบ Stargazers ได้ในตอนกลางคืน และเฉพาะที่ Jahir นี้เท่านั้นนะ!

เกือบหลงครับ แบบว่า เวลาจ้องดูอะไรนานๆ ก็อย่าลืมชำเลืองคนรอบข้างด้วย ว่าเพื่อนๆและ Dive Leader อยู่ไหม 

 

สำหรับสัตว์ทะเลที่จำได้ ก็มีคล้ายๆ Zebra Dwarflionfish และปลาแมงป่องที่สายเชือกตอนจะขึ้นครับ (เฮ้ย เกือบไป 555)


จบ 4 ไดฟ์แรก วันนี้ ช่างสุดยอดอะไรแบบนั้น สัตว์ทะเลแปลกๆและหายาก มากมาย ผมลืมการเดินทางที่แสนยาวนานแล้วล่ะ เพราะคุ้มค่ามาก ต่อให้ลำบากกว่านี้ ผมก็ไปได้ ถ้าปัจจัยทุกอย่างลงตัว

อาบน้ำ เอากล้องออกมา ทำความสะอาด Housing และไปที่ร้านอาหาร เพื่อทานอาหารเย็น


This is call ปั้งสิด!!


มื้อเย็นแบบนี้ จัดต็มอยู่แล้วครับ หนึ่งในอาหาร แปลกๆ เป็นของทอด ที่ผมถามพนักงานว่า มันเรียกว่าอะไรกันแน่ เธอบอกเป็นภาษาอินโดนีเซีย มันเรียกว่า “ปั้งสิด” แค่คำเดียวนี่แหละครับ กว่าผมจะจำได้ พอไม่ใช่ภาษาของเรานี่ จำยากจริง 555

สำหรับรสชาด อร่อยดีนะครับ ไม่ธรรมดาเลย

สงสัยก็เลยถาม มาประเทศแบบนี้ ผมเห็นหมูในอาหารได้ยังไง เธอ(พนักงาน)ให้ความกระจ่างว่า เธอก็เป็นคริสเตียน ในประเทศของเรา คุณจะสังเกตเห็นว่ามีโบสถ์มากมาย นั่นคือคำตอบนะ

มาลอง Viber ดีกว่า สำหรับ Wifi ที่ Front สัญญานดีมาก ผมใช้โทรกลับบ้าน จำได้ว่า แมนซิตี้ ชนะ แมน ยู 7 ต่อ 1( พี่ชายบอก) และยังใช้โทรไปเมือง Xiamen ประเทศจีน ซึ่งเพื่อนกำลังศึกษาต่อเป็นด๊อกเตอร์อยู่ด้วย ทั้งหมดฟรี (รู้แบบนี้ หยิบโทรศัพท์มาทุกครั้งเวลามาต่างประเทศก็คงดี ขอบคุณนะครับแม่)

ดึกแล้วครับ พักผ่อนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้สดชื่น


 

23 ตุลาคม 2554


อากาศสดชื่นเหมือนเคย เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม อาหารเช้ามีข้าวต้ม กับขนมปังครับ

Dodi บอกว่า อาจจะต้องเลื่อนการดู ม้าน้ำแคระ(Pygmy seahorse)ในไดฟ์แรกไปก่อน เนื่องจากเราออกมาช้า เรืออีกลำ นักดำน้ำลงไปกันแล้ว ถ้าลงไปเยอะ จะดูกันลำบาก ดังนั้น จุดแรกขอเปลี่ยนเป็น Aer Bajo 3 ซึ่ง Dodi ให้สัญญาว่าจะพาไปดู Pygmy seahorse อย่างแน่นอน

พร้อมแล้ว ไปลุย Aer Bajo 3 กันต่อเลย

Wednesday, May 02, 2012

Lembeh Strait...มหัศจรรย์แห่ง Muck Dive(4)






















22 ต.ค 2555





ดูจากท้องฟ้า ผมเข้าใจว่า 6 โมงเช้าแล้ว(ก็สว่างซะขนาดนี้) แต่ยัง ตี 5 อยู่เลยครับ(ก็แปลกดีนะ สำหรับท้องฟ้าที่นี่) มาประกอบกล้องเข้ากับ Housing ซะหน่อย ทาซิลิโคน ตรวจดูว่าไม่มีเม็ดทราย จากนั้นก็นอนต่ออีกซักนิด 

 

7 โมงเช้า เตรียมของใส่ Ocean Pack ขึ้นมากินข้าวที่ห้องอาหาร เจอพี่ยากับพี่ตุลย์มาถึงก่อนแล้ว ผมเลือกมาม่ากับลูกชิ้น แทนขนมปัง ที่มักจะเลือกเป็น Breakfast อยู่บ่อยครั้ง

 

ออกมาถ่ายรูปสระว่ายน้ำ เป็นการ Test การถ่ายภาพภายใต้ Housing ด้วย ผมมองออกไปที่ทะเล ซึ่งดูไม่เหมือนทะเลซักเท่าไรนัก มันเหมือนน้ำในทะเลสาปภายในหุบเขามากกว่า นิ่ง สงบ ไร้คลื่น(เดี๋ยวจะได้ลิ้มรสว่าเค็มหรือไม่) นี่ก็ใกล้เวลาแล้วครับ ลงไปด้านล่าง เตรียมอุปกรณ์ขึ้นเรือดีกว่า

 

สำหรับจุดดำน้ำที่ช่องแคบเลมเบห์ ดูจากแผนที่ มีหลายจุดมาก คงจะต้องมาตามเก็บในครั้งต่อๆไป

เรือลำแรก ครูตุ๋มกับพี่แดง ออกไปแล้วครับ ส่วนลำของผมจะมีกลุ่มของมนุษย์กบไทยอีกชุด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม หยก พี่บิ๊ก พี่ตา พี่หมอพี พี่แตง เป็นต้น Divemaster จะมี 2 คน คือ Winston กับ Steven

 

ส่วนกลุ่มของผม มีแค่ 3 คนเท่านั้น คือ ผม พี่ยาและพี่ตุลย์ โดยมี Divemaster คือ Dodi (คนที่ช่วยผมดูเรื่องอุปกรณ์ เมื่อวานนี้นั่นแหละ) สำหรับไดฟ์แรก เป็น Check Dive เป็นจุดดำน้ำที่ชื่อว่า Aer Prang ครับ ลุยกันเลยดีกว่า

 

Dive 1 ดำสบาย สไตล์ Lembeh!


ไม่มีปัญหาเรื่อง Clear หู ครับ น้ำอาจจะเย็นนิดๆ ดีนะที่เช่า Wet Suit มาด้วย รู้สึกว่าเป็นการลงไดฟ์แรกที่สบายๆและชิวมาก แม้จะไม่ได้ดำมา 1 ปี แล้ว ดูเหมือนว่า Dodi ก็ไม่ได้ให้ผมแสดงทักษะอะไรๆ ให้ดูเป็นพิเศษ คงเห็นว่า พอจะไปวัดไปวาได้ละมั้ง ส่วนพี่ยากับพี่ตุลย์ ดำกันบ่อย สบายอยู่แล้ว

 

ส่วนใหญ่ Dive Site จะเป็นพื้นทรายโล่งๆครับ ทรายมีสีดำ เจ้าดาวทะเล(Star Fish) สัตว์ทะเลในไฟลั่มเดียวกับดาวขนนกและเม่นทะเล นอนนิ่งสบายใจเฉิบ


 ผ่านไปแวบๆ  เสียดายว่าไม่ได้ถ่ายรูปไว้ กลัวจะคลาดกับ Dodi  แต่เท่าที่เห็น คล้ายๆ  Finger Dragonnet  เป็นปลาที่หายากและพบได้ไม่บ่อยนักในเมืองไทย (หวังว่าตัวต่อๆไปจะได้ถ่ายรูปครับ)




 

ติดตาม Dodi ต่อไป แกชี้ Nudibranch(ทากเปลือย) ให้ดูครับ ตัวนี้สวยดี เหมือนมีใบไม้ออกมาตามตัว 

 

มองไปอีกด้าน ก็เหมือนหัวผักกาด หรืออะไรซักอย่างเหมือนกัน 555

 

ทากทะเล (Sea Slug) อีกชนิด คล้ายๆทากหนาม ตัวยาวเหมือนงูเลย อาจจะเคยเห็นที่อันดามันใต้ บ้านเราแล้ว ก็เป็นได้นะ

 

จากนั้นเป็นปลาแมงป่อง(Scorpionfish) ชนิดนี้น่าจะพบได้ง่าย แต่ดวงตา น่ากลัวมาก

 

ปลามีดโกน(Razor Fish) ประมาณ 30 ตัว ออกมาให้ยลโฉม พร้อมกับเอกลักษณ์การว่ายน้ำกลับหัว มักจะออกมาไดฟ์แรกเสมอๆ สำหรับทริปดำน้ำต่างประเทศของผม(คราวก่อน ที่สิปาดัน ก็ไดฟ์แรกนะ)

 

ปลาวัวหนาม Fan-bellied leatherjacket(Filefish) ที่เจอประจำที่เกาะสาก เมืองไทย ก็มากับเขาด้วย จริงๆ Dive Site ที่นี่กับเกาะสาก ก็คล้ายๆกัน ยังมีคนเจอ Mimic Octopus ที่เกาะสากเลยนะ

 

ปลาปากท่ออย่าง ปลาจิ้มฟันจระเข้ลายด่าง (Scribbled Pipefish) ออกมาทักทาย ดูจะมีความสุขกับทรายสีดำเหมือนกัน

 

ปิดท้ายไดฟ์ด้วยปลาปักเป้าหนามทุเรียน (Black Blotched Porcupinefish) ส่วนผม อากาศเริ่มเหลือน้อย ก็ทำสัญญานบอก Dodi ขอขึ้นก่อน ช่วงทำ Safety Stop มองเห็นพี่ยา กำลังนอนราบ เล็งถ่ายอะไรซักอย่างด้วย

 

ขึ้นมาบนผิวน้ำ รู้สึกสบายมาก เรือก็ไม่ค่อยมี ค่อนข้างปลอดภัย วิวสวยๆกับภูเขาที่มีป่าไม้มากมายลองชิมน้ำทะเลซักหน่อย เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วยครับ ไม่ค่อยเค็มเหมือนบ้านเรา (เค็มน้อยมาก ลงไปทางจืดมากกว่า) เป็นสภาพแวดล้อมที่ผมก็ไม่เคยเห็นมาก่อน อยู่ในทะเล แต่น้ำกลับไม่เค็ม

 

สำหรับในไดฟ์แรก ผมอาจจะยังไม่ได้เห็นอะไรมากนัก(ที่นี่สัตว์ทะเลมากจริงๆครับ) แต่ก็หวังว่า จะได้เห็น 10 wonders in Lembehที่พี่ปิ่น บอกเล่าไว้ ก่อนผมจะเดินทางมาด้วย(ซักนิดก็ยังดี) 1) Rhinopias Scorpionfish 2) Ambon Scorpionfish 3) Blue Ribbon Eel 4) Hairy Frogfish 5) Unusual Nudibranchs 6 )Wunderpus 7) Tiger Shrimp 8) Juvenile Fish 9) Stargazers 10) New and Undescribed Species like a brand new species of pygmy pipehorse

พักน้ำ 45 นาที ก่อนจะลงไดฟ์ต่อไป ช่วงนี้ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ พี่ยากับพี่ตุลย์ทำท่าทางแกล้งว่าเหนื่อยมาก 555 ส่วนผมก็ยังสดชื่นดี 


จุดดำน้ำต่อไป ชื่อว่า Aer Bajo 2 จะอยู่อีกฝั่งของจุดดำน้ำแรก (Aer Prang ) จุดสังเกตจะมีเรือเก่าๆ สนิมเขรอะ อยู่ 1 ลำ 

กระโดดตามผม แล้วลงไปดำน้ำกันต่อเลยครับ 



Dive 2 เร่เข้ามา Flamboyant Cuttlefish กับ Hairy Frogfish!!!!


คนมุงถ่ายรูปเยอะมาก ผมไม่เข้าไปดีกว่า แม้จะเป็นตัวทีเด็ด ซึ่งผมมั่นใจว่าจะได้พบกันอีก นับจากนี้(มันใจเย็นมาก อาจจะไม่ได้เห็นอีกเลยก็ได้นะ) เห็นจากขา ที่ค่อนข้างเหมือนเล็บยาวๆมากกว่า นี่ คือ Ambon Scorpionfishครับ เป็น10 wonders in Lembehของพี่ปิ่น เลยนะ

 

เรามาดูของที่ผมพลาดไปเมื่อไดฟ์ที่แล้วดีกว่าปลา Finger Dragonnet แวะเวียนมาอีกรอบ คราวนี้ถ่ายรูปได้  อาจจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็นับว่าแก้ตัวจากที่ไม่มีรูป กลับกลายเป็นมีรูปได้สำเร็จครับ 555  นี่น้ำก็ไม่ลึกเท่าไรนะเนี่ย  เยี่ยมจริงเลย

 

มาดู Flamboyant Cuttlefish กันบ้าง เป็นหมึกชนิดหนึ่ง พบในบางพื้นที่ ทั้ง ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย แต่ประเทศไทย ผมยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครเคยพบนะครับ เจ้า Flamboyant Cuttlefish สามารถเปลี่ยนสีได้ด้วย คงเป็นการพรางตัวเมื่อรู้ว่ามีภัย ตาผมไม่ได้ฝาดไป มันเปลี่ยนสีได้จริงๆ ทันทีเลยน่ะ สำหรับเจ้าหมึกตัวนี้ ผมขอตั้งเองว่าเป็น Wonders in Lembeh เฉพาะของผมแล้วกันนะ

 

จาก Flamboyant ด้านหน้าของผม คือ กั้งตั๊กแตน(Mantis Shrimp) ที่ดูดีมาก เมื่ออาศัยอยู่ตามธรรมชาติ(สีสวยมาก) ดูดีกว่าในตู้กระจกตามภัตตาคารซีฟู๊ดทั้งหลาย ว่ากันว่า มีหมัดที่หนัก ใครได้ลิ้มลองละก็ เจ็บปวดทุกรายไป เคยเห็นในสารคดี เหยื่อของกั้งตั๊กแตน โดนเข้าไป แน่นิ่งภายในไม่กี่นาที)

 

ส่วนเจ้าปากจู๋ ตัวคล้ายกล่อง พื้นสีเหลือง มีจุดสีฟ้า และมีเขา คือ เจ้า Cow Fish (บางคนเรียกว่า ปลากวางครับ) อาจจะดูละม้ายคล้ายเจ้า Yellow Boxfish ปลาปักเป้ากล่องเหลือง แต่เจ้า Cow Fish จะมีเขา และรูปทรงจะแตกต่างออกไป ในบ้านเราจะพบ Yellow Boxfish ได้มากกว่า

 

ม้วนหางซิลูก ที่เศษปะการังหินปูนเก่าๆ ที่ตายแล้ว มีม้าน้ำ(Sea Horse) ตัวนึง เกาะอยู่ ม้าน้ำเป็นสัตว์ทะเลที่ตัวผู้เป็นผู้อุ้มท้อง อย่างที่เราทราบกัน ตัวนี้สีจะออกน้ำตาลๆหน่อย กลมกลืนกับเศษปะการังและพื้นทราย

 

ต่อมาเป็นปลาการ์ตูน หนึ่งในนั้นมี Sebae Anemonefish ที่พบเคยพบที่อันดามันใต้ด้วย แม้สีสันจะไม่น่าสนใจนัก แต่นับว่าหาได้ยาก หากเทียบกับปลาการ์ตูนอีกหลายๆชนิดครับ

 

บนพื้นทรายสีดำ มีทากชนิดหนึ่ง ผมจำได้ทันที เพราะเคยพบกันแล้วที่อันดามันใต้เช่นเดียวกัน เจ้านี่ คือ ทากเปลือยอานม้าสามชั้น(Ceratosoma trilobatum)

 

จ้าหมึกตัวนี้ แปลกตาครับ ดูเผินๆเหมือนมีกาบมะพร้าว ห่อหุ้มร่างกายอยู่ เจ้า Coconut Octopus นี่ สมชื่อจริงๆ ไปไหน มาไหน ก็จะแบกกาบมะพร้าว (เรียกว่า เป็นเกราะ ดีกว่า) เหมือนมีบ้านติดตามไปด้วยตลอดเวลา

 

ปลากบครับ เป็นที่ชื่นชอบของนักดำน้ำอยู่เหมือนกัน เป็น Giant Frogfish ตัวนี้มีสีเหลือง สวยงามดีจริง นอนสบายใจอยู่บนพื้นทรายนี่แหละ



เรามาดูกุ้งกันบ้าง กุ้งใสๆตัวนี้ไม่ได้อยู่บนดอกไม้ทะเล เหมือนที่พบเคยพบครับ แต่อยู่บนพื้นทรายสีดำ ทำให้ง่ายต่อการมองเห็น

 

สำหรับตัวนี้ เป็น Wonders in Lembeh ที่พี่ปิ่นบอกไว้เลย มาเจอไดฟ์ที่สองนี่แหละ ชื่อว่า Hairy Frogfish (ไม่ใช่ Harry Potter นะ 555) Hairy Frogfish หรือปลากบขนยาว เป็นหนึ่งในสัตว์ประหลาด หน้าตาแปลกๆแห่ง Lembeh Strait นี้ ขนมันยุบยับทั่วตัวเลยครับ การเคลื่อนไหวก็เหมือนปลากบทั่วๆไป คือ การใช้ครีบเดิน มากกว่าว่ายน้ำ( ว่ากันว่า ถ้าเห็นว่ายน้ำ แสดงว่ามีคนไปแกล้งมัน หรือ มันหนีภัยอันตรายมา) ช๊อตเด็ด ที่ครั้งนึงในชีวิต ผมอยากจะถ่ายภาพ คือ ภาพตอนปลากบหาว(อ้าปาก)ครับ คงต้องรอไปก่อน สำหรับตอนนี้ Dodi ไปไหน ผมไปด้วย เขาชี้อะไร ผมก็จะเห็นด้วย

 

ตัวต่อไปที่ Dodi ชี้ให้ดู ก็คือ ปลาแมงป่องใบไม้ หรือ Leaf Scorpionfish ครับ ตัวนี้มีสีเหลือง ผมเคยพบครั้งแรกที่ สิปาดัน(Ramil ชี้ให้ดู) เหมือนมีผมทรงโมฮอคอยู่บนหัวเลยนะ



ปิดท้ายปลายไดฟ์ด้วยปลากบสีน้ำตาลแก่ ที่อยู่ท่ามกลางเศษเชือกและขยะ ช่างเป็นไดฟ์ที่พบเจอสัตว์แปลกๆ หายาก มากเหมือนกันครับ

ขึ้นมาบนผิวน้ำ ถ่ายรูปซะหน่อย น้ำสีเขียวแก่ ใสๆ กับเรือสนิมเขรอะ นั่นเรือมาครับ ตีขา หลบก่อน เกือบโดนชนล่ะ 5555(เรือน้อย แต่ก็พอมีนะ ยังไงก็ต้องระมัดระวังใว้เสมอนะครับ)

 

กลับ Bastianos Diving Resort พักกินอาหารกลางวัน มีผัก มีของทอด(เหมือนข้าวโพด) แล้วก็มีเหมือนเนื้อไก่ผัดซีอิ้วมั้ง และปลาหวานๆ อร่อยดีครับ(ขอเติมแน่นอน พร้อมกับเรียนรู้ ภาษาอินโดนีเซีย สำหรับชื่ออาหาร จากพนักงานสาวไปด้วย)

 

ทะเลเรียบ อากาศดีมากๆ มานั่งเล่น ตากลม หน้าห้องซักแป๊บ


นั่งเรือลำเดิมออกมา จุดดำน้ำต่อไป เรียกว่า Pante Parigi (ชื่อจุดดำน้ำนี่ แปลกๆ ทุกจุด สัตว์ทะเลก็แปลกๆทุกจุด เช่นเดียวกัน)

พร้อมแล้ว ลุยต่อกันเลยครับ