Monday, October 22, 2007

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


ทุกท่านคงทราบข่าวอาการประชวรของพ่อหลวงของเราในเวลานี้นะครับ มีประชาชนไปลงนามถวายพระพรที่ โรงพยาบาลศิริราชอย่างไม่ขาดสาย


ผมอยากติดตามบรรยากาศจริงๆ และไม่กลัวที่จะฝ่าฝูงชน ตั้งใจไว้ว่าอยากจะไปลงนามถวายพระพรถึงสถานที่ที่ท่านประทับอยู่ครับ


เริ่มต้นจากการเดินทางลงรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานีหัวลำโพง ต่อรถแท๊กซี่ไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์(เจอตุ๊กตุ๊ก ขูดเลือดครับ คิด 80บาท รอไปเถอะไอ้จอมขูดเนื้อ) วันอาทิตย์รถไม่ติดอยู่แล้วครับ


ข้ามโป๊ะที่ฝั่งธรรมศาสตร์ อากาศวันนี้แม้แดดจะร้อนแต่สดชื่นดีมากครับ ลืมบอกไป แม้จะสายๆแต่จำนวนรถที่จอดที่สนามหลวงเพียบครับ คงไม่ต้องบอกว่าพวกเขามาทำอะไรกัน


80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ซิ 100 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่า นั่งโป๊ะข้ามฝากมาเพื่อถวายพระพรพ่อหลวงของเรา ทุกคนพร้อมใจสวมเสื้อสีเหลืองกันหมด น่าชื่นใจจริงๆ


ผมไม่ค่อยได้นั่งเรือข้ามฝาก ท่านี้เท่าไรนัก จึงไม่ทราบเลยว่า ที่ฝั่งวังหลัง(ศิริราช)นี่ มีของขายเพียบ เสื้อผ้า ของกิน มิน่า ใครๆถึงข้ามฝั่งมาแล้วบอกว่า จะมาเดินดูของ(แบบนี้นี่เอง)


เมื่อเข้าไปด้านใน มีป้ายบอกทางสำหรับประชาชนที่จะไปลงนามถวายพระพร คนเยอะจริงๆครับ บ้างก็มองไปด้านบนห้องที่พระองค์ทรงประทับอยู่ สายตาบ่งบอกถึงความห่วงใยพระองค์ท่าน


บ้างก็นั่งรอรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างหนักทั้งการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกกับประชาชนทั้งของว่างและน้ำดื่ม


ด้านบนตึก สถานที่สำหรับให้ลงนามถวายพระพร มีประชาชนพอสมควรครับ ไม่หนาแน่นนัก(โชคดีที่มาเช้า) ผมก็เลือกต่อคิวที่น้อยๆหน่อย สังเกตว่า เขาจะให้เขียนแค่ว่า “ข้าพระพุทธเจ้า ชื่อและนามสกุล” จะไม่ให้เขียนคำถวายพระพร อาจเป็นเพราะว่า จะได้ไม่เสียเวลานั่นเองครับ


เขียนเสร็จก็ได้โปสเตอร์จากสำนักพระราชวังแจก 1 แผ่นด้วย ใกล้ๆ มีแจกโปสเตอร์อีกหลายแบบครับ แต่ผมไม่อยากฝ่าฝูงชนเข้าไป มองไปมองมา ท่านพงศพัศ พงษ์เจริญนี่นา มาแจกโปสเตอร์ด้วย


มีอยู่ช่วงหนึ่ง เดินฝ่าวงล้อมที่มีรถขนขนม(พระราชทาน) อยู่ 2 ข้าง เส้นทางก็แคบ ดันมีการแจกตรงนั้นพอดี เปรียบเสมือนคนที่ถูกรถอันก๊อบปี้ครับ เฮ้อ!!! โชคดีที่หลุดออกมาได้


ภาพที่ผมเห็น คิดแล้วหลายตลบ ก็ยังนึกไม่ออก ว่าจะหาพระมหากษัตริย์ที่มีความผูกพันกับประชาชนและประชาชนมีความจงรักภักดีมากเท่าพระมหากษัตริย์ของเรา ไม่มีอีกแล้วครับ


ใครสะดวก แวะมาลงนามที่นี่ก็ได้ครับ หรือมิฉะนั้นก็ลงนามตามสถานที่ต่างๆทั่วกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่จัดสมุดลงนาม เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนครับ


ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ช่วยให้พ่อหลวงของเราหายจากพระอาการประชวรและเสด็จออกจากโรงพยาบาลโดยเร็วครับ

Wednesday, October 17, 2007

ดันดารา:มนุษย์ตู้เพลง







เป็นช่วงหนึ่งของรายการ ตีสิบ รายการของเสี่ยวีที(วิทวัส) ออกเป็นประจำในคืน วันอังคาร ซึ่งในช่วงนี้ จะมีแขกจากทางบ้านออกมาร้องเพลง โดยจะมีกรรมการ คือ อ. จตุพล, ครูอ้วน มณีนุช และเธียรรี่ อองรี( เอ้ย ไม่ใช่ครับ พี่โน๊ต เชิญยิ้ม) มาทายว่า เสียงที่ได้ยินนั้น เป็นเสียงของแขกรับเชิญคนใดที่ร้อง




คุณพ่อผม ชอบดูเหลือเกิน ดูทุกสัปดาห์ ส่วนผมไม่ได้ดูช่วงนี้มานานมาก ส่วนใหญ่จะไปดูช่วงท้ายรายการที่เชิญแขกรับเชิญมาพูดคุยมากกว่า(ก็ต้องดูเรื่องอีกทีครับ ว่าน่าสนใจไหม)




เมื่อวานนี้ครับ แขกรับเชิญที่ชื่อว่า คุณพงษ์ศักดิ์ หมื่นไฉน ทำให้ผมลุกไม่ขึ้น(เพราะโดนผีอำ) ไม่ใช่ครับ เพราะเขาเป็นคนที่น่าสนใจมาก สามารถร้องเพลงได้หลายเพลง หลายภาษา หลายแบบ เลียนเสียงก็เหมือน




เพลงไทยสากล เพลงลูกทุ่ง เพลงสตริง เพลงปลุกใจ เพลงฝรั่งสากล เพลงสเปน เพลงโปรตุเกส เพลงอินเดีย เพลงอิสราเอล เพลงญี่ปุ่น เพลงเกาหลี ถามอะไรมา แกร้องได้หมดครับ




ยังไม่พอ เสียงในโฆษณา ปักกิ่ง(ที่เราเคยดูตอนเด็กๆ ช่วงการ์ตูนน่ะครับ) ยังสามารถเลียนเสียงออกมาได้ ขนาดเสียงเพลงชาติอเมริกา เวลานักมวยขึ้นชก เสียงผู้ประกาศ ยังทำได้เหมือน(สุดทึ่งครับ)




ยังไม่จบครับ เสียงเพลงอิ๊กคิวซัง เสียงเพลงโดเรมอน เสียงเพลงนินจาฮาโตริ เสียงเพลงเปาบุ้นจิน เสียงเพลงมังกรหยก เสียงเพลงเจ้าพ่อเซี้ยงไฮ้ แกยังร้องได้(มีเสียงตัวละครและเสียงเอฟเฟคด้วยครับ 555)




นี่แค่ตัวอย่าง เพราะครึ่งรายการ พี่แกก็ร้องไป 70 กว่าเพลง(70 แบบแล้ว) ความสามารถเหลือล้นครับ




ธรรมดาก็น่าชื่นชมอยู่แล้ว แต่คุณพงษ์ศักดิ์ หมื่นไฉน เป็นผู้พิการทางสายตานะครับ เรียกได้ว่า ความจำของเขาอยู่ในขั้นสุดยอด แม้ไม่เคยเห็นแต่สามารถสัมผัสได้จากการได้ยิน




นอกจากนี้เขายังสามารถเล่นดนตรีได้หลายอย่าง สุดยอดจริงๆครับ




หลังจากวันนี้ คุณพงษ์ศักดิ์ หมื่นไฉน จะมีชื่อเสียงมากขึ้น แต่เขาก็อ่อนน้อม ถ่อมตน เป็นคุณสมบัติที่ดีและน่ายกย่องครับ




ใครที่กำลังท้อ สิ้นหวัง ลองดูเรื่องราวชีวิตของ คุณพงษ์ศักดิ์ หมื่นไฉน จะทำให้มีแรงต่อสู้มากขึ้นครับ




คนมีความพยายาม ทำแต่ความดี




จะได้แต่สิ่งดีๆ ตอบแทน




ผมเชื่อแบบนั้นเสมอครับ

Thursday, October 11, 2007

MACBETH เปิดศึกแค้น ปิดตำนานเลือด


“ ภพ ซื้อแผ่นอะไรมาน่ะ” พี่ปุ๊ย ถาม ขณะผมออกมาจากร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่ จ. ชุมพร ซึ่งกำลังจะกลับกรุงเทพฯ หลังจากไปดำน้ำที่เกาะเต่า


“แผ่นหนังครับพี่ เรื่อง MACBETH” ผมตอบ อย่างภาคภูมิ


“ซื้อที่กรุงเทพฯ ก็ได้มั้ง” แกถามต่อ พร้อมสงสัยว่า เหตุใดถึงมาซื้อในเวลานี้


“ ก็เรื่องนี้ ผมเคยแสดงตอนสมัยมัธยมครับ ไม่คิดว่า เขาจะทำมาเป็นภาพยนต์ เลยขอซื้อมาดูหน่อย ไม่รู้ไปกรุงเทพฯ จะมีหรือเปล่า”

Macbeth เป็นบทประพันธ์ของวิลเลี่ยม เชคสเปียร์ หากใครนึกไม่ออกว่าใครหรือ คือ วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ ลองนึกถึงภาพยนต์เรื่อง Shakespeare In love ก็ได้ครับ (น่าจะคุ้นๆ ตากันนะ)


ผมสงสัยว่า จากบทพูดที่มีคำราชาศัพท์แปลกๆ บางคำก็แสนจำยาก(ช่วงนั้นจะสอบเอ็นทรานซ์ด้วยอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สอบเอ็นไม่ติดครับ 555) มาทำเป็นภาพยนต์ มันจะไม่น่าเบื่อเหรอ แล้วจะสร้างอย่างไร?


เมื่อได้เปิดชม ผิดคาดครับ ไม่มีการใช้ดาบฟาดฟันกันเหมือนการแสดง มีแต่รถสปอร์ตสุดหรู โทรศัพท์มือถือและปืนเป็นอาวุธ เรียกว่าค่อนข้างทันสมัย(เสียดาย บางฉากมืดไปนิด)


ตัวละครอย่างแมคเบธ, แมคดัฟ, เลดีแมคดัฟ, 3 แม่มด , มัลคอม(ข้าพเจ้าแสดงเป็นตัวนี้แหละครับ ) ดันแคน, แองกัส, เลนนอกด์, รอส, ฟลีอันซ์,แบนโคว์ เป็นต้น อยู่กันครบ


ใครพอทราบเรื่องราวมาแล้ว ว่าตัวละครมีชื่ออะไรบ้าง ใครเกี่ยวข้องกับใคร จะยิ่งดูสนุกขึ้นครับ(แนวๆเดียวกับภาพยนต์หลายเรื่องที่สร้างจากบทประพันธ์น่ะครับ)


คำพูดแปลกๆ ที่แสนจำยาก ยังอยู่ครับ มีทุกฉากที่พูด แต่ไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชนเพราะมีฉากเห็นเรือนราง(นิดเดียว เฮ้อ เสียดายจัง 555) กับฉากฆาตกรรม ซึ่งมาคิดดูอีกที ผมว่า เกม counter strike(ที่เด็กๆ ชอบเล่น) น่าจะโหดกว่านะ


การันตีของภาพยนต์เรื่องนี้ด้วยรางวัล โปรดักชั่นยอดเยี่ยม ,เครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม จากสถาบันภาพยนต์ออสเตรเลีย ประจำปี 2006(Australian Film Institute) ครับ


ใครสนใจลองไปหาดูกันได้ครับ ไม่รู้ร้านเซเว่น ที่กรุงเทพฯจะมีหรือเปล่า


แต่น่าจะมีนะครับ

Monday, October 08, 2007

ใต้ผืนน้ำมี....กุ้งตัวยาว







เมษายน 2548 ผมอยู่ที่ Dive Shop ของชุมพรคาบาน่า รีสอรท์ เพื่อมาเรียนดำน้ำ ขณะกำลังเลือกอุปกรณ์ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นโปสเตอร์แผ่นหนึ่ง เขียนว่า “เหมือนฝัน...ฉันเห็นกุ้งตัวยาว”เขียนโดย ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์(ถ้าจำชื่อเรื่องผิด ขออภัยนะครับ)

เรื่องราวพูดถึง สุดยอดกุ้งตัวนึง รูปร่างประหลาด แต่คุ้มค่าในการค้นหา เพราะเป็นกุ้งที่นักดำน้ำชื่นชอบ มักพบเห็นได้กับปะการังดำแบบเส้น(แส้ทะเล)และปะการังแบบพุ่ม

แม้ฉลามวาฬ ยักษ์ใหญ่ผู้ใจดี จะเป็นไฮไลท์ ของที่นี่ สำหรับนักเรียนใหม่อย่างผม แค่กุ้งตัวยาวก็คุ้มค่าแล้วครับ จะมีโอกาสได้เห็นไหมนะ

“พี่ครับ ผมอยากเห็นกุ้งตัวยาว”

…………………….

“แก๊งค์ๆๆๆๆๆๆ” เสียงใครคนหนึ่งเคาะ pointer

ในความลึก 18 เมตร ที่เกาะง่ามน้อย พี่ปู หนึ่งใน Dive leader ของชุมพรคาบาน่าและพี่ป้อม(ครูสอนดำน้ำ) พาผม มาหยุดอยู่ที่แส้ทะเลกอหนึ่ง และชี้ให้ดูสัตว์ทะเลที่เกาะอยู่ที่แส้ทะเลต้นนั้น มีขนาดลำตัวประมาณ 6-7 เซนติเมตร

“กุ้งตัวยาว!!!!”(Sawblade shrimp) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tozeuma armatum

ผมอยากจะพูดออกมา(แต่ทำไม่ได้ เพราะน้ำจะเข้าปากซิครับ) แต่ในใจบ่งบอกถึงความตื่นเต้น ที่ได้เห็นตัวจริงของสัตว์ทะเลเมื่อซักครู่ที่ได้เห็นแค่บนหน้ากระดาษ

พวกเขาเป็นสัตว์เกาะติดครับ มักจะอยู่กับที่ไม่ไปไหน

มีลักษณะลำตัวยาวเรียวและแบนข้าง สีเดียวกับปะการังดำที่อาศัยอยู่ มักเกาะนิ่ง เพื่อพรางตัว

สำหรับอาหาร พวกเขากินเมือกและเศษตะกอนตามปะการังดำและกินแพลงตอนในเวลากลางคืนครับ

มักพบในเขตน้ำขุ่นพบทั้งอ่าวไทยและอันดามัน(แต่ก็ไม่ได้เจอกันง่ายๆนะ)

ลองสังเกตดูที่หัวและหางของพวกเขาครับ คุณว่าตรงไหนคือหัว ตรงไหนคือหาง?

ผมทราบมาภายหลังว่า บริเวณนั้น ไม่มีกุ้งตัวยาวอีกแล้ว อาจเป็นเพราะมีคนไปรบกวน หรือกุ้งอาจจะเปลี่ยนที่อยู่ ซึ่งผมก็ภาวนาให้เป็นอย่างหลังมากกว่า

...................................

สิงหาคม 2550 ผมได้มีโอกาสได้พบเพื่อนเก่าอีกครั้ง

คราวนี้พบที่อ่าวแห่งหนึ่ง ใกล้หินเด่น เกาะนางยวนครับ เป็น Night Dive เสียด้วย

คนหาก็ตาดีจริงๆ พวกเขามีขนาดเล็กมากครับ เกาะอยู่ที่แส้ทะเลชนิดเดิม ขนาดลำตัวไม่ถึง 5 เซนติเมตร(ต้องใช้แว่นขยายน่าจะดี 555)

ผมจ้องดูกุ้งตัวยาว อย่างมีความสุข นี่คือ หนึ่งในสุดยอดกุ้ง ที่นักดำน้ำ ถวิลหา

และหวังอย่างยิ่งว่า พวกเขาจะอยู่คู่ทะเลไทยต่อไป

ตราบนานเท่านานครับ

ขอขอบคุณ- หนังสือกุ้งทะเลไทย ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ,ปริญญา ลิมป์วิริยะกุล,ไพลิน จิตรชุ่ม