Tuesday, May 29, 2007

ปูประหลาด ชื่อ Xeno Crab







กุมภาพันธ์ ปี 2549 ใต้ผืนน้ำที่เกาะจวง เกาะเงียบสงบแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี สำหรับนักดำน้ำที่นี่ถือเป็นจุดดำน้ำที่ค่อนข้างปลอดภัยเพราะไม่ค่อยมีเรือสัญจรมากนัก หากเปรียบเทียบกับเกาะล้านและเกาะสาก

ครั้งแรกสำหรับการมาแสมสาร วันนั้นน้ำค่อนข้างใสมาก ใสจนผมต้องร้อง “ว้าว” ออกมาในใจ ดงปะการังอ่อน(Soft Coral) กว้างใหญ่ชนิดหนึ่ง สีเหลืองอมส้ม พลิ้วไหวไปกับกระแสน้ำ เมื่อตัดกับแสงแดดช่วง 11 โมง บวกกับสีฟ้าใสของน้ำทะเล เป็นภาพที่สวยงามมากครับ

ผมดูปูตัวหนึ่ง เกาะอยู่ที่แส้ทะเล(Sea Whip) รูปร่างของมันค่อนข้างประหลาด กระดองรูปหยดน้ำ มีตาใหญ่สีขาว ขาค่อนข้างเรียวเล็กและยาวมาก มีหนามขนาดใหญ่บนกระดอง มองเห็นแถบสีที่พาดยาวตามลำตัว ไม่เหมือนปูทั่วไป เจ้านี้ชื่อว่าปูซีโนแส้ทะเล (Xeno Crab) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Xenocarcinus tuberculatus

Xeno Crab เป็นปูกลุ่มหนึ่งที่เป็นญาติใกล้เคียงกับปูแมงมุม พบในอันดามันและอ่าวไทย มีสีสันหลากหลาย เช่น เหลือง ส้มอ่อน ขาว อาศัยอยู่กับแส้ทะเลในความลึก 15-20 เมตร เกาะอยู่นิ่งๆในเวลากลางวัน(เว้นแต่มีคนไปแกล้งมัน) เคลื่อนที่ในเวลากลางคืน

ตอนแรกผมนึกว่า คงผิดล่ะมั้ง ซีโนไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน เคยได้ยินเคยแต่ปูม้าลาย(Zebra Crab)แต่พอมาดูรูปจึงทราบว่า ไม่ใช่ แถมปูม้าลายหายากกว่ามาก(Zebra Crab จะอยู่กับเม่นทะเลครับ)

ผมพึ่งมาเปิดดูนิตยสาร nature explorer ฉบับเดือนมีนาคม ปี 2000 คุณนัท สุมนเตมีย์ ได้เล่าถึง Xeno Crab ที่เขาพบที่อันดามันใต้ บริเวณกองหิน Anemone Reef ใกล้กับหินมูสัง ซึ่งถือเป็น Xenocarcinus tuberculatus ตัวแรกๆที่มีรายงานการพบในประเทศไทย

ผมจึงได้ทราบว่า ที่อันดามัน ก็มีพวกเขาอยู่เช่นกัน

ใครเห็นควรดีใจไว้ครับเพราะ Xeno Crab ชนิดนี้จะอยู่กับแส้ทะเลเท่านั้นแถมเป็นชนิดที่อยู่ในน้ำลึก นักดำน้ำแบบสน็อคเกิ้ลถ้าอยากเห็นตัวเป็นๆใต้ทะเล ต้องโอนสัญชาติมาเป็นมนุษย์กบก่อนนะครับ

ท้ายสุดนี้ ผมชอบคำพูดของคุณนัท สุมนเตมีย์ มากครับ เลยอยากมาเล่าให้ฟัง “สิ่งที่ผมคาดว่าจะได้เห็นต่อไปในอนาคตนั่นก็คือ ภาพของนักดำน้ำที่สามารถจะชื่นชมกับสิ่งต่างๆรอบๆตัวได้โดยไม่ต้องจำกัดตัวเองอยู่กับความคิดว่าปลาตัวนี้หายาก หรือว่าปลาตัวนั้นเป็นปลาวิเศษอีกต่อไป แต่เป็นภาพของนักดำน้ำที่สามารถจะชื่นชมกับชีวิตต่างๆที่อยู่ใต้ท้องทะเลโดยไม่ยึดติดกับภาพบางอย่างที่เราสร้างขึ้นมา อาจจะเป็นครั้งที่ 20 แล้วที่เราได้เห็นปลาการ์ตูนกับดอกไม้ทะเลที่แสนธรรมดา แต่อาจจะเป็นครั้งแรกก็ได้ที่เราจะได้มีโอกาสได้เห็นความรักของพ่อและแม่ปลาการ์ตูนที่คอยเฝ้ารอวันที่ลูกน้อยจะออกมาจากไข่ หรือการเฝ้าดูพฤติกรรมต่างๆของสัตว์ที่เราคุ้นเคย ถ้าหากเราทำเช่นนั้นได้ การลงดำน้ำในที่เดิมซ้ำๆก็อาจมีความหมายมากขึ้นกว่าเพียงแค่การค้นหาสิ่งใหม่ๆเพื่อสนองความต้องการในการดำน้ำของเรา”

ถ้าในอนาคตทำได้จริงๆ คงจะดีไม่น้อยครับ เราอาจจะได้ยินคำว่า “ว้า ไดฟ์นี้มีแต่ปลาอมไข่ ไดฟ์นี้มีแต่ปลาค้างคาวก็เดิมๆ ไม่มีอะไรดูเลย ” น้อยลงก็ได้ น้ำเสียงค่อนข้างผิดหวัง ถูกต้องไหมครับ

เปลี่ยนเป็น “ผมเห็นปลาอมไข่และมันอ้าปาก เห็นไข่ในปากมันด้วยครับ หรือ หนูเห็นปลาค้างคาวกับลูกของมันด้วยค่ะ สีดำๆเหมือนใบไม้เลย”

ฟังน้ำเสียงแล้วดูดีกว่าไหมครับ

ขอขอบคุณ- นิตยสาร nature explorer ฉบับเดือนมีนาคม ปี 2000
-หนังสือปูทะเลไทย ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ,พันธุ์ทิพย์ วิเศษพงษ์พันธุ์
-หนังสือปลาทะเลไทย ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์,อนุวัติ สายแสง,บารมี เต็มบุญเกียรติ, นัท สุมนเตมีย์


Monday, May 14, 2007

“บ้านอบอุ่น” หนังสือสำหรับทุกเพศทุกวัย











ฟังดูตอนแรกหลายๆท่านอาจคิดว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งก็ถูกครับแต่ยังไม่ใช่ทั้งหมดเพราะ “บ้านอบอุ่น” เริ่มเรื่องราวตั้งแต่ก่อนมีคู่ครอง จนกระทั่งหนุ่มสาวได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน และได้กำเนิดอีกหนึ่งชีวิตขึ้นมา

พูดถึงปัญหา ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ทุกคนต้องเคยประสบมาแล้วทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าใครจะแก้ไขในวิธีใด บางคนมีปัญหาในการหาแฟนที่ถูกใจ บางคนมีปัญหาในการเลี้ยงลูก บางคนมีปัญหาในเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือบางคนมีปัญหาในการใช้เงิน เป็นต้น

อาจารย์ประวีณ พยับวิภาพงศ์ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้(เอ่อ เป็นพ่อของผมเองน่ะครับ) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ท่านได้ใช้ประสบการณ์จากการทำงานที่คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล การเป็นนักเขียนในนิตยสาร Good Life การเป็นวิทยากรในเรื่องโรคเอดส์ การใช้ชีวิตคู่ของท่าน เป็นต้น มาถ่ายทอดในหนังสือเล่มนี้

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง ค่อนข้างน่าสนใจและสอดคล้องในสถานการณ์ปัจจุบันครับ ผมจะยกตัวอย่างหัวข้อขึ้นมาเล็กน้อย เช่น 20 ข้อก่อนคิดจะมีคู่ , บทรักบนเตียงต้องเรียนรู้ , ใช้เงินอย่างไรให้ครบเดือน, คู่รักหรือคู่ซ้อม ,ตั้งครรถ์หรรษา, คุณสมบัติของเมียน้อย, ศิลปการเลี้ยงลูก เป็นต้น

หลายเรื่องที่บางท่านคิดว่าง่ายแต่ผมมั่นใจได้เลยว่า เวลาประสบกับปัญหาจริงๆ มันไม่ได้แก้ไขง่ายอย่างที่คิดครับ

พ่อผมพูดเสมอว่า “เวลาเอ็งมีลูก เอ็งก็จะรู้เองว่าการเลี้ยงลูกให้ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย” ตอกย้ำว่า การที่จะสร้างอีกหนึ่งชีวิตขึ้นมาได้อย่างที่หวังนั้น ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ง่ายๆ ทุกคน พ่อแม่บางคนประสบปัญหาลูกไปติดยาเสพติด ต้องขึ้นศาลเป็นคดีความทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง บางรายถึงขั้นหมดอนาคต นั่นไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่หวังไว้แน่นอนครับ

หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือที่ดีที่สุดแน่นอน แม้พ่อของผมจะเขียนหนังสือมานานแต่พึ่งจะออกเป็นพ๊อคเก็ตบุคเป็นครั้งแรก ในวงการนี้ ยังถือว่าเป็นนักเขียนหน้าใหม่อยู่ครับ

แต่หนังสือเล่มนี้จะสามารถทำให้ผู้อ่านทุกท่านได้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินชีวิต เมื่อเราต้องมีใครซักคน(ที่ไม่ใช่คนในครอบครัว) มาเดินเคียงข้าง เราจะสามารถพาใครคนนั้นไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ผมเชื่อว่า หลายเรื่องทุกท่านต้องร้องอ๋อ แน่นอนครับ

“บ้านอบอุ่น” ราคาปกขายในราคา 150 บาท


Sunday, May 06, 2007

ทำเรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยาก


หากคุณอยากดูโทรทัศน์ในห้องและในบ้านก็ไม่มีทีวีอีกแล้ว สิ่งที่ต้องทำ แน่นอนครับ ก็ต้องซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่ ใครๆก็ต้องทำเช่นนั้น

แต่ถ้าคุณมีจอคอมพิวเตอร์เปล่าๆ อยากจะใช้ดูทีวี จะทำอย่างไร? ผมจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังครับ

วันหนึ่งผมเดินไปที่ศูนย์ไอที สแควร์ หลักสี่ มีพนักงานหน้าร้านกำลังโฆษณาสินค้าตัวหนึ่งอยู่ นั่นคือกล่องสำหรับแปลงสัญญาณให้ดูโทรทัศน์ได้โดยไม่ต้องลงโปรแกรม ไม่ต้องเชื่อมต่อกับ CPU สนนราคาประมาณ 1,000 กว่าบาท (หลายคนอาจไม่ทราบว่า การดูทีวีจากคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ CPU ก็มีและเป็นเรื่องจริง!!!!!!)


ผมคิดทันทีว่า ถ้าผมมีจอคอมเปล่าๆ ผมจะไปหาซื้อเจ้านี้มาใช้ดูทีวีเพราะเคยได้ยินว่าจอคอมพิวเตอร์มีความละเอียดกว่าจอโทรทัศน์ธรรมดาๆ

จนไม่นานมานี้พี่ชายได้ขนจอทีวี LCD มาจากประเทศญี่ปุ่น ผมจึงจุดประกายเรื่องนี้อีกครั้ง

สิ่งที่ผมต้องทำคือ หาซื้อสายเสียบของจอรุ่นนี้(พี่ชายไม่ได้ขนกลับมาด้วยครับ) หาซื้อหม้อแปลงไฟเพราะไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นกับที่เมืองไทยไม่เหมือนกันครับ(ขืนเสียบก็ ตูม ไหม้ครับ) และหาซื้อกล่องสำหรับแปลงสัญญาณที่ว่า

เริ่มจากศูนย์การค้าฟอร์จูน ทาวน์(เยาฮัน)ซึ่งใกล้บ้านที่สุด ผมเดินหอบจอ LCD มาที่ร้านอมร ร้านที่เพียบพร้อมไปด้วยของใช้จิปาถะและช่างซ่อมฝีมือดี

“ไม่มีสายรุ่นนี้หรอกครับ ไปที่ศูนย์เถอะครับ แบบนี้หายาก” พนักงานขายพูด ขัดกับช่างซ่อมในร้านคนหนึ่งที่พูดกับผมว่าหาซื้อสายและตัวแปลงไฟไม่ยากเลย

ผมไม่ยอมแพ้เดินไปหาช่างซ่อมคนนั้น ซึ่งเขาบอกว่า ที่นี่น่าจะมีให้ลองเดินหาสายที่เป็นตัวแปลงไฟ(แบบของ Notebook เพราะสามารถใช้ด้วยกันได้แต่กำลังวัตต์ ต้องเท่ากัน)

เดินไปเดินมา ไปเจอกล่องสำหรับแปลงสัญญาณให้ดูโทรทัศน์ได้ในร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งปัญหาอยู่ที่ว่าตัวแปลงไฟของทางร้านไม่สามารถเสียบที่จอคอมได้เพราะเป็นคนละแบบ

ผมเดินหาอีกหลายร้านแม้จะเจอจำนวนวัตต์ที่เท่ากันแต่ก็ไม่สามารถเสียบเข้ากับจอคอมได้

ถ้าหาสายเสียบพร้อมตัวแปลงไฟไม่ได้ จอก็เปิดไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะซื้อกล่องสำหรับแปลงสัญญาณก็ไม่มีประโยชน์

ผมกำลังจะล้มเลิกโครงการทำเรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยากนี้แต่แล้วก็ฮึดสู้ ดื้อด้านลองเดินกลับไปที่ร้านอมรอีกครั้งเพราะเชื่อมั่นว่า ช่างซ่อมเก่งจะตาย น่าจะช่วยได้แหละ

เหมือนคุณไตรภพมอบรถเข็นให้ในรายการฝันที่เป็นจริง(เก่าสุดๆ) ช่างซ่อมคนหนึ่งบอกว่าถ้าหาตัวแปลงไฟในกำลังวัตต์ที่เท่ากันได้ เขาจะช่วยตัดสายและเปลี่ยนหัวใหม่ให้ ไม่ถึง 10 นาทีเสร็จ (อย่าดูถูก ภูมิปัญญาคนไทยครับ)

ในที่สุดจอก็เปิดติดครับ ภาพคมชัดดี คราวนี้ก็ได้ฤกษ์ยามดีที่จะไปซื้อกล่องสำหรับแปลงสัญญาณไปติดตั้งที่บ้าน จากการที่ฟังการอธิบายของพนักงานสาว การติดตั้งไม่ยาก ผมไปทำเองที่บ้านก็น่าจะได้

กลับมาบ้าน เสียบตาม Direction ทุกอย่าง ก็ไม่ติด จึงกลับไปที่ร้านอีกครั้ง พบว่าไม่ได้ซื้อสายmonitor มา 1 สาย แล้วภาพจะติดได้อย่างไรละเฮ้ย ไอ้เซ่อ!!!

และแล้วโทรทัศน์ใหม่ในห้องของผมก็ติดตั้งได้เสร็จสมบูรณ์แถมภาพคมชัดกว่าโทรทัศน์ทั่วๆไป

ใครอยากจะลองทำตามก็ได้ครับแต่ทุกท่านอาจคิดว่า ซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่น่าจะง่ายกว่ามั้งไอ้น้อง

ไม่เถียงครับพี่ ก็มันเรื่องจริงนี่นา