Sunday, October 29, 2006

เพื่อนสมุทรที่ไม่ได้อยู่ใต้สมุทร


พึ่งกลับจากงานกฐินพระราชทานที่สภาทนายความจัดขึ้นที่วัดโพธาราม อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์

ระหว่างทางผมเห็นสถานการณ์น้ำท่วมแล้วรู้สึกเห็นใจคนต่างจังหวัดมากครับ บ้านบางหลังท่วมเกือบมิดหลังคาบ้าน หากกรุงเทพไม่ได้พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการปล่อยน้ำให้ท่วมที่ดินส่วนพระองค์ กรุงเทพก็คงน้ำท่วมหนักกว่านี้แน่นอน

ขากลับผมได้มีโอกาสไปเที่ยวบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี แม้ผมจะเคยไปมาแล้วก็ตาม(รายละเอียด อ่านเรื่อง “เที่ยวบึงฉวากครับ”) การไปกฐินคราวนี้ ผมยอมรับว่าไม่ได้ต้องการบุญมากเท่าไร ความหวังคือต้องการไปเยี่ยมเพื่อนใต้ทะเลที่ถูกขังไว้ในอควอเรี่ยมนั่นแหละครับ(เจตนาซ่อนเร้นในทางกฎหมายนั่นแหละ) การได้เห็นพวกเขาแม้จะไม่สามารถช่วยให้ออกมาได้ แต่ก็ทำให้มนุษย์อย่างผม ใกล้ชิดพวกเขามากขึ้น

ผมชอบดูปลาทะเลมากกว่าจึงขอเว้าซื่อๆเลยแล้วกัน ในโซนแรกที่ยังสร้างไม่เรียบร้อยดีนักเมื่อคราวก่อน คราวนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนนี้ก็จะมีปลาน้ำจืดเป็นส่วนมาก มีปลาทะเลอยู่ 3 ตู้ ตู้แรกจะเป็นปลาโนรี(Longfin Bannerfish) อีกตู้จะเป็นปลากระพง(Snapper)(จำชื่อไม่ได้ครับแต่มีลายสีเทาพาดผ่าน 3 ลาย ลำตัวมีสีเงิน) ตู้สุดท้ายเป็นปลาไหลมอเรย์จุดขาว(White-spotted moray)(กรี๊ดที่ 1 ) หายากครับในทะเลไทยส่วนใหญ่เราจะเจอปลาไหลมอเรย์ยักษ์(Giant moray eel)ซะมากกว่า ผมมองดูเข้านานหน่อยหวังไว้ว่าจะได้มีโอกาสเจอเขาอีกครั้ง ในบ้านที่เขาอยู่จริงๆ

ด้านข้างจะมีบ่อปลา(ลักษณะเป็นแบบ Touch Pool ที่ Under water world pattya) แต่ผมก็ไม่คิดที่จะใช้มือจับครับ ในนั้นมีปลากระเบนทอง(Blue-spotted ribbontail ray)ที่ผมแน่ใจว่าไม่ใช่ปลากระเบนจุดฟ้า(Blue spotted stingray)เพราะดูลักษณะลำตัวที่เป็นรูปวงรี ไม่ใช่รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน(ที่ทราบเพราะถ่ายวีดีโอมาแล้วมาดูภาพแล้วหยุด เปรียบเทียบกับหนังสือ อ ธรณ์จ้า ไม่งั้นแย่แน่)

กรี๊ดที่ 2 อยู่ในนี้ครับ ลูกปลาฉลามที่เขียนว่า Zebra Shark ตอนแรกผมคิดว่าเป็นปลาที่เจอในเมืองนอกเพราะไม่คุ้นเอาซะเลย แต่พอได้กลับมาค้นคว้าแล้วมาดูวีดีโอและเปิดหนังสือ Shark and Ray ที่เจ้าเพื่อนที่แสนดีซื้อมาฝากจากอังกฤษ(ขอบใจมากเพื่อนมีประโยชน์มากเลย) zebra shark ของเมืองนอกก็คือ Leopard shark(ฉลามเสือดาว) ของเมืองไทยเรานั่นเอง ส่วน leopard shark จริงๆของเมืองนอกจะเป็นอีกตัวครับ(triakis semifasciata ลองไปหาดูนะครับ) ไม่ต้องห่วงว่าจะสับสนเพราะไม่มีในเมืองไทยจ้า(ตัวพ่อน่ะหาไม่ยากในเมืองไทย แต่ตัวลูกบอกตามตรงว่าผมยังไม่เคยเห็นรูปถ่ายในเมืองไทยเลยครับ จะว่าไปทั้งตัวพ่อที่ว่าหาง่ายผมก็ยังบื้อไม่เคยเห็นเลยครับ)

กรี๊ดที่ 3 ก็อยู่ในนี้เช่นกันครับ ปลาค้างคาว(Pinnate Batfish) ที่หายากอีกเหมือนกันในเมืองไทย (3 กรี๊ดแล้วนะ มันมีความรู้สึกว่าทำไมต้องมาเห็นครั้งแรกในตู้ด้วยหนอ เฮ้อ) ส่วนใหญ่เราจะเจอปลาหูช้างครีบยาว(Teira Batfish)มากกว่าครับ ปลาค้างคาวน่ารักมาก ขี้เล่นว่ายขึ้นมาทักทายผมด้วยล่ะ(เสียใจจ้า ดูอย่างเดียว ก็แค่ยิ้มดีใจเฉยๆจะดีกว่า )

กรี๊ดสุดท้าย อยู่ในตู้อีก 1 ห้องครับ อันนี้ผมร้องดังมาก Rockmover!!!!! ปลานกขุนทองพลิกหิน(Rockmover Wrasse) ว่ายน้ำเร็ว มีอุปนิสัยชอบคาบหินผลักหาเหยื่อที่ซ่อนอยู่ข้างใต้ พี่เอ รุ่นพี่ในการดำน้ำถ่ายรูปไว้ตอนไปอันดามันใต้ ผมหวังอย่างยิ่งว่าจะไปเห็นพวกเขาตัวจริงที่นั่นให้ได้ (จะมีซักกี่คนหนอที่จะทราบว่า ที่อยู่ในตู้เนี่ย มีตัวหายาก)

บอกได้เลยครับว่าที่ผมกล่าวมาน้ำเสียงแบบกระเทยว่ากรี๊ดๆๆ นั้นน่ะ หายากทั้งนั้น แต่ตัวอื่นๆแม้จะหาง่ายกว่านั้นสถานที่ที่พวกเขาอยู่อย่างมีความสุขจริงๆก็คือ “บ้าน” แน่นอนครับ

การกลับมาบึงฉวากในครั้งนี้ทำให้ผมได้ความรู้ขึ้นมาก ขอบพระคุณ โอกาสที่ทำให้ผมได้มาพบเจอพวกเขาครับ



หมายเหตุ : โลซิน คืบหน้าไปมาก เหลืออีก 3 ไดฟ์เท่านั้นครับ รอหน่อยนะ

จริงๆยังมีกรี๊ดสุดท้ายครับ ลืมไปหน่อย คือเจ้าปลาฉลามครีบดำ(blacktip Shark) ครับ




Phop Payapvipapong

29-10-2006

23:50

Monday, October 23, 2006

ความโศกเศร้าที่เกาะง่ามน้อย


อาจจะเป็นโชคดีของผมที่ไม่สามารถลงไปกับกลุ่มในไดฟ์นี้ได้ เพราะตะกั่ว 5 ก้อนที่เคยใช้ได้ดีกับ Wet Suit ยาว กลับไม่สามารถทำให้ตัวผมจมลงไปได้ ทั้งนี้เพราะกระแสน้ำที่เกาะง่ามน้อยในวันนี้เป็นกระแสน้ำไหล(มาก)

แม้ผมจะเคาะ Pointer เรียกให้กลุ่มทราบว่าลงไม่ได้ แต่ก็เปล่าประโยชน์ ครูชาลี(แห่งชุมพรคาบาน่า) พี่กุ้ง(นักดำน้ำเพื่อนพี่จิน)และพี่โหน่ง(นักเรียนวชิราวุธรุ่น 56) หายไปกับน้ำที่ขุ่นในระดับที่ 2-3 เมตร ไม่สามารถมองเห็นได้(ความจริงพวกเขารออยู่ซักพักบริเวณใต้เรือ แล้วจึงไปต่อ)

ผมเริ่มลอยไปตามกระแสน้ำเรื่อยๆเพราะตีขากลับเข้าเรือไม่ไหว จากนั้นไม่นานนักนั้นพี่ว่อง(กัปตันเรือ คาบาน่า 3 )ตีขาเข้ามาหาพร้อมห่วงยาง นอกจากนี้พี่ว่องยังใส่ตะกั่วใน BCD ให้ผมอีก 1 ก้อนด้วย

พี่ว่องยังถามอีกว่าจะขึ้นเรือหรือไปต่อ ผมขอพี่ว่องลงดำบริเวณแนวปะการังแถวนี้ เพื่อสำรวจทัศนียภาพ ที่สำคัญแม้ผมจะไม่มี Dive Computer แต่ผมรู้ขอบเขตของตัวเองดี จึงตัดสินใจที่จะดำบริเวณขอบแนวปะการัง(ติดเขาหินปูน)และดำกลับไป-มาหลายๆรอบ เพื่อสำรวจพฤติกรรมสัตว์ทะเล

ในระดับความลึกไม่เกิน 6 เมตร ผมสามารถใช้เวลาที่นี่ได้ยาวนาน ผมพบปลาอมไข่ห้าเส้น(Fine-lined cardinalfish) ปลาผีเสื้อเหลืองชุมพร(Weibel’s Butterflyfish) ปลาผีเสื้อแปดขีด(Eight-banded Butterflyfish) ปลาพยาบาล(Bluestreak Cleaner Wrasse) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีดงดอกไม้ทะเลขนาดใหญ่และปลาการ์ตูนอินเดียนแดง(Pink Anemonefish)จำนวนมาก ที่ทำปากน่ารัก ขมุบขมิบ เหมือนจะบอกว่า “นายเจ๋งนักเหรอ มาสู้กับเราหน่อยเป็นไง”

ทันใดนั้นผมพบแหของชาวประมงขนาดใหญ่ ยาวหลายเมตร ความรู้สึกที่ปลาบปลื้มกับการได้มาฉายเดี่ยว แหวกว่ายท่ามกลางสรรพสัตว์เปลี่ยนไปเป็นความโศกเศร้า ในนั้นมีปลาผีเสื้อแปดขีด(Eight-banded Butterflyfish) ติดอยู่ 3 ตัว ทุกตัวไม่ขยับเขยื้อน ไม่มีแม้กระทั่งสายตาร้องขอวิงวอน มีเพียงสายตาที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่ไม่สามารถกลับบ้านไปหาครอบครัวได้อีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีปลาสลิดหินอีก 2-3 ตัว ที่พบชะตากรรมเช่นเดียวกัน ลำตัวเปื่อยยุ่ยจากการถูกแทะของปลาต่างๆที่หิวโหย

ทำไมล่ะ? เกาะง่ามน้อยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ซึ่งถือเป็นทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญของเราทุกคน มีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องดูแล กลับมีคนบางส่วนที่เห็นแก่ตัวลักลอบเข้ามา จนเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

ผมพยายามใช้ Pointer สั้นๆที่มีอยู่ 1 อัน ดึงแหขึ้น แต่ดูเหมือนจะเป็นการเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง อีกอย่าง หากผมลงคลุกไปเต็มๆ อาจจะถูกแหพันรอบตัว และผมอาจจะไม่ได้ขึ้นมาบอกเล่าความรู้สึกนี้ให้ทุกท่านฟัง

ผมทำได้เพียงขอร้องคุณเวียนนา(Werner)และ Staff ของชุมพรคาบาน่าคนอื่นๆให้ช่วยตัดแหนี้ออกด้วย ในการมาดำน้ำในวันรุ่งขึ้น(เพราะเราต้องกลับกันแล้ว) โดยมีความหวังว่า หากมาคราวหน้า คงไม่เห็นภาพอันหน้าสลดใจเช่นนี้อีก

บางคนอาจคิดว่า ผมโอเวอร์ แค่ปลาเพียงไม่กี่ตัว ทำมาพูด แถมปลาที่ติดแหก็มีมากอยู่แล้วในธรรมชาติ ลองคิดดีๆซิครับ หากคราวหน้า แหของผู้ไม่หวังดีลงมาที่ดงดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนอินเดียนแดง หรือเจ้าเต่ากระ(Hawksbill Turtle)แสนเชื่อง หรือเจ้ายักษ์ใหญ่ผู้ใจดีอย่างฉลามวาฬ(Whale Shark) คุณคิดว่าพวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง คุณจะได้เห็นภาพน่ารักๆของพวกเขาอีกไหม?

ผมคงไม่โทษว่าเป็นความผิดของใคร เพราะทรัพยากรเป็นของเราทุกคน เราทุกคนต้องสอดส่องดูแลเพื่อรักษาทรัพยากรของลูกหลานเราไว้

ผมไม่มีส่วนได้เสียกับองค์กรใดๆทั้งสิ้น ไม่ได้ร่ำเรียนมาทางด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล ไม่ได้มีใครสั่ง ไม่ได้มีใครสอน ให้เขียนบทความนี้ขึ้นมา ความรู้ที่ได้เกิดจากการอ่านหนังสือปลา เกิดจากการเข้าเว็บเกี่ยวกับทะเลเกิดจากการดูโทรทัศน์และเกิดจากการสอบถามผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านทะเลทั้งนั้น ผมเป็นเพียงนักดำน้ำคนหนึ่ง ที่มีจิตใจอนุรักษ์ อยากดำน้ำชมสัตว์ทะเลเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง เพื่อผ่อนคลายความเครียดหลังจากที่เสร็จสิ้นการสอบหรือการทำงาน ไม่อยากเห็นภาพเช่นนี้เกิดขึ้น เวลาไปดำน้ำอีก

หากเราไม่ใส่ใจตั้งแต่วันนี้ อาจจะถึงวันที่ “คนไทยทุกคนเป็นผู้แพ้”อย่างที่ ด.ร ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ เคยกล่าวไว้ในหนังสือทะเลไทยก็ได้)

ผมเชื่อว่า ไม่มีใครอยากให้ถึงวันนั้นครับ



Kasab

(Phop Payapvipapong)

23/10/2006

12:52 pm






ขออภัยที่บทความนี้ต้องออกมาก่อน เรื่องไปดำน้ำที่โลซินและเรื่องไปดำน้ำที่ชุมพรที่ผ่านมา เพราะอยากจะสื่อเฉพาะตอนให้ทุกๆคนได้รับรู้จริงๆ เขียนเสร็จแล้วจะมาโพสให้อ่านนะครับ(ตอนเขียนน้ำตาคลอเบ้าด้วยครับ โอเวอร์สุดๆเลย)